ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 2 แข่งนโยบาย...เชิญ


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอนที่ 2 : แข่งนโยบาย...เชิญ!
โดย : กาหลิบ

---------------------------------------------------------------------------
พรรคการเมืองในโลกที่ประชาธิปไตยพัฒนามากกว่าไทย มักจะเกิดและดำรงชีพในฐานที่เป็นพรรคการเมืองอู่ได้ก็เพราะเสนอนโยบาย ที่มีคนพอใจอย่างเพียงพอ
---------------------------------------------------------------------------

ในที่สุดพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ก็ทำในสิ่งที่พึงกระทำ พึงกระทำมาสักสี่ห้าปีแล้วล่ะครับ นั่นคือการเสนอนโยบายเข้ามาแข่งขันกับไทยรักไทย

ถึงสิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าประชาธิปัตย์ เสนอในโฆษณาหาเสียงจะไม่ได้ใหม่เอี่ยมหรือสร้างความตื่นเต้นอะไรขึ้นมาได้ แต่ต้องเรียกว่าเป็นความพยายามที่จะทำอะไรมากกว่าจับคำพูดของคนอื่นมาตั้งแง่หาเรื่องเพื่อเอาเชิงการเมืองกันเฉยๆ

อย่างน้อยก็จะได้ลดข้อกล่าวหาว่าพรรคนี้ดีแต่ด่า ไม่เสนอทางออกอะไรให้กับชาติบ้านเมือง

ผมเคยพูดในเวทีสาธารณะมาหลายครั้งว่า ไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองหนึ่ง ประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่ง เช่นเดียวกับชาติไทย มหาชน พลังธรรม ประชาราช ฯลฯ ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะนำเสนอนโยบายให้โดนใจประชาชนออกมา ไม่มีใครย่อหย่อนกว่าใคร

แต่หลายพรรครวมทั้งประชาธิปัตย์ก็คุมเชิงอยู่ตลอดมา ไม่ค่อยเสนออะไรออกมาให้คนเขาตัดสิน แต่ใช้วิธีนั่งซุ่ม รอว่าพรรคไทยรักไทยเสนออะไรออกมาแล้วก็จับไปใส่แนวโจมตีหลักๆ ที่สร้างรองรับเอาไว้ล่วงหน้า เช่น เน้นเงินไม่เน้นคน ติดสินบนประชาชนเพื่อคะแนนเสียง มีผลประโยชน์ส่วนตัวเกี่ยวพัน ฯลฯ

ไม่ผิดอะไรกับคนที่คอยดักซุ่มยิงนก ส่งผลให้นกหมดป่าไปเรื่อยๆ ไม่เกิดมรรคผลใดๆ

พรรคการเมืองในโลกที่ประชาธิปไตยพัฒนามากกว่าไทย มักจะเกิดและดำรงชีพในฐานที่เป็นพรรคการเมืองอยู่ได้ก็เพราะเสนอนโยบายที่มีคนพอใจอย่างเพียงพอ และได้รับเลือกตั้งจากคนกลุ่มนั้นๆ และคนกลุ่มอื่นๆ ที่อาจเปลี่ยนใจเป็นครั้งคราวมาสนับสนุน

ดูอังกฤษจะชัดเจนที่สุด ยกแม่บทมาเลย

พรรคอนุรักษ์นิยมเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะความภูมิใจในวิถีชีวิตแบบจารีตประเพณี เห็นว่าความเป็นอังกฤษนั้นวิเศษสุด รัฐบาลจึงควรทำทุกอย่างที่เป็นการรักษาวิธีการแบบเดิมเอาไว้ เพราะของใหม่นั้นไม่แน่นอนและดูเหมือนจะส่งผลที่เลวลงไปกว่าเดิม เปลี่ยนอะไรก็น้อยๆ และเฉพาะในรายละเอียด

พรรคแรงงานยึดแนวทางตรงกันข้าม เห็นว่าสังคมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เกิดชนชั้นทางสังคมและเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่ต้องการการมีส่วนร่วม จะไปปล่อยชนชั้นนำ (ทั้งโดยระบบศักดินาและระบบเศรษฐกิจใหม่) ยึดครองไม่ได้ สังคมจะวุ่นวายยุ่งเหยิง ขาดความเป็นธรรม พรรคนี้จะพูดถึงการปฏิรูปสังคมอยู่เรื่อย
พรรคเสรีประชาธิปไตยต้องการจะผสมสองแนวทางนี้ แต่หาผู้สนับสนุนประเภทยืนถ่างขาไม่ค่อยได้ ก็เลยเป็นพรรคอันดับสามและเล็กที่สุดในอังกฤษ

เมื่อมีประเด็นใหม่ๆ ของปัจจุบันเข้ามาท้าทาย เช่น ความร่วมมือกับสหภาพยุโรป เสรีภาพในอินเตอร์เน็ต การส่งเสริม SMEs ฯลฯ ก็จะนำแนวทางหลักของพรรคมาจับและกำหนดนโยบายในรายละเอียดออกมา เสนอให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้ง

ชัดเจนและมีประโยชน์ยิ่ง

สิ่งที่ไทยรักไทยทำมาตลอด และประชาธิปัตย์ตัดสินใจเปิดตัวคุณอภิสิทธิ์ฯ ด้วยแนวทางที่คล้ายกันนี้ น่าจะทำให้การเมืองสว่างขึ้น เพราะอนาคตนั้นสวยงามและสร้างความหวัง แต่การย่ำเท้าก่นด่ากันในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้นั้น ทำให้คนเบื่อหน่ายการเมืองลงไปถึงกระดูกดำ

เผลอๆ จะเบื่อเป็นคนไทยเข้าให้

อย่าเสียเวลาแก้ตัวกันอีกเลยครับว่าเราไม่ได้ผิดไม่ได้พลั้งอย่างเขาว่า ออกโรงมาเสนอแนวทางจากมันสมองของตนเองเพื่อแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดื์ศรีจะดีกว่า

การเมืองใหม่แปลว่านโยบายต้องสำคัญกว่าหรืออย่างน้อยก็สำคัญเท่าๆ กับตัวบุคคล

เพื่อให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

เพื่อให้พรรคพวกสำคัญน้อยกว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์

เพื่อให้พลโลกเขาเข้าใจว่าคนไทยทุ่มเถียงกันหน้าดำหน้าแดงในเรื่องสำมะหาอันใด (คำของคุณเรวัตร พันธุ์พิพัฒน์ ณ ซีไรต์)

และเพื่อให้รู้ว่าคนไทยมีสาระ ไม่ใช่มีแต่เกมการเมือง.

----------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น