ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ลูกน้องอันตราย โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : ลูกน้องอันตราย
โดย : กาหลิบ
สังเกตอาการแสดงออกต่างๆ ของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ในระยะนี้แล้วก็ออกจะขำ คงจะลืมนัดกันว่าควรจะสื่อสารให้สอดคล้องต้องกันอย่างไร ถึงได้ออกมาคนละแควอย่างนี้
ก็เรื่องขบวนการเสื้อแดงกับข้อกล่าวหาเรื่องเจ้านี่ล่ะครับ
กองทัพบกใหม่ ในยุคที่นักเต้นรำได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก กำลังปั้นเรื่องอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่าในโลกนี้มีขบวนการล้มเจ้าไทยจริง ทั้งตัวผู้บัญชาการและลูกหาบอย่างแม่ทัพภาคที่ ๓ ต่างพากันให้สัมภาษณ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมความคือกองทัพบกยุคนี้จะไม่ทำอะไรอื่นกันแล้ว แต่จะไล่ล่าขบวนการนี้จนสิ้นซาก เพื่อถวายเจ้านายตน ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยในมือ นอกจากข้อกล่าวหาในยุคแรกๆ โดยเครือข่ายผู้จัดการ/ASTV และพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่เป็นฝ่ายค้านเท่านั้น
แต่สื่อมวลชนฝ่ายอำมาตย์กลับหยิบเอากรณีมีข่าวว่า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หนึ่งในแกนนำเวทีราชประสงค์ที่ลี้ภัยการเมืองออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์นองเลือด ไปขอรับการตรวจลงตราเข้าประเทศกัมพูชา มาเล่นข่าวในทิศทางตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง พยายามชี้นำว่า ขบวนการเสื้อแดงเดี๋ยวนี้แย่แล้ว แกนนำรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยและกำลังหนีไปคนละทิศละทาง เป็นสัญญาณอนาคตคงไม่สดใสอย่างที่วาดหวังไว้ ขบวนการกำลังระส่ำระสายจนถึงขั้นอาจจะอับปางลง
ถ้าอ่านทีละด้านอาจจะเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะและเชื่อว่าจริง แต่เมื่ออ่านสองด้านควบกันแล้วจะรู้เลยว่าเลอะเทอะกันไปหมด อ่านได้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยนั่นแหละที่กำลังระส่ำ ไม่รู้จะเดินเกมกลต่อไปอย่างไร เพราะขบวนการประชาชนกำลังเข้มแข็งจนไม่อาจหยุดยั้งได้ โดยไม่เกี่ยวอะไรเลยกับพรรคเพื่อไทยและ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน
ความเข้มแข็งโดยธรรมชาติของฝ่ายประชาชน/มวลชนโดยไม่มีหน้าไหนเข้ามาช่วย กำลังทำให้ฝันเรื่องระบอบประชาชนใกล้ความจริงขึ้นมาทุกขณะ
สวนทางกับระบอบเผด็จการโบราณที่ผุกร่อนจนไม่กล้าขยับรุนแรง เพราะเสื่อมถอยรวดเร็วชนิดไม่น่าเชื่อ จนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะยังอยู่กันหรือไม่
บรรยากาศเช่นนี้ทำให้บรรดาลูกกระเป๋งทั้งหลายต้องออกทำงานเพื่อรักษาเศษเนื้อข้างเขียงอันเป็นผลประโยชน์ของตัวเองกันเต็มที่ แต่เพราะไม่ได้นัดหมายกัน ก็เลยสื่อสารขัดแย้งกลางอากาศจนผู้คนเขารู้เท่าทันและไม่เชื่อถือ
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในโลกมักเกิดในขณะที่ความน่าเชื่อถือของรัฐถดถอยลงหรือไม่มีเหลือเลย เหมือนเมืองไทยในขณะนี้
