ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2553
คำชี้แจงรัฐบาลอำมาตย์แจ้งจับ Thai Red News
โดย : ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น
ที่มา : สำนักพิมพ์ หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์”
เรื่อง ชี้แจงการถูกรัฐบาลอำมาตย์แจ้งจับ
เรียน ท่านสมาชิกและท่านผู้อ่านไทยเรดนิวส์ที่เคารพ
สมาชิกและท่านผู้อ่านหลายท่าน ได้อ่านข่าวในสื่อต่างๆ ทั้งสื่อเอกชนและสื่อของรัฐแล้ว ได้โทรมาถามด้วยความกังวล ว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” เปิดมาได้ยังไม่ถึงปี จะถูกปิดเสียแล้วหรือ คงยังหรอกครับ ขอทุกท่านกรุณาทำความเข้าใจ กรองเนื้อข่าวตามสีสื่อด้วย ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์ของอำมาตย์ เขาจะพยายามให้ร้ายด้วยถ้อยคำ ที่ว่าเราเป็นหนังสือพิมพ์ “หางแดง” บ้าง “ไข่แม้ว” บ้าง ซึ่งเรานิ่งและเห็นเป็นคำของ “ทาสที่ปล่อยไม่ไป” ที่พยายามใส่ไคล้ใส่ความเราเท่านั้น จึงขอให้ท่านได้วิเคราะห์ด้วย
ที่สำคัญวันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดกับเรา ขอทุกท่านไม่ต้องกลัว ที่จะร่วมกันสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ต้องกลัวอะไร และขอท่านร่วมทำใจกับพวกเรา ในกองบก. และในคณะที่ปรึกษาด้วย หากเราถูกทำร้าย ด้วยกฎหมายที่อาจจะไม่ใช่กฎแห่งประชาธิปไตย ไม่ใช่กฎเพื่อสิทธิเสรีภาพของคนไทย เพราะพวกเขาเองก็ไม่เคยเข้าใจว่ามันคืออะไร เขาไม่เคยรับรู้ว่า สิทธิในการแสดงความคิดความเห็นของมนุษย์ มีความ สำคัญมากเพียงใดด้วย
อนุสนธิ ที่ทำให้มีการแจ้งความต่อ กองปราบฯให้จับไทยเรดนิวส์นั้น ก็น่าจะเกิดจากการที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้กระทำการเขียน และเสนอด้วยจิตวิญญาณของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และต่อต้าน อำนาจเผด็จการ ต่อต้านพวกกบฏ มาตั้งแต่ต้น หนังสือพิมพ์เราออกครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ ก่อนชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยสาระในสื่อสิ่งพิมพ์ของเรา ต้านกบฎ ต้านเผด็จการ ดังนั้นพวกเผด็จการที่กุมอำนาจอยู่ จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะต้องกำจัดเราให้ได้ แต่เราก็ไม่เคยตีพิมพ์ข้อความอะไรที่จะเป็นการทำ ผิดกฎหมาย หรือให้ถูกฟ้องด้วยข้อหาหมิ่นประมาทได้ แต่สุดท้ายเขาก็อาจจะใช้วิธีกล่าวหานี้ (ว่าไม่จดแจ้ง) ที่ถือว่าน่าจะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย โดยที่การกล่าวหาอาจจะเป็นเพียงการดำเนินการ ตามคำสั่งของอำนาจเผด็จการที่พยายามจะกำจัดเรา เพื่อไม่ให้ไปรบกวนเขาในการ ครองประเทศโดยไม่ชอบธรรม แต่เราพร้อมสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม
กล่าวถึงข้อกล่าวหา เนื้อเรื่องตามข่าวคือ เมื่อวันที่ ๑๙ ม.ค. ๕๒ ที่ นายธีระ สลักเพชร รมว. วัฒนธรรมฯ พรรค ปชป. ที่ดูแลกรมศิลปากร ที่มีนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต เป็นอธิบดี มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่มีนางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน เป็นผู้อำนวยการ ได้ร่วมกันเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ต่อกองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ ๑๔ ม.ค. ๕๒ เพื่อดำเนินคดี นายสมยศ พฤษาเกษมสุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ด้วย ๒ ข้อหา คือ
