ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
น้ำท่วมและนองเลือด โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : น้ำท่วมและนองเลือด
โดย : กาหลิบ
มิลาน คุนเดอร่า เคยเขียนเอาไว้ว่า “การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับอำนาจคือการต่อสู้ของมนุษย์ที่จะไม่ลืมเลือน”
อ่านแล้วก็จับใจเสียจริงๆ อุปสรรคขัดขวางอย่างหนึ่งของการพัฒนามนุษย์และสังคมคือความคิดที่จะลืมความทรงจำอันเลวร้ายเสีย เพราะคิดแล้วมันเจ็บปวด เจ็บใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ความลืมง่ายนี่เองที่ทำให้มนุษย์เป็นล้านๆ คนผ่านปัญหาสำคัญมามากมายโดยไม่ได้คิดจะแก้ไขสำหรับคนรุ่นต่อไป
การกระตุ้นความทรงจำจึงเป็นหนทางหนึ่งที่มนุษย์จะก้าวหน้าและพ้นจากความดักดานเช่นที่เป็นอยู่ได้
เรื่องนี้ทำให้คิดถึงเมืองไทยของเราเป็นอันมาก โดยเฉพาะความทรงจำในคืนวันอันเลวร้ายแห่งปี พ.ศ.๒๕๕๓ ทั้งในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ที่หลายคนในฝ่ายตรงข้ามกำลังพยายามทำให้เราลืม
เริ่มต้นด้วยคำสั่งห้ามแสดงภาพใดๆ ที่เกี่ยวกับการฆ่าหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในครั้งนั้น จนถึงการสร้างประเด็นข่าวใหม่ๆ มากลบ กรณีล่าสุดเรื่องน้ำท่วมนี่ก็เป็นกิจกรรมหนึ่ง
ความจริงน้ำท่วมปีนี้หนักหนาสาหัสและพี่น้องประชาชนก็เดือดร้อนจริง คนไทยที่มีหัวใจทุกๆ คนควรเข้าช่วยเหลือในทุกทางที่จะทำได้ แต่คำถามคือ การตีฆ้องร้องป่าวของรัฐบาลอย่างที่ทำกันทุกช่องทุกคลื่นในขณะนี้ แต่ไม่มีแนวคิดใหญ่ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดเลยนั้น คือวิธีแก้ปัญหาที่ตรงกับเรื่องแล้วหรือ?
น้ำท่วมซ้ำซากก็ยังท่วมแทบทุกปี นักการเมืองทุกค่ายก็ดาหน้าหาเสียงกันไปโดยไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ
ผลคืออะไร
ข่าวการฆ่าหมู่ประชาชนนับร้อยกลางเมือง ถูกสื่อมวลชนส่งข่าวอื่นๆ มากลบทับจนเงียบหายไปจากความรับรู้สาธารณะ สมประโยชน์ของคนบางคนที่อยากให้สังคมไทยลืมเหตุการณ์เลือดเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีนี้เสียเหลือเกินและจะเสนอแต่ข่าวดีข่าวมงคลของเขานับตั้งแต่นี้ไปโดยอ้างเหตุฉลองใหม่
นี่ล่ะครับเมืองไทย
คนไทยใช่ว่าไร้ปัญญา ใช่ว่าขาดอารมณ์ความรู้สึก และมิใช่คนตายด้านทางความคิดเป็นแน่ แต่กลไกถมทับความทรงจำเก่าทั้งหลายเพื่อให้ยอมตัวเป็นทาสกันต่อไปอย่างสัตว์ที่ผูกไว้จนสยบยอมและเชื่องนั้น มันมากและไหลท่วมทับคนไทยเร็วเสียยิ่งกว่าน้ำท่วมในปีนี้
กลไกที่ทำให้คนไทยขี้ลืม ความทรงจำสั้น และไม่เอาบทเรียนในอดีตหมาดๆ มาปรับใช้เพื่อการพัฒนา เป็นวิถีทางอย่างหนึ่งของรัฐในการควบคุมทางสังคม
ถ้าจะพูดด้วยภาษาของ มิลาน คุนเดอร่า ก็ต้องบอกว่า การทำให้ลืมเป็นการทำให้มนุษย์ที่เรียกตนเองว่าไทย ไม่อาจลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจอันล้นพ้นได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้มีความจำเป็นต้นทุนแรกเริ่ม
คนเสื้อแดงมากมายออกมาต่อสู้ครั้งนี้เพราะเขายังจำไม่ลืมในสิ่งที่คนบางคนในเมืองไทยทำกับเขาในเหตุการณ์โหด ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ หรือแม้แต่ในเหตุการณ์พฤษภาคม ๒๕๓๕ ที่คำนวณเวลาออกมาเป็นพระเอกหลังจากที่ปล่อยให้คนตายเกลื่อนถนนราชดำเนินเสียก่อน
พลังการต่อสู้เที่ยวนี้จึงเกิดจากความทรงจำในอดีต
มาร่วมกันเผยแพร่ข้อเท็จจริงของเมืองไทยสวนกระแสกลไกการทำให้เราลืมกันเถิดครับ.
