ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
สยามเรียลลิตี้ โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : สยามเรียลลิตี้
โดย : กาหลิบ
ลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า เลื้อยเข้าไปในทุกรูขุมขนของเมืองไทยแล้วครับ ไม่มีพื้นที่ไหนในสังคมไทยขณะนี้ที่พูดได้ว่า ปลอดจากความขัดแย้งทางการเมือง และไม่มีที่ให้แอบซ่อนสำหรับคนเห็นแก่ตัวจัด ที่ชอบหลับหูหลับตาตะโกนว่า ฉันไม่เลือกข้าง ฉันไม่เป็นฝ่ายไหนเลย และมีพฤติกรรมเยี่ยงคนด้านชาที่ไม่ยอมรับรู้ความทุกข์สุขของคนอื่น
ตัวอย่างล่าสุดคืออาการที่แสดงออกในรายการ เรียลลิตี้ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น ๗
ไม่มีเวทีไหนที่ควรจะปลอดการเมืองมากไปกว่านี้แล้ว เพราะเขาไปโชว์ เขาไปเชียร์กันเพื่อความรุ่งโรจน์ของตัวเองสถานเดียว ไม่น่าจะมีสำนึกรับรู้หรือรับผิดชอบอะไรต่อบ้านเมืองอยู่ที่นั่นเลย เว้นแต่จะดัดจริตพูดถึงสังคมเพื่อจะหาเสียงเอาคะแนนเหมือนนักเลือกตั้งเลวๆ
แต่หลายคนต้องประหลาดใจในความลึกและกว้างของเหตุวิวาทครั้งสำคัญแห่งการเมืองไทยในปัจจุบัน
เมื่อ “นักล่าฝัน” ๑ ใน ๑๒ คนแสดงจุดยืนทางการเมืองขึ้นมาอย่างเปิดเผย นรกก็แตกอยู่ตรงนั้น
“มาร์ค วี ๑๑” หรือ “นายวิทวัส ท้าวคำลือ” อายุ ๑๗ ปี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เขาแสดงความไม่เห็นด้วยที่คนๆ นี้จะนำชีวิตของเขาและสังคมไทยต่อไป
ถ้าใช้ศัพท์รัฐศาสตร์สักคำ “มาร์ค วี ๑๑” กำลังพูดว่านายอภิสิทธิ์ฯ ขาดความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำของเขาโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางจะประนีประนอมให้อยู่ในอำนาจอันล้นพ้นต่อไปได้อีก
หลังจากนั้น ขบวนการเดียวกับที่จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหลายก็ออกมาปฏิบัติงานในรูปแบบเดียวกันอีก โดยเอาเด็กหนุ่มอายุ ๑๗ ปีคนนี้เป็นเหยื่อรายใหม่ ส่งข้อความทั้งใต้ดินบนดิน ใช้เส้นสายในเครือข่ายอุบาทว์ของอำนาจเก่าโบราณ บีบบังคับผ่านสถานีและสปอนเซอร์ทุกวิถีทาง ฯลฯ จุดมุ่งหมายคือให้ลบชื่อ “มาร์ค วี ๑๑” ออกไปจากเวทีนี้ให้จงได้
ที่น่าสนใจกว่านั้นมาจากปากคำของ นางวรรณา ท้าวคำลือ ผู้เป็นมารดา ที่ออกมาเผยขบวนการป้ายสี ตัดต่อภาพและข้อความใส่ในเฟซบุ๊กว่าลูกชายของเธอมีพฤติกรรม “หมิ่นสถาบันฯ”
เรื่อง : สยามเรียลลิตี้
โดย : กาหลิบ
ลุกลามไปทุกหย่อมหญ้า เลื้อยเข้าไปในทุกรูขุมขนของเมืองไทยแล้วครับ ไม่มีพื้นที่ไหนในสังคมไทยขณะนี้ที่พูดได้ว่า ปลอดจากความขัดแย้งทางการเมือง และไม่มีที่ให้แอบซ่อนสำหรับคนเห็นแก่ตัวจัด ที่ชอบหลับหูหลับตาตะโกนว่า ฉันไม่เลือกข้าง ฉันไม่เป็นฝ่ายไหนเลย และมีพฤติกรรมเยี่ยงคนด้านชาที่ไม่ยอมรับรู้ความทุกข์สุขของคนอื่น
ตัวอย่างล่าสุดคืออาการที่แสดงออกในรายการ เรียลลิตี้ ทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ซีซั่น ๗
ไม่มีเวทีไหนที่ควรจะปลอดการเมืองมากไปกว่านี้แล้ว เพราะเขาไปโชว์ เขาไปเชียร์กันเพื่อความรุ่งโรจน์ของตัวเองสถานเดียว ไม่น่าจะมีสำนึกรับรู้หรือรับผิดชอบอะไรต่อบ้านเมืองอยู่ที่นั่นเลย เว้นแต่จะดัดจริตพูดถึงสังคมเพื่อจะหาเสียงเอาคะแนนเหมือนนักเลือกตั้งเลวๆ
