ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
กัมพูชาสากล โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : กัมพูชาสากล
โดย : กาหลิบ
พอได้ยินข่าวว่าราชอาณาจักรกัมพูชาจัดงาน “วันโกรธแค้นไทย” เพื่อย้อนเหตุการณ์บุกเผาสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ในช่วงต้นๆ รัฐบาลทักษิณ เราพอมีพรรคพวกบ้าง ก็สอบสวนทวนพยานทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น จะราดน้ำมันลงบนกองไฟไปอีกทำไมหรือ?
แล้วก็พบว่าเป็นปาหี่สร้างข่าวของฝ่ายสื่อใต้อำนาจรัฐไทยมากกว่าอะไรอื่น
งานนี้จัดโดยฝ่ายค้านของกัมพูชา ซึ่งมีสมาชิกจำนวนน้อยนิดในสภาผู้แทนราษฎรของเขาจนไม่มีอำนาจจะไปกำหนดนโยบายหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ผู้คนจัดงานเบ็ดเสร็จมี ๘ คน มีคนมาร่วมงานอีกหย่อมหนึ่ง มากกว่าคนจัดนิดหน่อย
เป็นงานหาเสียงแนวหาเรื่องเพื่อนบ้าน ตามหลักคิดแบบเก่าที่ว่าคนในชาติจะได้ร่วมมือร่วมใจกันดี
รัฐบาลกัมพูชาโดยนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซ็นก็ส่งคนไปตรวจสอบไม่ให้ทำอะไรเกินเลยเหมือนเมื่อคราวบุกเผาอาคารสถานทูต
งานก็จบลงในเวลาราวหนึ่งชั่วโมง
แต่เห็นไหมว่า สื่อไทยนำออกมาตีประโคมเป็นข่าวราวกับว่าเขาปิดกัมพูชาทั้งประเทศกันเพื่อจัดงานนี้
ราวกับว่ารัฐบาลกัมพูชาเป็นแม่งานนี้เอง และจัดขึ้นเพื่อหาเรื่องไทยโดยเฉพาะ
จนมีคนไทยบ้าจี้ตามหลายคน จะจัดงานตอบโต้กัมพูชาบ้าบออะไรไปโน่น
ขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังเดินตามลักษณะนิสัยของเผด็จการไทยก่อนปี พ.ศ.๒๔๗๕ ทุกประการ ที่เริ่มต้นด้วยความคิดว่าข้าคือความถูกต้อง (self-righteousness) ข้าคือกฎหมาย ไปจนถึงการใช้เล่ห์กระเท่ทุกอย่างในการกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม โดยมีสื่อและปัญญาชนฝ่ายตนเองคอยประโคมว่าทำถูกและควรทำ บนความชอกช้ำของคนธรรมดาสามัญ
การดูถูกเพื่อนบ้านรอบทิศเป็นมรดกที่เลวร้ายอย่างหนึ่งของระบอบเก่านั้น
ไม่เฉพาะกัมพูชา รวมถึงพม่า ลาว มาเลเซีย และรัฐที่ชายแดนไม่ติดต่อกันอย่างเวียดนามด้วย
รู้ล่ะครับว่าโกรธเขาที่เขาไม่ก้มหัวให้เผด็จการโบราณของไทย ก็เลยต้องหาเรื่องโจมตีกันตลอดเวลาอย่างคนขาดสติ แต่รู้หรือไม่ว่าคนทั่วโลกเขาก็มองอยู่ว่า ศักดินาไทยกำลังทำตัวเป็นเด็กอนุบาลหรือเป็นผู้ใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมั่นใจว่าเราเป็นแล้ว แล้วความเสียหายมันจะเกิดขึ้นกับคนไทยที่ต้องออกไปคบค้าสมาคมกับชาวโลกเขา
เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองก็เพิ่งเห็นข่าวการซ้อมรบและการสัมมนาร่วมทางทหารในกัมพูชา มีทหารเข้าร่วมหลายประเทศรวมทั้งไทย ข่าวว่าผู้บัญชาการทหารระดับสูงของหลายประเทศในโลกได้ถามถึงสถานการณ์ไทยในทัศนะของนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา รวมทั้งคณะจากสหรัฐอเมริกาด้วย
เขาพูดอะไรไม่รู้ แต่เห็นได้ชัดว่าโลกให้ความสนใจและฟังกัมพูชามากกว่าจะฟังรัฐบาลชุดนี้ของไทย เขาก็ย่อมมีโอกาสสูงกว่าในการชี้นำมติมหาชนโลก หรืออย่างน้อยก็ของรัฐบาลหลายประเทศ
ทำไมบทบาทชี้นำถึงหลุดจากไทยไปเป็นของประเทศอื่น?