๑) กระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่าไม่จดแจ้งการพิมพ์ ตามมาตรา ๒๕ ที่ตราว่า “ผู้ใดออกหนังสือพิมพ์โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับจดแจ้งตามมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ
๒) กระทำผิดต่อมาตรา ๙ ที่กำหนดว่า “ให้ผู้พิมพ์ ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา ๘ จำนวน ๒ ฉบับให้กับหอสมุดแห่งชาติ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเผยแพร่ แต่หอสมุดฯไม่เคยได้รับนสพ.ฉบับนี้เลย” ตามข่าวรายงาน
หนังสือพิมพ์นี้ที่ชื่อเต็มว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ขอชี้แจงตามข้อกล่าวหาดังนี้คือ
๑)เจตนาการออกหนังสือพิมพ์นี้ ถือว่าออกเป็นสื่อ ที่การประกันด้วยหลักแห่งสิทธิเสรีภาพในการคิด การเขียนและการสื่อสาร ตามกฎบัตรสหประชาชาติและรัฐธรรมนูญของประชาชน หนังสือพิมพ์ฉบับเริ่มแรก ที่เราตีพิมพ์ ชื่อ “Red News” หรือ “คนเสื้อแดง” ฉบับแรกพิมพ์ขาวดำ ออกครั้งแรก เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ ขนาดแท็บลอยด์ ๑๒ หน้า เป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะกิจ ของกลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารด้านสังคมการเมือง เพื่อสื่อสารในการต่อสู้ เรียกร้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดงที่ร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะสื่ออื่นๆไม่เสนอข่าวสาร ตามความเป็นจริง ที่เห็นโดยกลุ่มคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยสงบและปราศจากอาวุธ
ต่อมาเมื่อรัฐบาลอำมาตย์ ได้สลายการชุมนุมเมื่อ ๑๔ เมษายน ๕๒ สื่อหนังสือพิมพ์เรา จึงต้องหยุดไปพร้อมกับทีวี D-Station ที่ถูกปิดโดยเผด็จการ หลังจัดงานระดมทุนทำ นสพ.กันอีกเมื่อ ๒๓ พ.ค. ๕๒ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ก่อนออก นสพ.ฉบับใหม่ เราได้ไปขอจดแจ้งตามกฎหมาย ในชื่อนสพ. “เรดนิวส์” หรือ “ไทยเรดนิวส์” หรือ “คนเสื้อแดง” ฯลฯ แต่หอสมุดแห่งชาติไม่อนุญาตให้จดแจ้ง โดยให้เหตุผลว่ามีชื่อพ้องกับที่คนอื่นได้จองชื่อไว้แล้ว
ต่อมามีคนบางคนติดต่อเรา เพื่อขอเงินส่วยหลายแสนบาท เพื่อให้เราซื้อหัวหนังสือ ที่เขาจดแจ้งไว้ โดยไม่ได้ทำอะไร หอสมุดฯก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีระเบียบอะไร ไม่มีคำแนะนำอะไรให้หอสมุดดำเนินการอะไรอย่างใด กับผู้ที่จดจองชื่อไว้เฉยๆอีกด้วย
โดยที่พวกเราไม่ยินดีจ่ายเงินส่วย ให้พวกหาประโยชน์มิชอบที่มาขอส่วยค่าหัวหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ใช่วิสัยเรา เราจึงได้ใช้หัวหนังสือพิมพ์ชื่อ “วิวาทะ” ที่ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เพื่อนร่วมงานเราได้ จดแจ้งตามกฎหมายไว้นานแล้ว จึงเป็นชื่อหนังสือนี้ตลอดมา โดยมีชื่อหนังสือพิมพ์เป็นทางการว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ดังที่เห็น เช่นเดียวกับหลายๆฉบับในท้องตลาดในวันนี้ ที่มีทั้งชื่อรองชื่อหลัก ด้วยเราต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เราจึงใช้ชื่อหนังสือพิมพ์ว่า “วิวาทะ ฉบับไทยเรดนิวส์” มาตั้งแต่ต้น ตามที่ได้จดแจ้งไว้ และใช้มาจนบัดนี้ ขณะเดียวกัน เรากำลังเตรียมการเพื่อให้จดแจ้งชื่อใหม่นี้ให้ได้อีกด้วย จึงขอเรียนชี้แจงทุกท่านว่าเราจดแจ้งการพิมพ์แล้ว และพวกเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย มาตรา ๒๕ ตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
