ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ฝันเปียก โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : ฝันเปียก
โดย : กาหลิบ
พรรคพวกเราเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจกันที่พรรคเพื่อไทยไม่กี่วันมานี้ เขาเล่าว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ที่หวังจะได้เป็นทั้งหลายต่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะได้ลงเลือกตั้งกันทั้งนั้น ขนาดใครทักถามเบาๆ ว่าเลือกแล้วจะได้ประชาธิปไตยคืนมาหรือ ก็ถึงกับตวาดว่าอย่างไรก็จะต้องมีเลือกตั้งและฉันจะลงเลือกตั้งอย่างแน่นอนร้อยพันเปอร์เซ็นต์
มวลชนผู้ได้รับบทเรียนจากมายาของระบอบเผด็จการโบราณมาจนอิ่ม ก็ทำตาปริบๆ ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่โง่
ทั้งนี้ก็มิใช่ว่าผู้คนอยากเลือกตั้งนั้นโง่ เราเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็ย่อมอยากได้ชัยชนะในวิถีทางอย่างนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นปลาที่ยังว่ายอยู่ในน้ำ
คนเข้าพรรคการเมืองก็ย่อมอยากลงสมัครรับเลือกตั้ง
คนสมัครรับเลือกตั้งย่อมวาดหวังจะได้รับเลือกตั้งจากประชาชน
พรรคที่ลงเลือกตั้งก็วาดหวังได้เสียงข้างมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้
เพราะคนการเมืองอยากได้อำนาจรัฐมาชี้นำบ้านเมืองตามที่ตนเห็นควร
เรื่องเหล่านี้เป็นศีลหรือความปกติของระบอบประชาธิปไตย ไม่ผิดอะไรที่ไหนเลย
แต่ที่เรานั่งท้วงติงจนถึงขั้นฉุดกระชากลากขากันอยู่ทุกวันนี้ เพราะการวิเคราะห์สถานการณ์ยังมีปัญหาอยู่มากในหมู่คนการเมือง คนที่ไม่เข้าใจเลยนั้นมีบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่คือคนที่เข้าใจซาบซึ้งดีว่าอะไรมันส่งคำสาปมาสู่ระบอบประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลาจากเบื้องหลัง แต่กลับเลือกที่จะรับมือกับปัญหาต่างกัน
เรื่อง : ฝันเปียก
โดย : กาหลิบ
พรรคพวกเราเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจกันที่พรรคเพื่อไทยไม่กี่วันมานี้ เขาเล่าว่าท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ที่หวังจะได้เป็นทั้งหลายต่างกระเหี้ยนกระหือรือที่จะได้ลงเลือกตั้งกันทั้งนั้น ขนาดใครทักถามเบาๆ ว่าเลือกแล้วจะได้ประชาธิปไตยคืนมาหรือ ก็ถึงกับตวาดว่าอย่างไรก็จะต้องมีเลือกตั้งและฉันจะลงเลือกตั้งอย่างแน่นอนร้อยพันเปอร์เซ็นต์
มวลชนผู้ได้รับบทเรียนจากมายาของระบอบเผด็จการโบราณมาจนอิ่ม ก็ทำตาปริบๆ ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่โง่
ทั้งนี้ก็มิใช่ว่าผู้คนอยากเลือกตั้งนั้นโง่ เราเป็นฝ่ายประชาธิปไตยก็ย่อมอยากได้ชัยชนะในวิถีทางอย่างนี้ทั้งนั้น เพราะเป็นปลาที่ยังว่ายอยู่ในน้ำ
คนเข้าพรรคการเมืองก็ย่อมอยากลงสมัครรับเลือกตั้ง
คนสมัครรับเลือกตั้งย่อมวาดหวังจะได้รับเลือกตั้งจากประชาชน
พรรคที่ลงเลือกตั้งก็วาดหวังได้เสียงข้างมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้
เพราะคนการเมืองอยากได้อำนาจรัฐมาชี้นำบ้านเมืองตามที่ตนเห็นควร
เรื่องเหล่านี้เป็นศีลหรือความปกติของระบอบประชาธิปไตย ไม่ผิดอะไรที่ไหนเลย
