ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

แดงดอกไม้ โดย กาหลิบ


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง แดงดอกไม้
โดย กาหลิบ

ในระหว่างกิจกรรมของมวลชนคนเสื้อแดงอันหลากหลาย ทั้งในนาม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน และกลุ่มอื่นๆ มีข้อคิดความเห็นบางอย่างที่ขอฝากไว้ในฐานที่รักกันชอบกัน เพื่อขบวนประชาธิปไตยของเรา

ขณะนี้ถือได้ว่าฝ่ายประชาธิปไตยได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ไทยในเชิงระบอบแล้ว เพียงแต่เป็นการพลิกในระยะต้นที่ยังมีภารกิจคอยให้ทำอีกมาก ผลสัมฤทธิ์ที่ชัดในกระบวนการนี้ คือมวลชนผู้ก้าวหน้า ใฝ่รู้ และหนักแน่นมั่นคงทางอุดมการณ์

สามข้อนี้คือคุณลักษณะสามประการที่ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ปียังมีคนปรามาสอยู่ว่าคนไทยไม่มีก้าวหน้า คือพร้อมเคลื่อนตัวเองจากการติดหล่มเชิงระบอบ จากความเชื่อที่ฝังหัวแต่เดิมว่าเราต่างมีผู้ปกครองที่ดีวิเศษอย่างหาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ จนไม่จำเป็นต้องปกครองตัวเองตามแนวทางประชาธิปไตยและไม่จำเป็นต้องมีระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำ

ใฝ่รู้ คือความกระหายที่จะรู้ความจริงเกี่ยวกับบ้านเมืองและผู้ปกครองที่มีอำนาจเหนือชีวิตของตนเองโดยสละความสุขส่วนตนเดินทางไปร่วมชุมนุม ร่วมกลุ่ม (ในทุกระดับ) และร่วมรับส่งข้อมูลจนความรู้ความเข้าใจแผ่ออกไปในวงกว้าง

หนักแน่นมั่นคงทางอุดมการณ์ คือความมั่นใจว่าแนวทางที่ตนเองยึดถือถูกต้อง ไม่วอกแวกไม่วูบวาบ ไม่หลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อด้วยวิธีการที่หลากหลายของฝ่ายตรงข้ามง่ายเหมือนก่อน

มวลชนที่ได้คุณภาพและประสิทธิภาพถึงขนาดนี้ เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติแล้ว ใครประกาศตนเองว่าเป็นผู้นำ แกนนำ หรือองค์กรนำมวลชนเสื้อแดง จะต้องยอมรับนับถือสิ่งเหล่านี้เสียก่อน

คนที่ลุ่มหลงว่าฉันคือ “กูรู้” ถึงขนาดยกตัวเองขึ้นเป็นครูบาอาจารย์ของทุกคน แถมยังขืนใจให้เขาน้อมตัวเป็นลูกศิษย์โดยที่เขาไม่เต็มใจ แสดงว่าคนๆ นั้นยังขาดวุฒิภาวะที่สำคัญของผู้นำในแนวประชาธิปไตย นั่นคือ ความยอมรับนับถือในเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างบริสุทธิ์ใจ โดยไม่มีลักษณะข่มหรืออวดเบ่ง
อัตตาสูงชนิดนี้ หากยังคงมีในระบบความคิด มันจะคอยบังตามิให้เห็นความจริงว่ามวลชนของเรามีความก้าวหน้า มีนิสัยใฝ่รู้ และมีความหนักแน่นมั่นคงทางอุดมการณ์

ความไว้วางใจในมวลชนก็จะเหลือเพียงน้อยนิด และสุดท้ายก็จะเห็นมวลชนเป็นเพียงส่วนย่อยของระบบใหญ่ที่ตนเป็นเจ้า ในที่สุดก็จะกลายเป็นเผด็จการไปโดยไม่รู้ตัว

ทำไมมวลชนแดงของเราจึงไม่เป็นแดงดอกไม้ ที่ชูช่อไสวสวยงามอย่างหลากสีหลากพันธุ์และอยู่ร่วมกันได้ในแปลงเดียวกัน?

หากเจตนาเป็นเช่นนี้ก็ง่าย ผู้นำและองค์กรนำจะต้องยอมรับความหลากหลายแตกต่างเสียก่อน ไม่ด่วนตัดสินโครมครามลงไปว่าฉันถูกเธอผิด ไม่มีแดงแท้-แดงเทียม ไม่มีคนที่อุดมการณ์เข้มจัดเกินกว่าใครเสมือนว่าศีลสูงกว่าคนอื่นๆ แต่ยอมรับว่าทุกคนอยู่ในเส้นโค้งแห่งการเรียนรู้ และสุดท้ายก็จะตาสว่าง (ก้าวหน้า) อย่างเดียวกันได้

มวลชนและกลุ่มพลังต่างๆ เองก็ไม่ควรด่วนตัดสินว่าผู้นำและองค์กรนำนั้นเลวหรือดี หากพิสูจน์ไม่ได้ถึงข่าวลือและการให้ร้ายต่างๆ ทั้งส่วนรวมและส่วนตัว ในขณะที่เขายังดำรงจุดยืนสาธารณะเพื่อมวลชนอยู่โดยไม่ออกนอกแนวทาง เราควรยกประโยชน์ให้จำเลยไปก่อน วันหลังว่ากันใหม่ ถ้าเราไม่หนักแน่นอย่างนั้นเราจะไม่เหลือคนทำงานในฝ่ายประชาธิปไตยเลย

ธรรมชาติมีความลึกซึ้งสุขุมยิ่งในการเลือกพันธุ์คัดพันธุ์ ต้นไม้ใบหญ้าจึงสวยงามลงตัวมีสมดุล หากเราดูแบบธรรมชาติเสียบ้าง ขบวนการใดๆ เพื่อมวลชนจะยกระดับตัวเองได้ง่าย

อย่าลืมว่าเสื้อแดงเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

ใครคิดแข่งกับเหลือง ชมพู และหลากสีโดยใช้วิชามารเยี่ยงเขา จะพบว่าไร้ประสิทธิภาพและไม่สามารถรักษาความรักนับถือจากมวลชนได้นาน เพราะไม่เป็นธรรมชาติ

ฝากแนวคิดแดงดอกไม้ไว้ตรงนี้ครับ.

-----------------------------------------------------------------------
สนับสนุน "กาหลิบ" และทีมงาน สมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /บล็อก : http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น