ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553
โลกเริ่มเข้าใจ โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : โลกเริ่มเข้าใจ
โดย : กาหลิบ
วันฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ นับตั้งแต่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมาจนบัดนี้ เป็นเส้นแบ่งสำคัญที่สุดเส้นหนึ่งในประวัติศาสตร์และสังคมไทย กรรมดีหรือกรรมชั่วบันดาลก็ไม่ทราบชัด แต่วิธีคิดและการกระทำของผู้เป็นเจ้าของประเทศไทยในครั้งนี้ได้แบ่งเมืองไทยออกเป็น ๒ ซีก หรือ ๒ ระบอบเสียแล้ว
นั่นคือ ระบอบอำมาตย์ทรราช และ ระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบประชาชน
แบ่งแยกออกจากกันแล้วโยนกระดูกชิ้นใหม่ที่มีชื่อว่า ปรองดอง มาให้แย่งกันกัด เจตนาให้สังคมหมกมุ่นกับเรื่องนี้ จะได้ลืมมือเปื้อนเลือดของตนไปสักพัก
ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางทางเศรษฐกิจจะวิ่งสู้ฟัดกันอย่างไรในนามนายแพทย์ประเวศ วะสี สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ วสิษฐ์ เดชกุญชร คณิต ณ นคร อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือไพร่หลวงหน้าไหนก็ตามที คนส่วนใหญ่ของประเทศที่ประกอบด้วยรากหญ้า นายทุนชนิดสร้างตัวด้วยลำแข้ง พระสงฆ์ผู้ทรงศีล และผู้มีปัญญาที่ต้องการเลิกลัทธิโง่งมงายทุกคน เขาล้วนไม่ใส่ใจและไม่ร่วมสังฆกรรมที่ว่าด้วยการแย่งกระดูกชิ้นล่าสุดนี้ด้วย
เพราะเขาตระหนักดีว่ามิใช่สุนัขรับใช้ของใครและไม่ต้องเสนอหน้าพิสูจน์ตัวเองกับใคร
มวลชนของรัฐไทยใหม่ ต่างเข้าใจดีพอที่จะไม่ร่วมเล่นเกมตื้นๆ โง่ๆ ของเจ้าของประเทศอีกต่อไป การรวมตัวกันต่อต้านอำนาจมืดจึงเป็นกระบวนการธรรมชาติที่ไม่ต้องอาศัยทุนรอนอะไรมากมายและสามารถประคองตัวไปได้นานเท่านาน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลัก
สิ่งที่น่าดีใจคือมวลชนไทยมิได้ตาสว่างอย่างโดดเดี่ยว แต่เสียงสำคัญจากหลายมุมโลกเริ่มสะท้อนว่าเขาเริ่มเข้าใจในความซับซ้อนของสังคมเผด็จการอำพรางแบบไทย เขาจึงจี้จุดที่เป็นหัวใจของเรื่องได้อย่างแม่นยำ อย่างคำอภิปรายในรัฐสภายุโรปที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับอาวุธสงครามและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในฐานะผู้ถ่วงดุลและระงับข้อพิพาทอยู่หลายครั้ง
นี่ก็แว่วมาว่ารัฐสภาสหรัฐฯ หรือคองเกรสส์ ในซีกสภาผู้แทนราษฎร อาจจะร่วมกระชากหน้ากากทองคำของไทยออกมาเร็วๆ นี้เหมือนกัน หลังจากที่ได้เห็นภาพและรับข้อมูลเกี่ยวกับความโหดร้ายของวันฆ่าประชาชนอย่างกระจะตา
แหล่งข่าวใกล้ชิดเล่าเสริมว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอเมริกันคนหนึ่งดูคลิปภาพที่รถถังของกองทัพไทยพุ่งชนประชาชนมือเปล่าจนล้มแล้ว แล่นทับศีรษะจนสมองแตกกระจายคาที่ ถึงกับอุทานออกมาว่า “นี่มันเทียนอันเหมินชัดๆ” ก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่นว่าเขาขอเอาด้วยกับความพยายามใดๆ ในการไล่ล่าชายหญิงอำมหิตที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งเลือดครั้งนี้