แต่ที่เรานั่งท้วงติงจนถึงขั้นฉุดกระชากลากขากันอยู่ทุกวันนี้ เพราะการวิเคราะห์สถานการณ์ยังมีปัญหาอยู่มากในหมู่คนการเมือง คนที่ไม่เข้าใจเลยนั้นมีบ้างแต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่คือคนที่เข้าใจซาบซึ้งดีว่าอะไรมันส่งคำสาปมาสู่ระบอบประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลาจากเบื้องหลัง แต่กลับเลือกที่จะรับมือกับปัญหาต่างกัน
บางคนทำแกล้งโง่ ข้าก็จะทำเป็นสู้กับประชาธิปัตย์ เนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล โดยไม่แสดงให้โลกภายนอกรู้ว่าข้ารู้ว่าสู้อยู่กับใคร เพื่อจะได้ไม่ถูกอำนาจลึกลับเล่นงาน
บางคนทำแกล้งโง่ คิดในใจว่าเถ้าแก่คงไม่ชนะเกมการเมืองเที่ยวนี้หรอก แต่ข้าทำเป็นฟิตปั๋งล่อหลอกแกไปเรื่อยๆ เอาเงินมาใช้เลี้ยงครอบครัวและบริษัทบริวารทางการเมืองไปพลางก่อน
บางคนทำแกล้งโง่ คิดในใจว่าเถ้าแก่คงไม่ชนะเกมการเมืองเที่ยวนี้หรอก แต่ข้าทำเป็นฟิตปั๋งล่อหลอกแกไปเรื่อยๆ เอาเงินมาใช้เลี้ยงครอบครัวและบริษัทบริวารทางการเมืองไปพลางก่อน
บางคนทำเนียน กับสื่อมวลชนวางตัวเป็นนักเลือกตั้งไม่กระโตกกระตาก แต่กับกลุ่มมวลชนผู้ตาสว่างแกล้งทำเป็นแนวปฏิวัติ เหมือนจะเอาตำแหน่ง ส.ส. ไปพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินอะไรทีหลังโน่น
บางคนสิ้นหวังมาจากเวทีราชประสงค์ ก็เลยไม่อยากคิดอะไรมากแล้วนอกจากเลือกตั้ง เลือกตั้ง และเลือกตั้ง เหมือนเอ่ยบ่อยๆ มันจะเป็นประชาธิปไตยขึ้นมาได้เอง ใครทักก็มักจะโกรธเพราะในใจตัวเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อ
แต่ความอยู่รอดทางการเมืองของใครไม่ใช่ประเด็นของพรรคเพื่อไทย ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเห็นการเลือกตั้งเป็นยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธีต่างหาก?
ถ้าสับสนในประเด็นนี้จะกลายเป็นอวิชชาขึ้นมากลางพรรค และอาจนำพาขบวนประชาธิปไตยทั้งขบวนตกรางเหมือนรถไฟเหาะตีลังกาที่ถลาลงสู่พื้นดินได้
หากเลือกตั้งเป็นยุทธวิธี เอาการมีส่วนร่วมของมวลชนไปสร้างเครือข่ายและเสริมความแข็งแกร่งของระบอบประชาชน โดยหวังชัยชนะแท้จริงที่อยู่เหนือระบบเลือกตั้งขึ้นไป อย่างนี้พอมีหวัง
แต่ความอยู่รอดทางการเมืองของใครไม่ใช่ประเด็นของพรรคเพื่อไทย ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเห็นการเลือกตั้งเป็นยุทธศาสตร์หรือยุทธวิธีต่างหาก?
ถ้าสับสนในประเด็นนี้จะกลายเป็นอวิชชาขึ้นมากลางพรรค และอาจนำพาขบวนประชาธิปไตยทั้งขบวนตกรางเหมือนรถไฟเหาะตีลังกาที่ถลาลงสู่พื้นดินได้
หากเลือกตั้งเป็นยุทธวิธี เอาการมีส่วนร่วมของมวลชนไปสร้างเครือข่ายและเสริมความแข็งแกร่งของระบอบประชาชน โดยหวังชัยชนะแท้จริงที่อยู่เหนือระบบเลือกตั้งขึ้นไป อย่างนี้พอมีหวัง
ไม่กลายเป็นปลาที่มองไม่เห็นน้ำ
แต่ถ้ายึดมั่นถือมั่นว่าเลือกตั้งคือยุทธศาสตร์ เอาเป็นเป้าหมายสูงสุดชนิดที่ชีวิตนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้วนอกจากรัฐสภา โดยไม่มีมาตรการใดๆ อีกเลยที่จะต่อสู้ฟาดฟันกับเจ้าของระบอบเผด็จการโบราณและอำมาตย์ผู้เป็นขี้ข้าสามัญ ความหวังนั้นก็จะลดสภาพลงเป็นเพียงความฝัน
แต่ถ้ายึดมั่นถือมั่นว่าเลือกตั้งคือยุทธศาสตร์ เอาเป็นเป้าหมายสูงสุดชนิดที่ชีวิตนี้จะไม่ไปไหนอีกแล้วนอกจากรัฐสภา โดยไม่มีมาตรการใดๆ อีกเลยที่จะต่อสู้ฟาดฟันกับเจ้าของระบอบเผด็จการโบราณและอำมาตย์ผู้เป็นขี้ข้าสามัญ ความหวังนั้นก็จะลดสภาพลงเป็นเพียงความฝัน
ฝันเปียกเสียด้วย.
--------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น