ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554
อุดมการณ์ราษฎร์ประสงค์ โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง อุดมการณ์ราษฎร์ประสงค์
โดย กาหลิบ
หลังการฆาตกรรมประชาชนในบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จนประชาชนได้เปลี่ยนชื่อสถานที่นั้นในใจจาก “ราชประสงค์” มาเป็น “ราษฎร์ประสงค์” ไปแล้ว ฐานะของสถานที่นั้นก็ไม่เหมือนเดิมอีก ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของราษฎร์ประสงค์เกิดขึ้นมากลางเมือง จะมีคนไทยอีกหลายรุ่นหลายสมัยควานหาความหมายและความลึกซึ้งของราษฎร์ประสงค์ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับถนนราชดำเนินและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาก่อน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเล่นเกมการเมืองกับเรื่องนี้และในบริเวณนี้ โดยไปตั้งเวทีปราศรัยทางการเมืองและอ้างว่าจะเผย “ความจริง” เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ สิ่งแรกที่เกิดขึ้น โดยยังไม่ต้องพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ก็คือปลุกเร้าความโกรธแค้นชิงชังให้กับเพื่อนฝูงและญาติพี่น้องร่วมอุดมการณ์ของผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ ณ ราษฎร์ประสงค์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๓ สักขีพยานทุกท่านรู้ความจริงอยู่เต็มอกเพราะเขาเผชิญภัยมาด้วยตนเอง เขาไม่ต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการนองเลือดครั้งนั้นมาสรุปเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เขารู้และประจักษ์แจ้งอยู่ในใจ
การกระทำเช่นนั้นย่อมสร้างความรู้สึกว่าถูกเหยียดหยาม ดูถูก และกดหัวประชาชนหนักขึ้นไปอีก
ประชาธิปัตย์ทำเพราะต้องการยั่วยุให้เกิดปะทะกลางเมือง หรือเพราะได้ “เตรียมเหตุการณ์” เพิ่มสีสันเอาไว้แล้วอย่างไรเราคงไม่รู้ได้ ฝ่ายประชาธิปไตยเองก็คงมีสติมากพอที่จะไม่ติดเบ็ดล่อตื้นๆ สิ่งที่หลายคนกลัวเกรงก็คงจะไม่เกิดขึ้นจากฝ่ายเสื้อแดง แต่น่าจะเป็นการจัดการของฝ่ายตรงข้ามมากกว่า
ประเด็นคือ เพียงประกาศว่าจะไปตีความประวัติศาสตร์หมาดๆ ของราษฎร์ประสงค์เสียใหม่ โดยไม่มีความสำนึกใดๆ ในอาชญากรรมที่ได้เกิดขึ้นต่อประชาชนบริสุทธิ์เลยนั้น ก็เท่ากับประกาศสงครามทางความคิดกับประชาชนแล้ว
ประชาธิปัตย์จะรู้หรือไม่รู้ รู้แล้วจะสนใจหรือไม่ คงไม่สำคัญ ความสำคัญอยู่ที่คนที่อยู่เหนือพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นไปรู้หรือไม่ว่าตัวกำลังเล่นกับอะไร
ธรรมดาหมีที่จำศีลอยู่ในถ้ำจะอยู่เงียบๆ โดยไม่รบกวนรังควาญใคร แต่มีพลังมหาศาลถ้าต้องใช้
หลายสิบปีมานี้ “เขา” ก็บริหารป่าได้ดี สร้างสิ่งแวดล้อมที่ทำให้หมีรู้สึกว่าจำศีลอยู่ต่อไปได้ ไม่ต้องทับเส้นกับสัตว์โลกประเภทอื่นๆ จนต้องประลองกำลังกัน แต่กรรมชั่วที่ได้สั่งสมไว้หลายสิบปีกลับทำให้ตามืดสนิท และเริ่มทำอะไรที่ทำให้หมีไม่อาจจำศีลอยู่ต่อไปได้ จนต้องเดินงุ่นง่านออกมา
เขาก็สั่งยิงหมี ทำร้ายหมี จนหมีต้องแสดงพลังอำนาจออกมาให้เป็นที่ประจักษ์
การบริหารป่าของ “เขา” ที่รวมถึงการสั่งนายพรานให้ยิงหรือให้หยุดยิง จัดหาอาวุธให้กับพรานที่เป็นพรรคพวกของเขาอย่างพอเพียง และสร้างหลุมขวากเอาไว้ประหัตประหารกัน ล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัดในห้วงเวลาที่ผ่านมา
“เขา” จึงหยุดความรุนแรงไม่ได้ และต้องแอบสั่งการเงียบๆ อยู่ท่ามกลางพรานชั่วทั้งหลายที่เข้ามาสอพลอตอแหลว่าจะปราบหมีได้ด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้ป่าทั้งป่าลุกฮือขึ้น
แล้วก็ไม่ส่งสัญญาณให้รักษาสถานภาพเดิม (status quo) ไว้ ปล่อยให้ลูกหาบที่เป็นพรานระดับต่ำออกมาอวดศักดาซ้ำเติมความรู้สึกของฝ่ายที่ถูกรังแกทำร้าย
ถ้าท่าทีอย่างนี้เรียกว่าปรองดอง สัตว์นรกในขุมที่ลึกที่สุดก็เป็นตัวแทนของอำนาจเก่ามาร่วมแห่ปรองดองกับเขาได้
อุดมการณ์ราษฎร์ประสงค์ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นในความดีงามของมนุษย์ มนุษย์ผู้เป็นประชาชนที่เท่าเทียมกัน มนุษย์ผู้เป็นประชาชนที่เคารพในสิทธิและเสรีภาพของตนเองและผู้อื่น และมนุษย์ที่เรียกหาความยุติธรรมและความเป็นธรรมทางสังคม การสูญเสียชีวิต อวัยวะ และจิตใจจะได้มาซึ่งความงามของสังคมมนุษย์ที่เราเรียกกันว่าประชาธิปไตย
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ “ราษฎร์” ประสงค์
จึงต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่เอา “เกม” มาเล่นกลางเมือง และเอา “ระบอบ” ทั้งระบอบมาเป็นเดิมพันเพียงเพราะราชประสงค์.
--------------------------------------------------------------------------
ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail :tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น