ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554
คณะทำงานมารประเทศ โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง คณะทำงานมารประเทศ
โดย กาหลิบ
การจับกุม นายกิตติชัย เชิงชาญศิลปกุล กระทำอย่างเงียบกริบ คนที่สังคมทั่วไปรู้จักในนามของ “พี่ชาย ดา ตอปิโด” หายตัวไปจากการติดต่อสื่อสารกับญาติมิตรเพื่อนฝูงหลายวัน ก่อนที่จะรู้กันว่าเขาถูกจับกุมตัวโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เสียแล้ว
หนึ่งในคนที่ไม่รู้ว่าเขาถูกจับคือทนายความของเขาเอง นั่นแปลว่านายกิตติชัยฯ ไม่ได้รับสิทธิ์ในการปรึกษาหารือกับตัวแทนทางกฎหมายของตนเอง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างชัดแจ้ง จนแทบไม่ต้องถามต่อเลยว่าเขามีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ หากกระบวนการฉ้อฉลตั้งแต่ต้น เราจะสนใจใยดีต่อผลในขั้นสุดท้ายไปทำไมกัน?
ตั้งสติและมองภาพรวมสักนิด เราจะรู้ได้เองว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้
นายกิตติชัยฯ เป็นญาติคนเดียวที่เทียวขึ้นลงระหว่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต เพื่อดูแลน้องสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นนักโทษในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการแสดงทัศนะกลางสนามหลวงว่าการยึดอำนาจเมื่อวันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ เกิดจากใคร และเพราะอะไรแน่ โดยลำดับพฤติกรรมโดยละเอียดของคนที่ผู้พูดเชื่อว่าเป็นศูนย์กลางอันแท้จริงของฝ่ายที่ต้องการทำลายประชาธิปไตยและอำนาจสูงสุดของประชาชน
ภาพของพี่ชายที่มาช่วยดูแลน้องสาวที่ป่วยและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงเป็นภาพที่ชัดเจนต่อผู้ที่อยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายเผด็จการตรงกันข้าม
บัดนี้คนๆ นั้นถูกจับกุมดำเนินคดีในเรื่องอะไรก็ไม่แน่ชัด และถูกปฏิเสธสิทธิที่จะมีทนายความอยู่ข้างกาย
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องของคดีความธรรมดา แต่เป็นการสื่อสารทางการเมืองจากฝ่ายตรงข้าม
ข้อความที่เขาต้องการสื่อสารนั่นคือ ใครก็ตามที่ช่วยเหลือดูแล หรือแม้กระทั่งแสดงน้ำใจต่อผู้ที่เขาตราหน้าว่าหมิ่นเบื้องสูง ย่อมอยู่ในข่ายที่จะถูกลากเข้าสู่ขุมนรกในกระบวนการ “ยุติธรรม” โดยไม่ต้องมีความผิดในฐานเดียวกันแต่อย่างใดเลย การติดคุกหรือรับโทษทัณฑ์ใดๆ จากรัฐในยุคนี้เป็นของง่าย “เขา” ช่วยหาความผิดฐานใหม่ให้ได้เสมอ
ต่อไปความผิดว่าเลี่ยงภาษี ทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แม้กระทั่งเมาแล้วขับ ก็อาจถูกนำมาใช้สงเคราะห์ผู้คนที่เขาเห็นว่ามีน้ำใจไมตรี หรือยอมรับอุดมการณ์ของคนที่ถูกกล่าวหาในความผิดอันเกี่ยวกับกษัตริย์และพระราชวงศ์ได้
การลงทัณฑ์กับตัวคนที่ถูกตราหน้าว่ากระทำผิดในเรื่องนี้ ดูจะไม่เพียงพออีกแล้ว บัดนี้ “เขา” ส่งสัญญาณลงมาตามสายแล้วว่า อำนาจราชศักดิ์นี้ต้องขยายไปกระทำชำเราเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ผู้ร่วมงาน ผู้เป็นแนวร่วมทางอุดมการณ์และการเมือง และหน้าไหนที่มันบังอาจ “ท้าทาย” อำนาจอันล้นพ้นนี้ของผู้ถูกกล่าวหาและลงโทษทั้งหมดด้วย
จุดประสงค์ก็อันเก่าที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายสิบปีแล้ว นั่นคือเพื่อข่มขู่ให้หวาดกลัว ไม่กล้าแม้กระทั่งจะคิดถึงความถูกผิด และสอนให้คนไทยทอดทิ้งกันและกันเพื่อเอาตัวรอดก่อน
ความจงรักภักดีบางอย่างนั้น ต่อให้แลกมาด้วยการอกตัญญูต่อพ่อแม่ ทรยศหักหลังครอบครัวและเพื่อนฝูง หรือขายชาติเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัว “เขา” ก็ชอบและหิวโหยต่อพฤติกรรมเยี่ยงนั้น
สิ่งที่ “เขา” ต้องการไม่ใช่ความรักนับถืออย่างจริงใจหรือความศรัทธาโดยบริสุทธิ์ แต่เป็นความกลัวจากขั้วหัวใจจนไม่กล้าเอ่ยปากว่าไม่รัก
จนสุดท้าย ความจงรักภักดีที่ใช้กฎหมายเถื่อนๆ บังคับเอา “เขา” ก็ยังชอบ
ความสอพลอตอแหลที่ปรากฏตามสื่อกระแสหลักต่างๆ จนทุกคนต้องวิ่งแข่งแสดงความรักใคร่อย่างชนิดหาที่ไหนไม่ได้ในโลกของคนหรือสัตว์ ถึงจะพบว่าเสแสร้งขนาดไหนก็ยังพอใจและเรียกหา
แนวคิดข่มขู่คนรอบข้างของผู้ต้องหา “คดีหมิ่นฯ” ในลักษณะนี้ ไม่มีวันออกมาจากข้าราชการคนใดคนหนึ่งหรือหน่วยใดหน่วยหนึ่งเป็นแน่ เราจึงสืบค้นลงไปจนรู้ว่า บัดนี้ได้เกิดคณะทำงานที่ถูกตั้งขึ้นมาแล้วอย่างลับๆ ภายในระบอบศักดินา-อำมาตย์ โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์อาจจะไม่รู้และไม่ได้มอง คณะมีหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์ วางกลยุทธ์ และสร้างกิจกรรมภาคสนามที่หลากหลาย เพื่อทำลายมวลชน “ตาสว่าง” โดยตรงและอย่างเบ็ดเสร็จ
งานลักษณะนี้ไหลออกมาจากมันสมองที่เฉียบแหลม แต่ด้วยทัศนะอันโบร่ำโบราณนี่เอง
คดีหมิ่นเบื้องสูงคดีที่สองภายใต้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้เกิดขึ้นมาก่อนกรณีนายกิตติชัยฯ แล้วเพียงไม่กี่วัน และคดีนายกิตติชัยฯ อาจเป็นกรณีแรกๆ ของกลยุทธ์ใหม่ที่คณะทำงานชุดนี้กำหนดขึ้น
ขยันขันแข็งกันไม่น้อยทีเดียว
ต้องขอแรงท่านสาธุคุณทั้งหลาย ช่วยฉายไฟไปที่คณะทำงานมารประเทศชุดนี้กันสักหน่อยเถิด.
--------------------------------------------------------------------------------
สนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี14วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail :tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น