ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทิ้งอภิสิทธิ์ โดย กาหลิบ


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง ทิ้งอภิสิทธิ์

โดย กาหลิบ


    

ในที่สุดคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะก็รู้ตัวแล้วว่า การถูกทอดทิ้งให้ตายทางการเมืองแต่เพียงลำพังนั้นรู้สึกอย่างไร ที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์ฯ อาจเผลอนึกไปว่าตัวเองมีความพิเศษกว่าลูกน้องของระบอบเก่าที่แย่งกันจงรักภักดีอยู่ และจะได้รับความกรุณาอันล้นพ้นให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกอย่างน้อยก็สมัยหนึ่ง หรืออย่างเลวก็ช่วยหาบันไดก้าวลงจากหลังเสือโดยไม่ถูกเสือกัดตายให้ วันนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าไม่มีใครเขาเตรียมแผนเช่นนั้นรอเอาไว้ให้ แถมยังหลอกล่อให้ผูกตัวเองเข้ากับการฆาตกรรมประชาชนเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๒ และ พ.ศ.๒๕๕๓ อย่างชนิดปฏิเสธไม่ออก ด้วยการแนะนำให้ไปเหยียบธรณีเปื้อนเลือด ณ ราชประสงค์ ซึ่งได้กลายเป็นการย้ำรอยบาปของตัวเองให้แน่นขึ้นอีก

    

อุตส่าห์เรียนวิชาปกครองบ้านเมืองแบบอังกฤษที่เรียกว่า Modern Greats มา น่าแปลกใจที่คุณอภิสิทธิ์ฯ ไม่สามารถโยงประสบการณ์แบบเจ้าบ้านผ่านเมืองเข้ากับสถานการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านของไทยเราได้ 

    

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่ใช่คนโง่ นายแพทย์อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะผู้เป็นพ่อของคุณอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งเป็นผู้วางแผนชีวิตลูกชายให้เป็น “เจ้าคนนายคน” มาตั้งแต่ต้นก็เป็นคนฉลาดล้ำลึก แต่สุดท้าย “ผู้ดี” ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นขุนนางเหล่านี้ก็ต้องพบสัจธรรมที่ตนเองอาจรู้แต่ไม่อยากยอมรับมาชั่วชีวิต

    

สัจธรรมนั้นคือ ในระบอบเผด็จการศักดินาอำมาตยาธิปไตยนั้น เขาถือว่ามีเจ้านายอยู่คนเดียวที่ศูนย์กลาง โดยเฉพาะในเมืองไทยขณะนี้ยิ่งเป็นเช่นนั้นมาก คนอื่นๆ ต่อให้จบอีตันหรือเป็นคณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลและอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดลมาแล้วก็ถือเป็นลูกน้อง หากแววดีกว่าคนอื่นๆ หน่อย ก็จะได้ตำแหน่งและได้รับบทบาทที่สูงกว่าในองค์กรคนรับใช้ใต้ถุนบ้าน เมื่อถึงเวลาเขาก็จะดีดให้พ้นจากตำแหน่งและบทบาทนั้นๆ ไปได้ทันที เวลาที่ว่านั้นก็คือ เมื่อผู้รับตำแหน่งและบทบาท นั้นๆ ถูกใช้งานชื่อเสียงเน่า หรือมีคนอื่นๆ ที่เหนือกว่าเสนอตัวเข้ามาสนองอารมณ์ผู้เป็นนาย 

    

เวลานั้นมาถึงตัวคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแล้ว

    

ไม่น่าแปลกใจที่คุณอภิสิทธิ์ฯ ออก “หาเสียง” อย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ยอมตัวทำหมดทุกอย่างโดยไม่คิดว่าเหมาะสมหรือไม่กับตำแหน่งรักษานายกรัฐมนตรีที่ยังค้ำตัวอยู่ ร้ายแรงที่สุดคือรับคำชี้แนะให้ไปยืนคร่อมรอยเลือดของประชาชนผู้เป็นไพร่ในบริเวณแยกราชประสงค์ และแสดงจุดยืนที่ดูเหมือนจะสุภาพ ยินยอม แต่ฟังสาระอันแท้จริงแล้วคือการประกาศชัยชนะเหนือชีวิตและเลือดเนื้อของคน ความหวังในใจคุณอภิสิทธิ์ฯ จะเป็นอย่างไรไม่รู้ได้ แต่น่าเชื่อว่าเขาคงคิดจะ “ตะโกนบอก” เช่นกันว่า เขาทำทุกอย่างตามคำสั่งจนเกิดความเดือดร้อนอันใหญ่หลวงขึ้นแล้ว และเรียกร้องเจ้านายโปรดช่วยด้วย