แต่ความเข้าใจล่าสุดที่เป็นข่าว มีความสำคัญและลึกซึ้งยิ่ง กลับมาจากปากของผู้อำนวยการโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ (UNDP) ผู้เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์อยู่หลายสมัย นั่นคือนางเฮเล็น คล๊าค
เธอกล่าวที่กรุงฮานอย เวียดนามว่า พม่า ไทย เวียดนาม กำลังเผชิญกับอุปสรรคท้าทายในการพัฒนาประเทศ ไทยที่ประสบความก้าวหน้าในการขจัดปัญหาความยากจนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองกำลังขัดขวางการก้าวเดินไปข้างหน้า นับแต่เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อปี (ค.ศ.) ๒๐๐๖ ทำให้ไทยไร้เสถียรภาพทางการเมืองเป็นเวลายาวนานกว่า ๓ ปีและการเมืองไร้ความมั่นคงนับตั้งแต่นั้น จำเป็นที่ไทยจะต้องมีการเจรจาแห่งชาติเกี่ยวกับวิธีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งจะต้องบริสุทธิ์และยุติธรรม โดยที่ประชาชนสามารถยอมรับผลเลือกตั้งที่ออกมาได้
หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้นำคนหนึ่งขององค์การสหประชาชาติเข้าใจอย่างถูกต้องว่า การยึดอำนาจในเมืองไทยเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาวิกฤติการเมืองในขณะนี้
คดีความเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นเกือบทุกคดี การดูหมิ่นกษัตริย์และพระราชวงศ์ไทย ข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย การลุกขึ้นทวงสิทธิของมวลชน (โดยการประท้วงอย่างสันติ) และการสั่งฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมแห่ง พ.ศ.๒๕๕๓ มิให้ “เหตุ” ที่นำมาสู่วิกฤติ แต่เป็น “ผล” ของการยึดอำนาจในครั้งนั้นทั้งสิ้น
ใครเข้าใจเช่นนี้ได้ ก็จะไม่เสียเวลากับคดีความและความไร้สาระทั้งปวงที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย แต่จะมุ่งถามคำถามว่าใครสั่งให้ยึดอำนาจเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งก็จะได้คำตอบลึกซึ้งไปถึงความฉ้อฉลในระบอบการปกครองปัจจุบันของไทย และเกิดปัญญามาก
มากกว่ารับข้อมูลจากสื่อมวลชนปัญญาอ่อนของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยงานโฆษณาชวนเชื่อที่น่าเบื่อหน่าย เอาคนเก่าๆ มาแสดงอภินิหารบ้าๆ บอๆ ที่ไม่เกี่ยวอะไรสักนิดกับชีวิตชาวบ้าน
เอะอะขึ้นมาจะได้ไม่ซัดใส่ว่าประชาชนเป็นต้นเหตุอย่างที่ชอบทำกัน
ทัศนะของ เฮเล็น คล๊าค จึงเป็นกุญแจระดับโลกที่จะไขปริศนาและภาพลวงตาแบบไทยได้อย่างสำคัญ
นับเป็นก้าวแรกที่มีค่ามาก.
----------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง : โลกเริ่มเข้าใจ
โดย : กาหลิบ
วันฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ นับตั้งแต่ ๑๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นมาจนบัดนี้ เป็นเส้นแบ่งสำคัญที่สุดเส้นหนึ่งในประวัติศาสตร์และสังคมไทย กรรมดีหรือกรรมชั่วบันดาลก็ไม่ทราบชัด แต่วิธีคิดและการกระทำของผู้เป็นเจ้าของประเทศไทยในครั้งนี้ได้แบ่งเมืองไทยออกเป็น ๒ ซีก หรือ ๒ ระบอบเสียแล้ว
นั่นคือ ระบอบอำมาตย์ทรราช และ ระบอบประชาธิปไตยหรือระบอบประชาชน
แบ่งแยกออกจากกันแล้วโยนกระดูกชิ้นใหม่ที่มีชื่อว่า ปรองดอง มาให้แย่งกันกัด เจตนาให้สังคมหมกมุ่นกับเรื่องนี้ จะได้ลืมมือเปื้อนเลือดของตนไปสักพัก