การที่รัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปแจ้งความที่กองปราบปราม โดยไม่มีการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้านั้น จึงน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่ ของเจ้าพนักงานของรัฐ ตามกฎหมายอีกด้วย อาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือเป็นเพราะความไม่รู้ หรือเพราะนโยบายปราบสื่อประชาธิปไตย ของรัฐบาลเผด็จการ ด้วยสาระหนังสือเราต่อต้านอำนาจกบฎและเผด็จการนั่นเอง
เราจึงขอให้คำชี้แจงนี้ เป็นการชี้แจงต่อ จนท.กองปราบปราม ให้ได้รับทราบความจริงด้วย และให้รู้ด้วยว่าพวกเราไม่ใช่อาชญากร ที่ทำการก่อการร้ายต่อใคร ต่อสังคมใด ยกเว้นเจตนาเพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการอำมาตยาธิปไตย เท่านั้น จึงไม่ประสงค์ให้สื่อมวลชนเทียมฉบับใด ที่เป็นทาสเผด็จการ แสดงความสะใจหรือดีใจออกนอกหน้า ที่เราถูกแจ้งจับ โดยไม่ได้กระทำผิด ขอพวกเราสื่อมวลชนทั้งหลาย ได้ช่วยกันพัฒนาจิตใจและยกระดับจรรยาบรรณวิชาชีพของพวกเราด้วยเถิด
๒) ตามกฎหมาย มาตรา ๘ ที่ให้เรานำส่งหนังสือพิมพ์ จำนวนสองฉบับให้หอสมุดแห่งชาตินั้น ก็ไม่เคยมีการแจ้ง เตือนหรือติดต่อใดๆ จากหอสมุดแห่งชาติ หรือจากใครมาก่อน ตามธรรมเนียมของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ อย่างตรงไปตรงมาเลย ทั้งๆที่เราไม่แน่ใจว่าท่าน ใช้มาตรฐานปฏิบัติต่อเรา เป็นมาตรฐานเดียว เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับหรือไม่ หอสมุดฯได้รับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ตีพิมพ์หรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ได้นำส่งหนังสือพิมพ์เราทุกฉบับ ให้หอสมุดแห่งชาติแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๒ ถือว่าเราได้ทำตามกฎหมาย ที่ถูกแจ้งกล่าวหาไว้ในข้อสองแล้ว หวังว่าจะไม่มีสองมาตรฐาน
แท้จริงแล้ว ข้อกล่าวหาของท่านนั้น เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่มีขึ้นทีหลังในยุคเผด็จการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นหอสมุดแห่งชาติ ด้วยกฎหมายที่เกิดจากอำนาจเผด็จการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผู้แต่งตั้งสมาชิกสภา คือพล อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นแทนกฎหมายเดิม ที่กรมตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบมาก่อน ที่เราได้จดแจ้งไว้ จึงขอว่าท่านไม่ควรใช้กฎหมายนี้ย้อนหลังด้วย เพราะผิดต่อหลักนิติธรรม และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราขอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เคารพสิทธิเสรีภาพของคน ตามหลักแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย
จึงเรียนมาเพื่อชี้แจงให้ท่านสมาชิก และท่านผู้อ่านไทยเรดนิวส์ทราบ และขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรวมทั้งกองปราบปราบ ได้กรุณาทราบด้วย
ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างยิ่ง
(ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น)
ผู้อำนวยการบริหาร
หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์”
วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๓
ที่มา : สำนักพิมพ์ หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์”
เรื่อง ชี้แจงการถูกรัฐบาลอำมาตย์แจ้งจับ
เรียน ท่านสมาชิกและท่านผู้อ่านไทยเรดนิวส์ที่เคารพ
สมาชิกและท่านผู้อ่านหลายท่าน ได้อ่านข่าวในสื่อต่างๆ ทั้งสื่อเอกชนและสื่อของรัฐแล้ว ได้โทรมาถามด้วยความกังวล ว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” เปิดมาได้ยังไม่ถึงปี จะถูกปิดเสียแล้วหรือ คงยังหรอกครับ ขอทุกท่านกรุณาทำความเข้าใจ กรองเนื้อข่าวตามสีสื่อด้วย ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์ของอำมาตย์ เขาจะพยายามให้ร้ายด้วยถ้อยคำ ที่ว่าเราเป็นหนังสือพิมพ์ “หางแดง” บ้าง “ไข่แม้ว” บ้าง ซึ่งเรานิ่งและเห็นเป็นคำของ “ทาสที่ปล่อยไม่ไป” ที่พยายามใส่ไคล้ใส่ความเราเท่านั้น จึงขอให้ท่านได้วิเคราะห์ด้วย
ที่สำคัญวันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดกับเรา ขอทุกท่านไม่ต้องกลัว ที่จะร่วมกันสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป โดยไม่ต้องกลัวอะไร และขอท่านร่วมทำใจกับพวกเรา ในกองบก. และในคณะที่ปรึกษาด้วย หากเราถูกทำร้าย ด้วยกฎหมายที่อาจจะไม่ใช่กฎแห่งประชาธิปไตย ไม่ใช่กฎเพื่อสิทธิเสรีภาพของคนไทย เพราะพวกเขาเองก็ไม่เคยเข้าใจว่ามันคืออะไร เขาไม่เคยรับรู้ว่า สิทธิในการแสดงความคิดความเห็นของมนุษย์ มีความ สำคัญมากเพียงใดด้วย
อนุสนธิ ที่ทำให้มีการแจ้งความต่อ กองปราบฯให้จับไทยเรดนิวส์นั้น ก็น่าจะเกิดจากการที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ได้กระทำการเขียน และเสนอด้วยจิตวิญญาณของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และต่อต้าน อำนาจเผด็จการ ต่อต้านพวกกบฏ มาตั้งแต่ต้น หนังสือพิมพ์เราออกครั้งแรกเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ ก่อนชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยสาระในสื่อสิ่งพิมพ์ของเรา ต้านกบฎ ต้านเผด็จการ ดังนั้นพวกเผด็จการที่กุมอำนาจอยู่ จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะต้องกำจัดเราให้ได้ แต่เราก็ไม่เคยตีพิมพ์ข้อความอะไรที่จะเป็นการทำ ผิดกฎหมาย หรือให้ถูกฟ้องด้วยข้อหาหมิ่นประมาทได้ แต่สุดท้ายเขาก็อาจจะใช้วิธีกล่าวหานี้ (ว่าไม่จดแจ้ง) ที่ถือว่าน่าจะไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย โดยที่การกล่าวหาอาจจะเป็นเพียงการดำเนินการ ตามคำสั่งของอำนาจเผด็จการที่พยายามจะกำจัดเรา เพื่อไม่ให้ไปรบกวนเขาในการ ครองประเทศโดยไม่ชอบธรรม แต่เราพร้อมสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม
กล่าวถึงข้อกล่าวหา เนื้อเรื่องตามข่าวคือ เมื่อวันที่ ๑๙ ม.ค. ๕๒ ที่ นายธีระ สลักเพชร รมว. วัฒนธรรมฯ พรรค ปชป. ที่ดูแลกรมศิลปากร ที่มีนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต เป็นอธิบดี มีหน้าที่กำกับดูแลสำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่มีนางวิลาวัณย์ ทรัพย์พันแสน เป็นผู้อำนวยการ ได้ร่วมกันเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ต่อกองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่ ๑๔ ม.ค. ๕๒ เพื่อดำเนินคดี นายสมยศ พฤษาเกษมสุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา ด้วย ๒ ข้อหา คือ
