ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โจรเจรจา โดย กาหลิบ



คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง โจรเจรจา

โดย กาหลิบ


เพียงแสดงท่าทีว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะเปิด เจรจากับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกว่า จะร่วมมือกันอย่างไรหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็ทำให้ผู้สนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยขยับตัวด้วยความอึดอัดขัดใจกันทั่วประเทศและทั่วโลก

แม้ว่ามวลชนสายเลือดไทยจะไม่เคยถูกปลูกฝังให้อาฆาตมาดร้ายใครชนิดให้อภัยกันมิได้ แต่เขาก็รู้เจ็บรู้จำ และพร้อมเดินลุยไฟต่อไปจนกว่าบ้านเมืองนี้จะเป็นธรรมและยุติธรรม ความรู้สึกเช่นนี้มิได้ชี้ว่าคนไทยมีปัญหา แต่กลับแสดงหลักฐานของอุดมการณ์ใหม่ว่าจิตใจได้หลุดพ้นจากความเป็นทาสทางสังคม

ความดักดานเดิมๆ ที่ยอมให้เขาหลอกให้โง่ จน เจ็บ เริ่มหลุดออกไปจากระบบความคิดที่ล้าหลังและเดินสู่แนวคิดก้าวหน้าอย่างมั่นคง

ความคิดพึ่งตนเองและยอมรับในความเสมอภาคของมนุษย์เริ่มงอกงามขึ้น

แน่นอนว่า ทาสที่เกิดจากพ่อแม่ที่เป็นทาสมานานหรือทาสในเรือนเบี้ย ก็ยังมีตัวตนอยู่อีกมากในสังคมไทย ทาสเหล่านี้ยังหลงละเมออยู่ว่า มูลนายของตัวคือความมั่นคงของชีวิต ใครมาชวนให้ลุกขึ้นประกาศความเป็นไทและความเป็นมนุษย์จากมูลนายก็จะไม่เห็นด้วยและแสดงอาการขัดขืนไม่ยอมลุกขึ้นมาเป็นคนที่สมบูรณ์ เหตุก็เพราะกลัวเสียผลประโยชน์จากเศษอาหารที่มูลนายโยนลงมาให้เหมือนที่สุนัขได้รับนั่นเอง

ทาสเหล่านี้กระทำตัวเป็นปฏิกิริยาต่อขบวนประชาธิปไตยที่ต้องการปลดปล่อยทาส ถ้าไม่ออกมาสกัดขัดขวางเองโดยตรงก็จะไปยุให้ฝ่ายศัตรูออกมาขจัดกวาดล้างให้การปฏิวัติแต่ละครั้งจึงต้องกำจัดคนเหล่านี้ไปไม่น้อยกว่าฝ่ายที่ตั้งตัวเป็นศัตรูโดยตรง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเจ็บปวดนัก

ความตาย การบาดเจ็บทุพพลภาพ และบาดแผลทางใจของคนไทยเป็นล้านๆ เกิดจากกำลังจากกองทัพบกและเครือข่าย โดยคำสั่งโดยตรงจาก พลเอกประยุทธ์ฯ และในความรับผิดชอบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างน้อยสามครั้งในห้วงเวลา ๒ ปี ตั้งแต่สามเหลี่ยมดินแดงเมื่อ พ.ศ.๒๕๕๒ จนถึง ๑๐ เมษายนและ ๑๙ พฤษภาคมแห่ง พ.ศ.๒๕๕๓ นี่เป็นข้อเท็จจริงอันมิอาจปฏิเสธได้

วันนี้มูลนายเขาสั่งลงมาให้ ปรองดองกัน โดยอ้างว่าหากฝ่ายประชาชนยังคงมุ่งมั่นกับการหาตัวฆาตกรผู้กระทำความผิด ผู้นำขบวนประชาธิปไตยยังหนุนให้มวลชนแสดงความต้องการอันแท้จริงตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยต่อไป บ้านเมืองก็จะไม่มีทางออก

คนที่มีสมองและสภาพจิตใจอย่างทาสก็อาจจะพยักหน้ารับว่าจริง เราต้องปรองดองกัน

แต่คนที่ต้องการเลิกทาสในตนจะเกิดคำถามกับตัวเองทันทีว่า เหตุใดเราต้องปรองดองกับผู้ที่มีเจตนาทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ต้น และการปรองดองที่จะทำให้ร่วมเตียงเคียงหมอนกับอาชญากรได้ต่อไปนั้น เป็นสิ่งที่เราควรปรารถนากระนั้นหรือ?

เป็นไปได้ไหมว่า บ้านเมืองถึงทางตันเพราะความชั่วร้ายของระบอบที่ดำรงอยู่ มันกลายเป็นขยะก้อนใหญ่ที่อุดทางออกของบ้านเมืองเอาไว้จนหมดสิ้น ความชั่วร้ายจึงเอ่อท้นขึ้นมาจนมองเห็นและได้กลิ่นเหม็นเน่ากันไปทั่ว

หน้าที่ของขบวนประชาธิปไตยคือทะลวงท่อหรือดูดขยะนั้นไปทิ้งเสียที่อื่น ไม่ใช่ขมีขมันเข้าช่วยเขาเหมือนช่างซ่อมท่อที่ต้องการเอาใจเจ้าของบ้าน

แนวคิดที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ก่อให้เกิดผลปฏิบัติที่แตกต่างกันมาก

อยากเลือกตั้งก็เลือกไปให้ดีไม่มีปัญหา โดยหวังให้กระบวนการเลือกตั้งนั้นเองพิสูจน์ความเป็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการของบ้านเมืองจนเป็นที่ประจักษ์ ก็ยังนับว่ามีประโยชน์ แต่ท่าทีระหว่างนั้นต้องเป็นผู้ดีประชาธิปไตยทุกกระเบียดนิ้ว

อย่าลดตัวเป็นจิ้งหรีดให้เขาปั่นหัว

อย่าลดราคาในนโยบายเพื่อประชาธิปไตยทุกชนิด

และอย่าสังสรรค์วิสาสะกับโจรเป็นอันขาด

ข้อสรุปง่ายๆ คือ จงเป็นผู้นำไทย เลิกนิสัยผู้นำทาส.

------------------------------------------------------------------------------

ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail :tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com//

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น