ชนชั้นสูงและชนชั้นกลางทางเศรษฐกิจจะวิ่งสู้ฟัดกันอย่างไรในนามนายแพทย์ประเวศ วะสี สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ วสิษฐ์ เดชกุญชร คณิต ณ นคร อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือไพร่หลวงหน้าไหนก็ตามที คนส่วนใหญ่ของประเทศที่ประกอบด้วยรากหญ้า นายทุนชนิดสร้างตัวด้วยลำแข้ง พระสงฆ์ผู้ทรงศีล และผู้มีปัญญาที่ต้องการเลิกลัทธิโง่งมงายทุกคน เขาล้วนไม่ใส่ใจและไม่ร่วมสังฆกรรมที่ว่าด้วยการแย่งกระดูกชิ้นล่าสุดนี้ด้วย
เพราะเขาตระหนักดีว่ามิใช่สุนัขรับใช้ของใครและไม่ต้องเสนอหน้าพิสูจน์ตัวเองกับใคร
มวลชนของรัฐไทยใหม่ ต่างเข้าใจดีพอที่จะไม่ร่วมเล่นเกมตื้นๆ โง่ๆ ของเจ้าของประเทศอีกต่อไป การรวมตัวกันต่อต้านอำนาจมืดจึงเป็นกระบวนการธรรมชาติที่ไม่ต้องอาศัยทุนรอนอะไรมากมายและสามารถประคองตัวไปได้นานเท่านาน จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายหลัก
สิ่งที่น่าดีใจคือมวลชนไทยมิได้ตาสว่างอย่างโดดเดี่ยว แต่เสียงสำคัญจากหลายมุมโลกเริ่มสะท้อนว่าเขาเริ่มเข้าใจในความซับซ้อนของสังคมเผด็จการอำพรางแบบไทย เขาจึงจี้จุดที่เป็นหัวใจของเรื่องได้อย่างแม่นยำ อย่างคำอภิปรายในรัฐสภายุโรปที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับอาวุธสงครามและบทบาทของสถาบันกษัตริย์ในฐานะผู้ถ่วงดุลและระงับข้อพิพาทอยู่หลายครั้ง
นี่ก็แว่วมาว่ารัฐสภาสหรัฐฯ หรือคองเกรสส์ ในซีกสภาผู้แทนราษฎร อาจจะร่วมกระชากหน้ากากทองคำของไทยออกมาเร็วๆ นี้เหมือนกัน หลังจากที่ได้เห็นภาพและรับข้อมูลเกี่ยวกับความโหดร้ายของวันฆ่าประชาชนอย่างกระจะตา
แหล่งข่าวใกล้ชิดเล่าเสริมว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอเมริกันคนหนึ่งดูคลิปภาพที่รถถังของกองทัพไทยพุ่งชนประชาชนมือเปล่าจนล้มแล้ว แล่นทับศีรษะจนสมองแตกกระจายคาที่ ถึงกับอุทานออกมาว่า “นี่มันเทียนอันเหมินชัดๆ” ก่อนจะกล่าวอย่างหนักแน่นว่าเขาขอเอาด้วยกับความพยายามใดๆ ในการไล่ล่าชายหญิงอำมหิตที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งเลือดครั้งนี้
แต่ความเข้าใจล่าสุดที่เป็นข่าว มีความสำคัญและลึกซึ้งยิ่ง กลับมาจากปากของผู้อำนวยการโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ (UNDP) ผู้เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์อยู่หลายสมัย นั่นคือนางเฮเล็น คล๊าค
เธอกล่าวที่กรุงฮานอย เวียดนามว่า พม่า ไทย เวียดนาม กำลังเผชิญกับอุปสรรคท้าทายในการพัฒนาประเทศ ไทยที่ประสบความก้าวหน้าในการขจัดปัญหาความยากจนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองกำลังขัดขวางการก้าวเดินไปข้างหน้า นับแต่เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ เมื่อปี (ค.ศ.) ๒๐๐๖ ทำให้ไทยไร้เสถียรภาพทางการเมืองเป็นเวลายาวนานกว่า ๓ ปีและการเมืองไร้ความมั่นคงนับตั้งแต่นั้น จำเป็นที่ไทยจะต้องมีการเจรจาแห่งชาติเกี่ยวกับวิธีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งจะต้องบริสุทธิ์และยุติธรรม โดยที่ประชาชนสามารถยอมรับผลเลือกตั้งที่ออกมาได้
หัวใจสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้นำคนหนึ่งขององค์การสหประชาชาติเข้าใจอย่างถูกต้องว่า การยึดอำนาจในเมืองไทยเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาวิกฤติการเมืองในขณะนี้
คดีความเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นเกือบทุกคดี การดูหมิ่นกษัตริย์และพระราชวงศ์ไทย ข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย การลุกขึ้นทวงสิทธิของมวลชน (โดยการประท้วงอย่างสันติ) และการสั่งฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยมแห่ง พ.ศ.๒๕๕๓ มิให้ “เหตุ” ที่นำมาสู่วิกฤติ แต่เป็น “ผล” ของการยึดอำนาจในครั้งนั้นทั้งสิ้น
ใครเข้าใจเช่นนี้ได้ ก็จะไม่เสียเวลากับคดีความและความไร้สาระทั้งปวงที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย แต่จะมุ่งถามคำถามว่าใครสั่งให้ยึดอำนาจเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งก็จะได้คำตอบลึกซึ้งไปถึงความฉ้อฉลในระบอบการปกครองปัจจุบันของไทย และเกิดปัญญามาก
มากกว่ารับข้อมูลจากสื่อมวลชนปัญญาอ่อนของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยงานโฆษณาชวนเชื่อที่น่าเบื่อหน่าย เอาคนเก่าๆ มาแสดงอภินิหารบ้าๆ บอๆ ที่ไม่เกี่ยวอะไรสักนิดกับชีวิตชาวบ้าน
เอะอะขึ้นมาจะได้ไม่ซัดใส่ว่าประชาชนเป็นต้นเหตุอย่างที่ชอบทำกัน
ทัศนะของ เฮเล็น คล๊าค จึงเป็นกุญแจระดับโลกที่จะไขปริศนาและภาพลวงตาแบบไทยได้อย่างสำคัญ
นับเป็นก้าวแรกที่มีค่ามาก.
----------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เขาเข้าใจคะแต่เขาจะช่วยอะไรได้ เพราะเท่าที่เห็นก็เป็นเพียงการออกมาพูดเล็กน้อยซึ่งก็เหมือนเสียงนกเสียงกา ขนาดคนเป็นๆหลายๆหมื่นประท้วงเป็นแรมเดือน
ตอบลบมันยังไม่สน แถมไล่ฆ่าให้ตายเป็นหลักร้อยไม่เว้นไทยเว้นเทศ ภาพที่ออกก็เป็นเพียงแต่ภาพ ไม่อยากจะหวังยูเอนให้เสียอารมณ์ รู้สึกองค์กร กระจอกเหลือเกินคำบรรยาย ไม่มีดาบอะไรอยู่ในมือ
แถมบันกีมูลโผล่ออกจอ ก็น่าจะออกเอาเป็นพิธี จะรู้เช่นเห็นชาติหรือไม่ ก็ไม่รู้เพราะผู้ที่ยืนอยู่หลังบันกีมูลที่คอยชงข้อมูลไทยก็เป็น สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีต
คนประชาธิปัตย์อีกละ เหม็นหน้าจริงๆ
ต่อคะ เราคงจะต้องพูดความจริงและวางแผนใหม่ให้ดีแล้วคะ อย่าไปหวังองค์กรต่าง
ตอบลบประเทศใดๆอีกเลย มันยังอีกไกล ถ้าต่างชาติรีแอกมาก ผู้อยู่ในอำนาจมันก็แค่ปิดประเทศ สนุกกับการไล่ฆ่าอีกครั้งสนุกมือมันเลย นักรบผู้กล้ามีอยู่รอบตัวเราเขาไม่กลัวแม้แต่ปืน เขาวิ่งเข้าใส่ทั้งมือเปล่า เรามาเริ่มตรงนี้ไม่ดีหรือ เรามีแนวร่วมอีกเยอะมาก เท่าที่รู้แม้แต่ทหารส่วนใหญ่ก็ยังเอากับเรา ประชาชนที่ร่วมกับเราก็เกิน
ครึ่งของประเทศ มาเริ่มตรงนี้ดีกว่าคะ จะอะไรยังไงมัน เราก็มาวางแผนให้ดี ความสำเร็จไม่น่าจะไกล ฉันอยู่กับฝรั่งฉานรู้ดีว่าเขาช่วยไม่ได้จริงๆ
If khun kalip live in Europe can mail me direct to : sestabeach@gmail.com
ตอบลบI'll very welcome.
เขาอย฿่ตั้งนิวซีแลนด์เขายังดูออก แสดงให้เห็นความมีปัญญาของผู้นำเขาเมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำเราที่มีแต่โลภทั่วัตถุและชื่อเสียง ทำไม่ไม่โลภบุญบ้างวะ เห็นแสดงว่าเป็นพุทธมามกะที่ดีอยู่ออกบ่อย หรือสร้างภาพอย่างที่ถนัด
ตอบลบ