เมื่อไหร่เขาจะรู้กันสักทีว่า ผู้ที่มีฐานอำนาจขนาดมหึมาอย่างระบอบเผด็จการโบราณของไทยนั้น ไม่มีใครจะไปล้มล้างหรือโค่นทำลายเขาได้ถ้าตัวเขาเองไม่ทำลายตัวเองด้วยการคิดผิดและทำผิดซ้ำๆ ซากๆ
ไม่รู้หรอกหรือว่า ไม่มีใครล้มเจ้าได้ยกเว้นเจ้าเอง
ถ้าสื่อสารเมามันมากๆ อย่างที่กองทัพยุคตื้นเขินไร้ปัญญากำลังทำอยู่นี้ ในที่สุดตัวเองก็จะเชื่อในคำโกหกของตัวเอง เหมือนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์แห่งระบอบนาซีเยอรมันเคยเชื่อและฉิบหายมาแล้วเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ จนในที่สุดก็จะล่มสลายตามกันไป
กองทัพไทยในขณะนี้ ปรายตามองไปก็รู้ทันทีว่า เป็นเรื่องคนโง่ปกครองคนฉลาด ทำให้เกิดความอึดอัดขัดใจไปทั่วองค์กร
ความโง่นี่เองที่จะสร้างความอัปยศต่อเนื่องให้กับคนในเครื่องแบบจนวันหนึ่งจะเหมือนภาวะบ้านเมืองหลัง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ และพฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ นั่นคือทหารไม่กล้าสวมเครื่องแบบเดินถนน
พูดกันให้มาก โฆษณาชวนเชื่อกันให้เยอะเถิดครับ คนไทยจะได้รู้เช่นเห็นชาติว่าคนที่พูดมีสันดานและเจตนาร้ายต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร ไอ้เรื่องที่เขาจะเชื่อในสารที่นำเสนอนั้น ต้องย้อนเวลาไทยกลับไปยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์จึงจะได้ผล ในยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามีฐานข้อมูลดีกว่ากองทัพและรัฐบาลหลายเท่าตัว
สุดท้ายคนที่เป็นอันตรายต่อเจ้า คือตัวเจ้าเองบวกกับลูกน้องของเจ้าที่ชอบพูดเรื่องล้มเจ้านั่นแล.
------------------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.comเรื่อง : ลูกน้องอันตราย
โดย : กาหลิบ
สังเกตอาการแสดงออกต่างๆ ของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ในระยะนี้แล้วก็ออกจะขำ คงจะลืมนัดกันว่าควรจะสื่อสารให้สอดคล้องต้องกันอย่างไร ถึงได้ออกมาคนละแควอย่างนี้
ก็เรื่องขบวนการเสื้อแดงกับข้อกล่าวหาเรื่องเจ้านี่ล่ะครับ
กองทัพบกใหม่ ในยุคที่นักเต้นรำได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก กำลังปั้นเรื่องอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่าในโลกนี้มีขบวนการล้มเจ้าไทยจริง ทั้งตัวผู้บัญชาการและลูกหาบอย่างแม่ทัพภาคที่ ๓ ต่างพากันให้สัมภาษณ์อย่างดุเด็ดเผ็ดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมความคือกองทัพบกยุคนี้จะไม่ทำอะไรอื่นกันแล้ว แต่จะไล่ล่าขบวนการนี้จนสิ้นซาก เพื่อถวายเจ้านายตน ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐานอะไรเลยในมือ นอกจากข้อกล่าวหาในยุคแรกๆ โดยเครือข่ายผู้จัดการ/ASTV และพรรคประชาธิปัตย์ในยุคที่เป็นฝ่ายค้านเท่านั้น
แต่สื่อมวลชนฝ่ายอำมาตย์กลับหยิบเอากรณีมีข่าวว่า นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง หนึ่งในแกนนำเวทีราชประสงค์ที่ลี้ภัยการเมืองออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์นองเลือด ไปขอรับการตรวจลงตราเข้าประเทศกัมพูชา มาเล่นข่าวในทิศทางตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง พยายามชี้นำว่า ขบวนการเสื้อแดงเดี๋ยวนี้แย่แล้ว แกนนำรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยและกำลังหนีไปคนละทิศละทาง เป็นสัญญาณอนาคตคงไม่สดใสอย่างที่วาดหวังไว้ ขบวนการกำลังระส่ำระสายจนถึงขั้นอาจจะอับปางลง