----------------------------------------------------------------------------
เรื่อง : น้ำท่วมและนองเลือด
โดย : กาหลิบ
มิลาน คุนเดอร่า เคยเขียนเอาไว้ว่า “การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับอำนาจคือการต่อสู้ของมนุษย์ที่จะไม่ลืมเลือน”
อ่านแล้วก็จับใจเสียจริงๆ อุปสรรคขัดขวางอย่างหนึ่งของการพัฒนามนุษย์และสังคมคือความคิดที่จะลืมความทรงจำอันเลวร้ายเสีย เพราะคิดแล้วมันเจ็บปวด เจ็บใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ความลืมง่ายนี่เองที่ทำให้มนุษย์เป็นล้านๆ คนผ่านปัญหาสำคัญมามากมายโดยไม่ได้คิดจะแก้ไขสำหรับคนรุ่นต่อไป
การกระตุ้นความทรงจำจึงเป็นหนทางหนึ่งที่มนุษย์จะก้าวหน้าและพ้นจากความดักดานเช่นที่เป็นอยู่ได้
เรื่องนี้ทำให้คิดถึงเมืองไทยของเราเป็นอันมาก โดยเฉพาะความทรงจำในคืนวันอันเลวร้ายแห่งปี พ.ศ.๒๕๕๓ ทั้งในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ที่หลายคนในฝ่ายตรงข้ามกำลังพยายามทำให้เราลืม
เริ่มต้นด้วยคำสั่งห้ามแสดงภาพใดๆ ที่เกี่ยวกับการฆ่าหมู่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในครั้งนั้น จนถึงการสร้างประเด็นข่าวใหม่ๆ มากลบ กรณีล่าสุดเรื่องน้ำท่วมนี่ก็เป็นกิจกรรมหนึ่ง
ความจริงน้ำท่วมปีนี้หนักหนาสาหัสและพี่น้องประชาชนก็เดือดร้อนจริง คนไทยที่มีหัวใจทุกๆ คนควรเข้าช่วยเหลือในทุกทางที่จะทำได้ แต่คำถามคือ การตีฆ้องร้องป่าวของรัฐบาลอย่างที่ทำกันทุกช่องทุกคลื่นในขณะนี้ แต่ไม่มีแนวคิดใหญ่ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาดเลยนั้น คือวิธีแก้ปัญหาที่ตรงกับเรื่องแล้วหรือ?
น้ำท่วมซ้ำซากก็ยังท่วมแทบทุกปี นักการเมืองทุกค่ายก็ดาหน้าหาเสียงกันไปโดยไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นตอ
ผลคืออะไร
ข่าวการฆ่าหมู่ประชาชนนับร้อยกลางเมือง ถูกสื่อมวลชนส่งข่าวอื่นๆ มากลบทับจนเงียบหายไปจากความรับรู้สาธารณะ สมประโยชน์ของคนบางคนที่อยากให้สังคมไทยลืมเหตุการณ์เลือดเมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมปีนี้เสียเหลือเกินและจะเสนอแต่ข่าวดีข่าวมงคลของเขานับตั้งแต่นี้ไปโดยอ้างเหตุฉลองใหม่
นี่ล่ะครับเมืองไทย
คนไทยใช่ว่าไร้ปัญญา ใช่ว่าขาดอารมณ์ความรู้สึก และมิใช่คนตายด้านทางความคิดเป็นแน่ แต่กลไกถมทับความทรงจำเก่าทั้งหลายเพื่อให้ยอมตัวเป็นทาสกันต่อไปอย่างสัตว์ที่ผูกไว้จนสยบยอมและเชื่องนั้น มันมากและไหลท่วมทับคนไทยเร็วเสียยิ่งกว่าน้ำท่วมในปีนี้
กลไกที่ทำให้คนไทยขี้ลืม ความทรงจำสั้น และไม่เอาบทเรียนในอดีตหมาดๆ มาปรับใช้เพื่อการพัฒนา เป็นวิถีทางอย่างหนึ่งของรัฐในการควบคุมทางสังคม
ถ้าจะพูดด้วยภาษาของ มิลาน คุนเดอร่า ก็ต้องบอกว่า การทำให้ลืมเป็นการทำให้มนุษย์ที่เรียกตนเองว่าไทย ไม่อาจลุกขึ้นต่อสู้กับอำนาจอันล้นพ้นได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้มีความจำเป็นต้นทุนแรกเริ่ม
คนเสื้อแดงมากมายออกมาต่อสู้ครั้งนี้เพราะเขายังจำไม่ลืมในสิ่งที่คนบางคนในเมืองไทยทำกับเขาในเหตุการณ์โหด ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ หรือแม้แต่ในเหตุการณ์พฤษภาคม ๒๕๓๕ ที่คำนวณเวลาออกมาเป็นพระเอกหลังจากที่ปล่อยให้คนตายเกลื่อนถนนราชดำเนินเสียก่อน
พลังการต่อสู้เที่ยวนี้จึงเกิดจากความทรงจำในอดีต
มาร่วมกันเผยแพร่ข้อเท็จจริงของเมืองไทยสวนกระแสกลไกการทำให้เราลืมกันเถิดครับ.
----------------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เรื่องลืม..คงลืมยาก
ตอบลบแต่การคัดง้างอำนาจที่หยั่งรากลึกมายาวนานในสังคมไทยเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา...นาน....เหลือเกิน