ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554
กวาดล้าง ๑๑๒
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง กวาดล้าง ๑๑๒
โดย กาหลิบ
ขณะนี้ได้เกิดบรรยากาศกวาดล้างขึ้นอีกระลอกหนึ่งแล้ว เป้าหมายคือประชาชนชาวไทยหรือต่างชาติที่สามารถจะเอาผิดว่าหมิ่นกษัตริย์หรือรัชทายาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ได้ เพื่อนำตัวไปลงโทษร่วมกับคนเป็นร้อยๆ ที่ต้องคดีหมิ่นกษัตริย์อยู่แล้ว
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเชื่อของใครบางคนว่าเราจะได้ร่วมเลือกตั้งอย่างเสรีและเป็นธรรมในบรรยากาศของความปรองดองสมานฉันท์อย่างจริงใจ
กองทัพบก โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพบก เพิ่งส่งหนังสือเวียนตีตรา “ลับ” ออกมาฉบับหนึ่ง ส่งไปยังหน่วยขึ้นตรงทั้งหมดของตนและหน่วยงานเครือข่ายในกระทรวงทบวงกรมอื่นๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักนายกรัฐมนตรี กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น สั่งการและแจ้งให้หน่วยงานทุกๆ หน่วยจัดการรวบรวมพยานหลักฐานที่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ในเครือข่าย Twitter และ Facebook โดยให้เลขานุการกองทัพบกเป็นศูนย์อำนวยการ
นั่นคือระยะแรก
ระยะที่สอง จะแยกผู้ถูกกล่าวหาออกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทย ก็ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การสื่อสารฯ กระทรวงยุติธรรม และเอกชนผู้รับสัมปทานให้บริการอินเตอร์เน็ตเป็นคนจัดการ ส่วนกลุ่มที่กระจายอยู่ในต่างประเทศก็มอบให้กระทรวงการต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปร่วมกันไล่ล่า
หนังสือเวียนฉบับนี้ตีตรา “ลับ” ตัวเบ้อเริ่มที่หัวกระดาษ แต่ก็ไหลออกมาในลักษณะเดิมคือ ทหารส่วนที่รักศักดิ์ศรีของตนเองและเครื่องแบบเขาเกิดความละอายใจที่ต้องเป็นเครื่องมือของคนเลวที่พลัดเข้าไปได้ตำแหน่งสูงของบ้านเมือง เขาก็นำออกมาบอกกล่าวเล่าแจ้งกัน
ถึงเรื่องอย่างนี้จะบ่งบอกถึงความเลวอันชัดแจ้งของระบอบปัจจุบัน แต่ก็ให้ความหวังว่าพลเมืองสายพันธุ์ประชาธิปไตยมีแทรกอยู่ในทุกอณูของบ้านเมือง แม้แต่ในกองทัพบกอันมืดดำ
แต่ประเด็นของเราอยู่ที่กรอบความคิดเรื่อง ๑๑๒ ซึ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยในรอบเวลา ๕ ปีที่ต่อสู้กันมา เสียงเรียกร้องและการยกระดับความคิดของมวลชนเสมือนราดน้ำรดหัวตอหรือสีซอให้ควายฟัง
เห็นประชาชนเป็นปฏิปักษ์อย่างไรก็ยังเห็นอยู่อย่างนั้น
เห็นระบอบประชาธิปไตยว่าแสลงต่อระบอบผูกขาดโดยคนกลุ่มเดียวอย่างไรก็ยังเห็นเช่นนั้น
ปฏิกิริยาโต้ตอบก็เหมือนย้อนยุคกลับสยามประเทศก่อน พ.ศ.๒๔๗๕ เมื่อความเป็นคนสามัญยังไม่ต่างอะไรจากสัตว์
นักวิชาการแสนซื่อบางคนก็จะบอกว่า ประมุขของระบอบเขาไม่มีอำนาจสั่งการอะไรแบบนี้หรอก ลูกน้องสายต่างๆ ต่างหากที่มันทำแทน แล้วก็อ้างว่านายใหญ่ใช้ให้ทำ
ขนาดหลักฐานชี้อยู่โทนโท่ว่าเขายังแข็งแรงพอจะควบคุมอะไรต่อมิอะไรได้ โดยเฉพาะการสั่งให้หยุดพฤติกรรมที่ตัวไม่เห็นด้วยซึ่งง่ายกว่าสั่งทำเอง ก็ยังเชื่อฝังหัวอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีเหตุผลรองรับที่เพียงพอ ยึดเอาความเชื่อตัวเองเป็นฐานเพราะความหลง (ego) ขนาดหนักเท่านั้นเอง
สถานการณ์จริงของบ้านเมืองอยู่ที่คำสั่งกองทัพบกแบบนี้ ต่อให้สิบ ส.ส.มานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ออกมาเรียกร้องให้ทหารกลับกรมกองก็จะไม่ได้ผล เพราะเขาออกมาเคลื่อนไหวในนามระบอบและเพื่อประโยชน์ของระบอบ ไม่ใช่ผลประโยชน์เฉพาะกิจของตัวเขาเองอย่างที่หลายคนเข้าใจ
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ นี้ต้องยกเลิกสถานเดียว หากฝ่ายประชาธิปไตยจริงจังและจริงใจกับการต่อสู้ของตน มาตรานี้และประเภทเดียวกันนี้คือภูเขากั้นขวางวิถีแห่งประชาธิปไตยเพราะรับรองระบอบการเมืองการปกครองบนหลักการตรงข้ามกับประชาธิปไตย
มาตรา ๑๑๒ เป็นทั้ง สาระ และ สัญลักษณ์ ของการต่อสู้ที่บัดนี้มวลชนนับล้านคนทั่วไทยและทั่วโลกให้การสนับสนุนแล้ว
จะนั่งรอให้เขาไล่ล่าฆ่าฟันเราก่อนให้โง่อีกหรือ?
------------------------------------------------------------------------------
สนับสนุน "กาหลิบ" และทีมงาน สมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ.10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น