ถ้าอ่านทีละด้านอาจจะเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะและเชื่อว่าจริง แต่เมื่ออ่านสองด้านควบกันแล้วจะรู้เลยว่าเลอะเทอะกันไปหมด อ่านได้ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยนั่นแหละที่กำลังระส่ำ ไม่รู้จะเดินเกมกลต่อไปอย่างไร เพราะขบวนการประชาชนกำลังเข้มแข็งจนไม่อาจหยุดยั้งได้ โดยไม่เกี่ยวอะไรเลยกับพรรคเพื่อไทยและ นปช. แดงทั้งแผ่นดิน
ความเข้มแข็งโดยธรรมชาติของฝ่ายประชาชน/มวลชนโดยไม่มีหน้าไหนเข้ามาช่วย กำลังทำให้ฝันเรื่องระบอบประชาชนใกล้ความจริงขึ้นมาทุกขณะ
สวนทางกับระบอบเผด็จการโบราณที่ผุกร่อนจนไม่กล้าขยับรุนแรง เพราะเสื่อมถอยรวดเร็วชนิดไม่น่าเชื่อ จนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะยังอยู่กันหรือไม่
บรรยากาศเช่นนี้ทำให้บรรดาลูกกระเป๋งทั้งหลายต้องออกทำงานเพื่อรักษาเศษเนื้อข้างเขียงอันเป็นผลประโยชน์ของตัวเองกันเต็มที่ แต่เพราะไม่ได้นัดหมายกัน ก็เลยสื่อสารขัดแย้งกลางอากาศจนผู้คนเขารู้เท่าทันและไม่เชื่อถือ
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ในโลกมักเกิดในขณะที่ความน่าเชื่อถือของรัฐถดถอยลงหรือไม่มีเหลือเลย เหมือนเมืองไทยในขณะนี้
เมื่อไหร่เขาจะรู้กันสักทีว่า ผู้ที่มีฐานอำนาจขนาดมหึมาอย่างระบอบเผด็จการโบราณของไทยนั้น ไม่มีใครจะไปล้มล้างหรือโค่นทำลายเขาได้ถ้าตัวเขาเองไม่ทำลายตัวเองด้วยการคิดผิดและทำผิดซ้ำๆ ซากๆ
ไม่รู้หรอกหรือว่า ไม่มีใครล้มเจ้าได้ยกเว้นเจ้าเอง
ถ้าสื่อสารเมามันมากๆ อย่างที่กองทัพยุคตื้นเขินไร้ปัญญากำลังทำอยู่นี้ ในที่สุดตัวเองก็จะเชื่อในคำโกหกของตัวเอง เหมือนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์แห่งระบอบนาซีเยอรมันเคยเชื่อและฉิบหายมาแล้วเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ จนในที่สุดก็จะล่มสลายตามกันไป
กองทัพไทยในขณะนี้ ปรายตามองไปก็รู้ทันทีว่า เป็นเรื่องคนโง่ปกครองคนฉลาด ทำให้เกิดความอึดอัดขัดใจไปทั่วองค์กร
ความโง่นี่เองที่จะสร้างความอัปยศต่อเนื่องให้กับคนในเครื่องแบบจนวันหนึ่งจะเหมือนภาวะบ้านเมืองหลัง ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ และพฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ นั่นคือทหารไม่กล้าสวมเครื่องแบบเดินถนน
พูดกันให้มาก โฆษณาชวนเชื่อกันให้เยอะเถิดครับ คนไทยจะได้รู้เช่นเห็นชาติว่าคนที่พูดมีสันดานและเจตนาร้ายต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร ไอ้เรื่องที่เขาจะเชื่อในสารที่นำเสนอนั้น ต้องย้อนเวลาไทยกลับไปยุคสฤษดิ์ ธนะรัชต์จึงจะได้ผล ในยุคนี้สมัยนี้ประชาชนเขามีฐานข้อมูลดีกว่ากองทัพและรัฐบาลหลายเท่าตัว
สุดท้ายคนที่เป็นอันตรายต่อเจ้า คือตัวเจ้าเองบวกกับลูกน้องของเจ้าที่ชอบพูดเรื่องล้มเจ้านั่นแล.
------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ยอดเยี่ยมมากๆค่ะ ท่านเป็นผู้นำทางความคิดอย่างแท้จริง และที่สำคัญเป็นกำลังใจอันเอกอุในสถานการณ์มืดมัวเช่นนี้
ตอบลบ