ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เข้าใจเพื่อน โดย กาหลิบ


คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : เข้าใจเพื่อน
โดย : กาหลิบ

ถามกันมากว่า เบื้องหลังการลาออกของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร จากตำแหน่งที่ปรึกษาในกัมพูชาทั้งสองตำแหน่งคือที่ปรึกษาของราชอาณาจักรและที่ปรึกษารัฐบาลนั้น เกิดจากความขัดแย้งระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีไทยกับผู้นำกัมพูชา หรือกัมพูชาปรับเปลี่ยนนโยบายต่อฝ่ายประชาธิปไตยไทยแล้วหรืออย่างไร

สอบถามจากเพื่อนฝูงที่มีอยู่บ้าง ได้ความว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ทั้งหมดคือมารยาทของฝ่ายไทยที่เป็นห่วงภาระทางการเมืองที่ฝ่ายกัมพูชาเขาได้รับอยู่เท่านั้นเอง

ความจริงทางกัมพูชาก็ตอบกลับมาก่อนหน้านี้ว่า อย่าห่วง ความกดดันใดๆ จากฝ่ายไทยไม่ได้มีผลอะไรต่อเขาเลย

ตรงกันข้าม เมื่อเจ้าของประเทศไทยสั่งฆ่าประชาชนของตนเองอย่างโหดเหี้ยมกับสำแดงนิสัยคนพาลในกรณีปราสาทพระวิหารออกมาชัดแจ้ง ยิ่งทำให้กัมพูชาได้เพื่อนบ้านใกล้เคียงมาเป็นพวกเพิ่มอีก เพียงแต่เขาไม่แสดงออกให้กระเทือนซางกันเท่านั้น

ไม่มีความจำเป็นที่คุณทักษิณต้องลาออก

อดีตนายกรัฐมนตรีก็ได้แต่ขอบคุณ และสนองถ้อยคำไปว่า การสนับสนุนต่อฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งกัมพูชาแสดงออกตลอดมานั้น ก็ซาบซึ้งอยู่นักหนาแล้ว จะให้ตัวเองถ่วงน้ำหนักการทูตต่อไปโดยไม่ได้เข้าไปช่วยอะไรให้เต็มที่ตามความตั้งใจนั้นก็ไม่ใช่นิสัย จึงขอตัวก่อน

ทางกัมพูชาก็เข้าใจ กราบบังคมทูลให้พระเจ้าอยู่หัวสีหโมนีทราบฝ่าละลองธุลีพระบาทแล้วก็หมดขั้นตอนกันไป ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลนั้นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ได้แจ้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ตามระเบียบ

ความสัมพันธ์ทางใจไม่ถูกกระทบกระเทือนอะไร เพราะจะให้เปลี่ยนใจจากประชาธิปไตยไปสู่โจร ประเทศที่โผล่พ้นน้ำมาแล้วอย่างเขาคงทำไม่ได้

แต่รัฐบาลไทยก็ฉวยโอกาสนี้ส่งเอกอัครราชทูตกลับไปประจำการที่กรุงพนมเปญ หลังจากที่แอบส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมาเพิ่มเติมก่อนหน้านี้แล้วนับสิบคน ในภารกิจลับเพื่อเอาใจเจ้าของประเทศไทย


การเอาทูตใส่ถาดกลับมาเช่นนี้ มองตามตัวอักษรแล้วก็ผิดธรรมเนียม เพราะการยกระดับความสัมพันธ์จะต้องเกิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ไม่ใช่จากการลาออกของอดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่ไม่เกี่ยวอะไรกับฝ่ายกัมพูชาเขา

ท่าทีละล่ำละลักอย่างนี้ส่อแสดงว่า ผู้มีอำนาจเมืองไทยในยุคนี้คงกลัวที่จะทำสงครามกับกัมพูชาเหลือเกิน

ท่าทีเก่งกาจที่แสดงออกมาตั้งแต่นายถึงพลนั้น ความจริงปากกล้าขาสั่นกันทั้งนั้น

สงครามนั้น ไม่ใช่ของดี ลดเงื่อนไขให้สงครามห่างตัวไปได้ก็เป็นเรื่องที่ควรสาธุการ แต่ปัญหาคือผู้มีอำนาจไทยเขาไม่ได้กลัวในมุมนั้น เขากลับกลัวว่าหากเกิดการปะทะด้วยกำลังขึ้นมา จะฉาวโฉ่ไปทั่วโลกว่ากรณีพิพาทครั้งนี้เกิดขึ้นจากความพาลหาเรื่องของฝ่ายไทย เพียงเพื่อสนองตอบตัณหาการเมืองภายในประเทศของคนแก่ตกโลกบางคนเท่านั้น หาสาระใดๆ ให้เขาเคารพนับถือไม่ได้เลย

รู้อย่างนี้ก็เลยรีบส่งทูตแบบอ้าขาผวาปีก ให้ได้อายกันอีกรอบหนึ่ง เรื่องนี้วงการทูตอาเซียนเขาก็หัวเราะกันคิกคักกันอยู่

ดร.ทักษิณ ชินวัตร ยึดอะไรเป็นเป้าหมายใหญ่และวิถีใดเป็นถนนสายหลัก ชาวประชาธิปไตยทั่วไทยและทั่วโลกเขาก็คอยให้ท่านชี้ชัดอยู่ แต่ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาที่ได้แสดงออกมาคราวนี้ ก็ได้รับความชื่นชมจากผู้คนที่เขาจ้องมองอยู่มาก เพราะเห็นว่าท่านช่วยให้ขบวนประชาธิปไตยมั่นคงแข็งแรงขึ้น

เพราะขบวนนี้ยังต้องเดินกันอีกไกลนัก.

--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวSMSของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น