ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
สิทธิ์ในการฆ่าคน โดย กาหลิบ
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง สิทธิ์ในการฆ่าคน
โดย กาหลิบ
ใครไม่รู้ว่าเมืองไทยเราอยู่ในระบอบเผด็จการซ่อนรูปและหลงละเมอว่าจะพัฒนาประเทศลูกเดียวโดยไม่พัฒนากลไกการเมืองเลยนั้น ถือเป็นความหลงชนิดใหม่ ใครไม่เคยได้ยินว่า ประชาธิปไตยเมืองไทยเป็นละครสลับฉากของผู้กุมอำนาจที่แท้จริง ถือว่าประสาทหูพิการ และใครมองไม่เห็นว่าเหตุการณ์ทุกอย่างกำลังนำไปสู่ความสูญเสียในสิทธิ์การเมืองของประชาชนอีกครั้งในเวลาไม่นานนัก ก็ต้องถือว่าตาบอดไม่น้อยไปกว่าเขา
หลักฐานชิ้นใหม่คือ ผลสอบสวนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งเรียกว่าเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ ที่ปัจจุบันนำโดยตัวประธานคือคุณอมรา พงศ์ศาพิชญ์
สิ่งที้เกิดขึ้นสองอย่างคือ หนึ่ง-การเลื่อนเผยแพร่รายงานดังกล่าวนั้นให้พ้นจากการเลือกตั้ง สอง-เนื้อความรายงานที่สรุปว่าการฆ่าหมู่ประชาชนเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ รัฐบาลเป็นฝ่ายถูก และประชาชนเป็นฝ่ายผิด
สองประเด็นนี้มีความเกี่ยวโยงกันอย่างลึกซึ้ง
สาระสำคัญของรายงานฉบับนี้ระบุว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เป็นการก่อการร้ายตามความหมายของกฎหมายไทย เพราะมีกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมมูล รัฐบาลชุดนั้นจึงมีสิทธิที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมได้ รัฐบาลจึงไม่มีความผิด
แต่รายงานกลับมิได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า ประชาชนที่ถูกสังหารอย่างจงใจด้วยการใช้พลแม่นปืนจ่อยิงเป็นคนๆ ในที่โล่งแจ้งและในเวลากลางวันแสกๆ นั้น มิได้มีอาวุธใดในตัวเลย หากกองกำลังติดอาวุธมีจริง เหตุใดเหยื่อเหล่านี้จึงมิได้รับการปกป้องคุ้มครองใดๆ อาวุธเล็กน้อยที่อ้างกันว่าค้นพบในที่ชุมนุมก็เป็นอาวุธพกพาส่วนบุคคลทั้งสิ้น ตามหลักฐานอันชัดเจนในมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เราจึงต้องตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อ “องค์การอิสระ” ของคุณอมราฯ ว่าเอาสิ่งใดมายืนยันความชอบธรรมของรัฐบาลชุดนั้นในการฆ่าประชาชน
จะปล่อยโจรเข้าวัดทั้งที ควรตรวจสอบให้รัดกุมเพื่อรักษาพระศาสนาเสียหน่อยไม่ดีหรือ?
เมื่อรู้ว่าผลสอบสวนเป็นเช่นนั้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงมีมติในหมู่กันเองเลื่อนการเผยแพร่ผลการสอบสวนนั้นมาจนหลังการเลือกตั้ง ๓ ก.ค. ๒๕๕๔
ชะรอยจะกลัวว่าความแค้นของประชาชนผู้สนับสนุนขบวนประชาธิปไตยจะกระทบต่อการเลือกตั้ง เพราะเลือกตั้งเที่ยวนั้นมีทั้งพรรคเหยื่อและพรรคฆาตกรมือเปื้อนเลือดลงสนามกันพร้อมหน้าตามคติปรองดอง
ถ้าเป็นอารยประเทศที่มีกรอบความคิดที่ก้าวหน้ากว่าปรองดองระหว่างพระกับโจรแล้วนำมาหารสอง การเลื่อนสาระสำคัญของสังคมเช่นนี้ย่อมชวนให้เราสอบสวนทวนพยานกันว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้เจ้าของประเทศได้รู้ว่าเขาเป็น “อิสระ” กันเพื่ออะไรและเพื่อใคร
ถามชัดๆ คือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นคณะกรรมการเพื่อสิทธิของใครกันแน่
สิทธิของรัฐ?
สิทธิของศักดินา?
สิทธิที่จะครองอำนาจเผด็จการ?
สิทธิของระบบราชการและข้าราชการหรือคนของรัฐโดยรวม?
แค่สี่กลุ่มข้างบนนี้อ้างใช้สิทธิ์ ก็ไม่เหลืออะไรในกรอบมนุษยชนให้ประชาชนไปเรียกร้องส่วนแบ่งด้วยแล้ว
เหมือนเรื่องงบประมาณที่เทียบกับไอศครีมแท่ง คนข้างบนเลียคนละแผล็บแล้วส่งต่อลงมาจนถึงประชาชน ประชาชนคนสุดท้ายก็ได้แต่ไม้เปล่าๆ หรือบางทีไม่เหลือไม้เลยด้วยซ้ำ
อำนาจอธิปไตยก็ไม่ต่างจากนั้น
เราจะจดจำสาระของรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติครั้งนี้ไว้ เมื่อถึงเวลาเหมาะควรเราจะได้ยกบัญชีผู้ทำลายประชาธิปไตยขึ้นสู่ศาลประชาชนในคราวเดียว.
--------------------------------------------------------------------------------
ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น