แต่หลายคนต้องประหลาดใจในความลึกและกว้างของเหตุวิวาทครั้งสำคัญแห่งการเมืองไทยในปัจจุบัน
เมื่อ “นักล่าฝัน” ๑ ใน ๑๒ คนแสดงจุดยืนทางการเมืองขึ้นมาอย่างเปิดเผย นรกก็แตกอยู่ตรงนั้น
“มาร์ค วี ๑๑” หรือ “นายวิทวัส ท้าวคำลือ” อายุ ๑๗ ปี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เขาแสดงความไม่เห็นด้วยที่คนๆ นี้จะนำชีวิตของเขาและสังคมไทยต่อไป
ถ้าใช้ศัพท์รัฐศาสตร์สักคำ “มาร์ค วี ๑๑” กำลังพูดว่านายอภิสิทธิ์ฯ ขาดความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำของเขาโดยสิ้นเชิง ไม่มีทางจะประนีประนอมให้อยู่ในอำนาจอันล้นพ้นต่อไปได้อีก
หลังจากนั้น ขบวนการเดียวกับที่จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้นำฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหลายก็ออกมาปฏิบัติงานในรูปแบบเดียวกันอีก โดยเอาเด็กหนุ่มอายุ ๑๗ ปีคนนี้เป็นเหยื่อรายใหม่ ส่งข้อความทั้งใต้ดินบนดิน ใช้เส้นสายในเครือข่ายอุบาทว์ของอำนาจเก่าโบราณ บีบบังคับผ่านสถานีและสปอนเซอร์ทุกวิถีทาง ฯลฯ จุดมุ่งหมายคือให้ลบชื่อ “มาร์ค วี ๑๑” ออกไปจากเวทีนี้ให้จงได้
ที่น่าสนใจกว่านั้นมาจากปากคำของ นางวรรณา ท้าวคำลือ ผู้เป็นมารดา ที่ออกมาเผยขบวนการป้ายสี ตัดต่อภาพและข้อความใส่ในเฟซบุ๊กว่าลูกชายของเธอมีพฤติกรรม “หมิ่นสถาบันฯ”
ครับ ครบวงจรอุบาทว์สมัยใหม่จริงๆ
๑. ล้างสมองให้คนไทยอยู่กับความบันเทิงฟุ้งเฟ้อ น้ำเน่า ไม่สนใจสังคมและประเทศชาติ
๒. ถ้าใครเกิดสนใจขึ้นมา ก็ระดมโจมตีและทำลายล้างไม่ให้ได้ผุดได้เกิด
๓. กล่าวหาว่า โง่ รับเงิน และทำลายชาติ เมื่อใดก็ตามที่แสดงความใฝ่ใจในประชาธิปไตย
๔. ดอกสุดท้ายของทุกกรณี คือป้ายสีว่าหมิ่นเบื้องสูง ชีวิตและอนาคตจะได้ดับวูบลง
เห็นไหมครับว่าเขาทำอย่างนี้มากับคนกี่แสนกี่ล้านคนแล้ว บ้านเมืองเราเคลื่อนเข้าสู่ความเป็นพม่าอย่างช้าๆ ก็เพราะสันดานทรราชอย่างนี้
แต่ฝ่ายอำนาจเก่าเขาก็มีปัญหา
เพราะผลสำรวจความนิยมของ “มาร์ค วี ๑๑” วัดจนถึงเวลา ๑๗.๐๐ น. ของวันที่ ๘ กรกฎาคม พบว่าในหมู่นักล่าฝัน ๑๒ คน “มาร์ค วี ๑๑” กลับได้รับคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง หรือ ๑๗.๐๗%!
จากเดิมที่อยู่ในอันดับท้ายๆ
แปลไทยเป็นไทยก็คือ ข้อกล่าวหาที่ว่าฝักใฝ่การเมือง โง่ รับเงิน ทำลายชาติ และหมิ่นสถาบันฯ คือปัจจัยที่ทำให้ “มาร์ค วี ๑๑” ได้รับคะแนนเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้
ทิ้งคู่แข่งคนอื่นๆ ที่ไม่กล้าแสดงออกใดๆ ในทางการเมืองเพราะอาจกลัวผลกระทบที่ตนจะได้รับ
รวมทั้งบางคนที่กำลังเลียสอพลอกับอำนาจเดิมโดยหวังว่าจะได้รับเศษเดนของบารมีมาคุ้มหัวด้วย
เมืองไทยขณะนี้น่าทึ่งนะครับ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใครก็ตามถูกกล่าวหาตาม ๔ ข้อที่กล่าวมาข้างต้น โปรดรู้สึกสบายกายสบายใจได้ เพราะคะแนนนิยมของมวลชนที่มีต่อตัวท่านกำลังพุ่งสูงขึ้นแบบชั่วข้ามคืน!
--------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น