ปั้นสรยุทธ์ โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง ปั้นสรยุทธ์

โดย กาหลิบ

ได้ยินเสียงแว่วถึง “ความไม่เป็นกลาง” หรือ “เลือกข้างอย่างเนียน” ของคุณสรยุทธ์ สุทัศนะจินดาผู้เป็นสินค้าตัวหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ช่อง ๓ แล้วก็ทำให้เกิดความคิดบางอย่างขึ้น จริงหรือไม่จริงก็ให้วิญญูชนท่านช่วยตัดสินในเชิงจรรยาบรรณและจริยธรรมสื่อ แต่งานของเราน่าจะลงลึกในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าเขาปั้นคุณสรยุทธ์ฯ มาสู่บทบาทปัจจุบันเพื่ออะไร

ใครคิดว่าเขาทำทั้งหมดนี้เพื่อผลเลือกตั้งครั้งเดียวคงจะผิดจุดและตื้นเขินไป

ขณะนี้เจ้าของสัมปทานและผู้บริหารช่อง ๓ ได้สร้างรูปแบบเชื่อมโยงระหว่างคนข่าวในสังกัดของตนกับมวลชนภายนอกขึ้นมา แล้วเรียกว่า “ครอบครัวข่าว ๓” และให้คุณสรยุทธ์ฯ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวนั้น

งานของ “ครอบครัว” นี้ นอกเหนือจากความเป็น “ดาราข่าว” บนหน้าจอ ก็ออกไปทำงานมวลชนสัมพันธ์ในพื้นที่ โหมโฆษณาอย่างหนักและต่อเนื่อง อย่างกรณีน้ำท่วมภาคใต้ก็ทำให้เกิด “ภาพ” ดาราข่าวเหล่านี้ออกไปช่วยคนที่ประสบเหตุอย่างใกล้ชิดจนมวลชนจำนวนหนึ่งแสดงความเห็นผ่านสื่อกลับมาว่าคุณสรยุทธ์ฯ และครอบครัวข่าว ๓ ทำหน้าที่ “ได้ดีกว่า” รัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ขณะนี้ก็ขยายงานออกไปหลายโครงการ จนเสมือนว่าช่อง ๓ มีกรมบรรเทาสาธารณภัยและกรมประชาสงเคราะห์ของตัวเองขึ้นมา แล้วก็แต่งตั้งให้คุณสรยุทธ์ฯ ทำหน้าที่เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยควบปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ทั้งหมดนี้ดูเผินๆ ก็เป็นเรื่องที่สร้างสรรค์และเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งนั้น

แต่ถ้าถามว่าเจตนาที่แท้จริงของผู้บริหารช่อง ๓ ในขณะนี้คืออะไร? อาจได้คำตอบที่น่าสนใจไปอีกอย่างหนึ่ง

ยุทธศาสตร์ใหญ่ของฝ่ายอำนาจเดิมไม่เคยเปลี่ยน หากแต่เปลี่ยนยุทธวิธีไปตามยุคสมัยอย่างที่คนฉลาดพึงกระทำ เขาต้องการทำลายความเชื่อถือศรัทธาของฝ่ายการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย วาดภาพนักเลือกตั้งทุกคนว่าโกง ซื้อเสียง และโง่เขลาเบาปัญญา เพื่อให้ประชาชนเกิดลังเลใจว่าระหว่างผู้มาจากการเลือกตั้งแต่ด้อยคุณค่าอย่างที่พรรณนามา กับผู้ที่มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งเขาเก็บมาเลี้ยงจากระบบราชการบ้าง ระบบสืบตระกูล (เพราะถือระบบถ่ายเลือดหรือนับโคตรกันอย่างศักดินา) บ้าง ฯลฯ ใครควรค่าที่จะยืนผงาดในบ้านเมืองนี้ในฐานะผู้นำมากกว่ากัน

คนสายพันธุ์อานันท์ ปันยารชุน ประเวศ วะสี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณ์ จาติกวณิช ม.ล.อภิมงคล โสณกุล พลากร สุวรรณรัฐ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นต้น คือตัวอย่างของพันธุ์ศักดินาเก่าและใหม่ที่ถูกเพาะขึ้นมารับหน้าที่ “นำ” ประเทศนี้ทั้งสิ้น ต่างเพียงที่บางคนทำงานเหนือดินและเป็นตัวแสดงที่คนดูมองเห็น กับบางคนทำงานใต้ดินอย่างเงียบเชียบในสไตล์ “มือที่มองไม่เห็น”

จึงส่งบางส่วนลงเลือกตั้งและเก็บบางส่วนเอาไว้ลากตั้งในภายหลัง

เป้าหมายของยุทธศาสตร์คือการปกป้องระบอบการปกครองเดิมที่ถูกล้างไพ่ไปเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๕ และพยายามฟื้นตัวกลับสู่สถานภาพเดิมตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้

คนเหล่านี้ถูกสร้างให้น่าเชื่อถือ เปี่ยมประสิทธิภาพ และ “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์” รอเวลาว่าฝ่ายเลือกตั้งเริ่มอ่อนแรงหรือถูกทำลายลงเมื่อใดก็จะเข็นออกมาแทนกัน หลังรัฐประหารแต่ละครั้งหรือการฆาตกรรมประชาชนแต่ละรอบ เราจึงได้เห็นใบหน้าคนเหล่านี้ผุดขึ้นมาจากใต้ดินและเข้าสู่อำนาจเสมอ ทั้งนี้เพราะขั้นตอนของระบอบเก่าเขาเป็นเช่นนั้น

บทบาทของช่อง ๓ และคุณสรยุทธ์ฯ ในการเสนอตัวทางสังคมและการเมืองจึงดูใหม่ในตัวผู้เล่นและวิธีเล่น แต่ความจริงคือเบี้ยตัวใหม่ในกระดานเก่าที่ “เขา” เล่นมาจนคุ้นมือ

ไม่ใช่ว่าเขาเตรียมคุณสรยุทธ์ฯ ไว้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือผู้นำอื่นใด แต่เขาต้องการส่งสัญญาณว่าผู้ปกครองบ้านเมืองนี้จะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ใช่นักการเมืองที่เสนอตัวผ่านระบบเลือกตั้ง พูดง่ายๆ ก็คือ คุณสรยุทธ์ฯ ถูกนำมาใช้เป็นเป้าล่อเพื่อรักษาอำนาจของระบอบเดิม โดยใช้ยุทธศาสตร์รักษาอำนาจที่เคยใช้มาแต่เดิมเท่านั้น

“ครอบครัวข่าว” เลยออกโรงกันอย่างสนุกสนาน สมาชิกแต่ละคนคงรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำดี ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นความดีจริงๆ ทั้งนี้เพราะเขาไม่ได้ล่วงรู้รหัสแท้จริงที่อยู่เบื้องหลังการกระทำนั้น เขาไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงมวลชน เพียงแต่ตามแห่ลงเรือโดยไม่รู้ว่า “กัปตัน” แกจะพาไปทางไหนเท่านั้นเอง

นี่ล่ะคือการต่อสู้เพื่อรักษาระบอบ ลึกซึ้ง หลายชั้น และบางทีก็เหี้ยมโหดนัก.

---------------------------------------------------------------------------------

สนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย /e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/