    

คุณอภิสิทธิ์ฯ ไม่รู้หรือว่า เขา “ส่ง” คุณไปยืนแสดงความอหังการที่แยกราชประสงค์นั้น ก็เพื่อย้ำภาพฆาตกรผู้สั่งฆ่าประชาชนตัวจริงให้มันตราตรึงอยู่กับตัวคุณ เขาทำเช่นนั้นเพื่อแยกตัวเขาออกจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ร้ายแรงกว่าเมื่อ พ.ศ.๒๕๓๕ และส่งคุณไปตายแทนในทางการเมือง คุณอ่านไม่ออกเชียวหรือ?

    

สิ่งที่ถ่ายทอดมาทั้งหลายนี้ ไม่ใช่ยุทธวิธีใหม่หรือเป็นความปราดเปร่ืองทางการเมืองของ “เขา” แต่อย่างใดเลย “เขา” ทำอย่างนี้มารอบแล้วรอบเล่าและกับคนที่มาก่อนคุณอภิสิทธิ์ฯ เป็นจำนวนมาก

    

เขาคุ้นชินกับการเอาคนที่เขา “เลือก” มาชูและทำลายทิ้ง เหมือนคว้าอ้อยควั่นเข้าปากเพื่อให้ได้น้ำอ้อยอันหอมหวาน เสร็จแล้วก็คายชานทิ้งอย่างไร้ค่า

    

คุณอภิสิทธิ์ฯ ก็ได้ “อ่าน” ประวัติศาสตร์มนุษย์ที่อังกฤษมาแล้ว ไม่เคยได้ยินชื่อของ สฤษดิ์ ธนะรัชต์ บุญชนะ อัตถากร พูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ เกษม จาติกวณิช กฤษณ์ สีวะรา ธานินทร์ กรัยวิเชียร สมัคร สุนทรเวช ฯลฯ เหล่านี้บ้างเลยหรือ

    

คุณไม่ใช่อ้อยควั่นชิ้นแรกในปากของคนๆ นี้ แต่คุณยังเผลอคิดว่าตัวเองคือชิ้นที่หอมหวานที่สุด จน “เขา” คงจะไม่คายทิ้งเหมือนชานอ้อยอื่นๆ ที่แล้วมา คุณจึงต้องประสบชะตากรรมอย่างที่เป็นอยู่นี้

    

อ้อยอีกชิ้นหนึ่งที่เรียงตัวเข้ามาคอยให้ “เขา” หยิบเข้าปากและเชื่อว่าตัวเองหอมหวานยิ่งไปกว่าคุณอภิสิทธิ์ฯ ก็ยังเกิดขึ้นอีก ชื่อของอ้อยควั่นชิ้นนี้คือ กรณ์ จาติกวณิช ซึ่งอาจกลายเป็นเวรกรรมเรียงลำดับกันไป

    

ลำดับความมาทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะรู้สึกห่วงใยอะไรกับคุณอภิสิทธิ์ฯ และคุณกรณ์ฯ ซึ่งเป็นพวกล้มบนฟูกได้ตลอดชีวิต ไม่ลำบากเดือดร้อนเหมือนชนชั้นที่ต่ำกว่าคุณ คือชนชั้นประชาชนแน่ แต่อยากใช้ตัวอย่างนี้ชี้ถึงความเป็นจริงของประเทศไทยที่ชอบแสร้งหลอกทั่วโลกเขาว่าเราเป็นประชาธิปไตยที่พิเศษสุด 

    

แต่ที่สุดแล้วเผด็จการก็คือเผด็จการ

    

และคนที่อยู่ในฐานะต่ำสุดของระบอบเผด็จการ ก็คือขี้ข้าเผด็จการที่นึกว่าตนเองวิเศษกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ นั่นแล.


---------------------------------------------------------------------

ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail :tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น