๑) กระทำผิดต่อ พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ว่าไม่จดแจ้งการพิมพ์ ตามมาตรา ๒๕ ที่ตราว่า “ผู้ใดออกหนังสือพิมพ์โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รับจดแจ้งตามมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ๖ เดือน ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” และ
๒) กระทำผิดต่อมาตรา ๙ ที่กำหนดว่า “ให้ผู้พิมพ์ ส่งสิ่งพิมพ์ ตามมาตรา ๘ จำนวน ๒ ฉบับให้กับหอสมุดแห่งชาติ ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเผยแพร่ แต่หอสมุดฯไม่เคยได้รับนสพ.ฉบับนี้เลย” ตามข่าวรายงาน
หนังสือพิมพ์นี้ที่ชื่อเต็มว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ขอชี้แจงตามข้อกล่าวหาดังนี้คือ
๑)เจตนาการออกหนังสือพิมพ์นี้ ถือว่าออกเป็นสื่อ ที่การประกันด้วยหลักแห่งสิทธิเสรีภาพในการคิด การเขียนและการสื่อสาร ตามกฎบัตรสหประชาชาติและรัฐธรรมนูญของประชาชน หนังสือพิมพ์ฉบับเริ่มแรก ที่เราตีพิมพ์ ชื่อ “Red News” หรือ “คนเสื้อแดง” ฉบับแรกพิมพ์ขาวดำ ออกครั้งแรก เมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ ขนาดแท็บลอยด์ ๑๒ หน้า เป็นหนังสือพิมพ์เฉพาะกิจ ของกลุ่มคนเสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารด้านสังคมการเมือง เพื่อสื่อสารในการต่อสู้ เรียกร้องประชาธิปไตย ของคนเสื้อแดงที่ร่วมชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะสื่ออื่นๆไม่เสนอข่าวสาร ตามความเป็นจริง ที่เห็นโดยกลุ่มคนที่เรียกร้องประชาธิปไตย โดยสงบและปราศจากอาวุธ
ต่อมาเมื่อรัฐบาลอำมาตย์ ได้สลายการชุมนุมเมื่อ ๑๔ เมษายน ๕๒ สื่อหนังสือพิมพ์เรา จึงต้องหยุดไปพร้อมกับทีวี D-Station ที่ถูกปิดโดยเผด็จการ หลังจัดงานระดมทุนทำ นสพ.กันอีกเมื่อ ๒๓ พ.ค. ๕๒ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ก่อนออก นสพ.ฉบับใหม่ เราได้ไปขอจดแจ้งตามกฎหมาย ในชื่อนสพ. “เรดนิวส์” หรือ “ไทยเรดนิวส์” หรือ “คนเสื้อแดง” ฯลฯ แต่หอสมุดแห่งชาติไม่อนุญาตให้จดแจ้ง โดยให้เหตุผลว่ามีชื่อพ้องกับที่คนอื่นได้จองชื่อไว้แล้ว
ต่อมามีคนบางคนติดต่อเรา เพื่อขอเงินส่วยหลายแสนบาท เพื่อให้เราซื้อหัวหนังสือ ที่เขาจดแจ้งไว้ โดยไม่ได้ทำอะไร หอสมุดฯก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีระเบียบอะไร ไม่มีคำแนะนำอะไรให้หอสมุดดำเนินการอะไรอย่างใด กับผู้ที่จดจองชื่อไว้เฉยๆอีกด้วย
โดยที่พวกเราไม่ยินดีจ่ายเงินส่วย ให้พวกหาประโยชน์มิชอบที่มาขอส่วยค่าหัวหนังสือพิมพ์ เพราะไม่ใช่วิสัยเรา เราจึงได้ใช้หัวหนังสือพิมพ์ชื่อ “วิวาทะ” ที่ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เพื่อนร่วมงานเราได้ จดแจ้งตามกฎหมายไว้นานแล้ว จึงเป็นชื่อหนังสือนี้ตลอดมา โดยมีชื่อหนังสือพิมพ์เป็นทางการว่า “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ดังที่เห็น เช่นเดียวกับหลายๆฉบับในท้องตลาดในวันนี้ ที่มีทั้งชื่อรองชื่อหลัก ด้วยเราต้องการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เราจึงใช้ชื่อหนังสือพิมพ์ว่า “วิวาทะ ฉบับไทยเรดนิวส์” มาตั้งแต่ต้น ตามที่ได้จดแจ้งไว้ และใช้มาจนบัดนี้ ขณะเดียวกัน เรากำลังเตรียมการเพื่อให้จดแจ้งชื่อใหม่นี้ให้ได้อีกด้วย จึงขอเรียนชี้แจงทุกท่านว่าเราจดแจ้งการพิมพ์แล้ว และพวกเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย มาตรา ๒๕ ตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด
การที่รัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปแจ้งความที่กองปราบปราม โดยไม่มีการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้านั้น จึงน่าจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยหน้าที่ ของเจ้าพนักงานของรัฐ ตามกฎหมายอีกด้วย อาจจะเป็นการเข้าใจผิด หรือเป็นเพราะความไม่รู้ หรือเพราะนโยบายปราบสื่อประชาธิปไตย ของรัฐบาลเผด็จการ ด้วยสาระหนังสือเราต่อต้านอำนาจกบฎและเผด็จการนั่นเอง
เราจึงขอให้คำชี้แจงนี้ เป็นการชี้แจงต่อ จนท.กองปราบปราม ให้ได้รับทราบความจริงด้วย และให้รู้ด้วยว่าพวกเราไม่ใช่อาชญากร ที่ทำการก่อการร้ายต่อใคร ต่อสังคมใด ยกเว้นเจตนาเพื่อล้มล้างอำนาจเผด็จการอำมาตยาธิปไตย เท่านั้น จึงไม่ประสงค์ให้สื่อมวลชนเทียมฉบับใด ที่เป็นทาสเผด็จการ แสดงความสะใจหรือดีใจออกนอกหน้า ที่เราถูกแจ้งจับ โดยไม่ได้กระทำผิด ขอพวกเราสื่อมวลชนทั้งหลาย ได้ช่วยกันพัฒนาจิตใจและยกระดับจรรยาบรรณวิชาชีพของพวกเราด้วยเถิด
๒) ตามกฎหมาย มาตรา ๘ ที่ให้เรานำส่งหนังสือพิมพ์ จำนวนสองฉบับให้หอสมุดแห่งชาตินั้น ก็ไม่เคยมีการแจ้ง เตือนหรือติดต่อใดๆ จากหอสมุดแห่งชาติ หรือจากใครมาก่อน ตามธรรมเนียมของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของสาธารณะ อย่างตรงไปตรงมาเลย ทั้งๆที่เราไม่แน่ใจว่าท่าน ใช้มาตรฐานปฏิบัติต่อเรา เป็นมาตรฐานเดียว เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับหรือไม่ หอสมุดฯได้รับหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ตีพิมพ์หรือไม่ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์” ได้นำส่งหนังสือพิมพ์เราทุกฉบับ ให้หอสมุดแห่งชาติแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๕๒ ถือว่าเราได้ทำตามกฎหมาย ที่ถูกแจ้งกล่าวหาไว้ในข้อสองแล้ว หวังว่าจะไม่มีสองมาตรฐาน
แท้จริงแล้ว ข้อกล่าวหาของท่านนั้น เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่มีขึ้นทีหลังในยุคเผด็จการ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้รับผิดชอบสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นหอสมุดแห่งชาติ ด้วยกฎหมายที่เกิดจากอำนาจเผด็จการ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ผู้แต่งตั้งสมาชิกสภา คือพล อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นแทนกฎหมายเดิม ที่กรมตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบมาก่อน ที่เราได้จดแจ้งไว้ จึงขอว่าท่านไม่ควรใช้กฎหมายนี้ย้อนหลังด้วย เพราะผิดต่อหลักนิติธรรม และหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราขอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ได้เคารพสิทธิเสรีภาพของคน ตามหลักแห่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วย
จึงเรียนมาเพื่อชี้แจงให้ท่านสมาชิก และท่านผู้อ่านไทยเรดนิวส์ทราบ และขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรวมทั้งกองปราบปราบ ได้กรุณาทราบด้วย
ด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบต่อบ้านเมืองอย่างยิ่ง
(ดร.วิบูลย์ แช่มชื่น)
ผู้อำนวยการบริหาร
หนังสือพิมพ์ “วิวาทะ ฉบับ ไทยเรดนิวส์”
วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๓
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น