ก็เพราะเล่นเป็นเด็กแย่งของเล่นจากฝ่ายประชาธิปไตยอยู่นี่ไง
ใครจะไปนับถือ
ยิ่งสมเด็จฮุนเซ็นพูดชัดๆ กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า ขอให้สหรัฐฯ สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลไทยยอมรับบทบาทร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยและไม่ควรไล่ล่าฆ่าฟันอย่างที่กระทำอยู่อย่างแพร่หลายในขณะนี้ แล้วสหรัฐฯ รับหลักการนั้น ต่อไปความโดดเดี่ยวของไทยก็จะยิ่งหนักข้อขึ้น
คนที่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันอย่างนี้คือประชาชนคนไทยในระดับเดินดิน
เขาไม่ได้มีบริษัทจัดการทรัพย์สินส่วนตัวเอาไว้กระโจนหนีเมื่อจวนตัวเหมือนบางคนนี่ครับ!
--------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง : กัมพูชาสากล
โดย : กาหลิบ
พอได้ยินข่าวว่าราชอาณาจักรกัมพูชาจัดงาน “วันโกรธแค้นไทย” เพื่อย้อนเหตุการณ์บุกเผาสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ในช่วงต้นๆ รัฐบาลทักษิณ เราพอมีพรรคพวกบ้าง ก็สอบสวนทวนพยานทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น จะราดน้ำมันลงบนกองไฟไปอีกทำไมหรือ?
แล้วก็พบว่าเป็นปาหี่สร้างข่าวของฝ่ายสื่อใต้อำนาจรัฐไทยมากกว่าอะไรอื่น
งานนี้จัดโดยฝ่ายค้านของกัมพูชา ซึ่งมีสมาชิกจำนวนน้อยนิดในสภาผู้แทนราษฎรของเขาจนไม่มีอำนาจจะไปกำหนดนโยบายหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ผู้คนจัดงานเบ็ดเสร็จมี ๘ คน มีคนมาร่วมงานอีกหย่อมหนึ่ง มากกว่าคนจัดนิดหน่อย
เป็นงานหาเสียงแนวหาเรื่องเพื่อนบ้าน ตามหลักคิดแบบเก่าที่ว่าคนในชาติจะได้ร่วมมือร่วมใจกันดี
รัฐบาลกัมพูชาโดยนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซ็นก็ส่งคนไปตรวจสอบไม่ให้ทำอะไรเกินเลยเหมือนเมื่อคราวบุกเผาอาคารสถานทูต
งานก็จบลงในเวลาราวหนึ่งชั่วโมง
แต่เห็นไหมว่า สื่อไทยนำออกมาตีประโคมเป็นข่าวราวกับว่าเขาปิดกัมพูชาทั้งประเทศกันเพื่อจัดงานนี้
ราวกับว่ารัฐบาลกัมพูชาเป็นแม่งานนี้เอง และจัดขึ้นเพื่อหาเรื่องไทยโดยเฉพาะ
จนมีคนไทยบ้าจี้ตามหลายคน จะจัดงานตอบโต้กัมพูชาบ้าบออะไรไปโน่น
ขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังเดินตามลักษณะนิสัยของเผด็จการไทยก่อนปี พ.ศ.๒๔๗๕ ทุกประการ ที่เริ่มต้นด้วยความคิดว่าข้าคือความถูกต้อง (self-righteousness) ข้าคือกฎหมาย ไปจนถึงการใช้เล่ห์กระเท่ทุกอย่างในการกวาดล้างฝ่ายตรงข้าม โดยมีสื่อและปัญญาชนฝ่ายตนเองคอยประโคมว่าทำถูกและควรทำ บนความชอกช้ำของคนธรรมดาสามัญ
การดูถูกเพื่อนบ้านรอบทิศเป็นมรดกที่เลวร้ายอย่างหนึ่งของระบอบเก่านั้น
ไม่เฉพาะกัมพูชา รวมถึงพม่า ลาว มาเลเซีย และรัฐที่ชายแดนไม่ติดต่อกันอย่างเวียดนามด้วย
รู้ล่ะครับว่าโกรธเขาที่เขาไม่ก้มหัวให้เผด็จการโบราณของไทย ก็เลยต้องหาเรื่องโจมตีกันตลอดเวลาอย่างคนขาดสติ แต่รู้หรือไม่ว่าคนทั่วโลกเขาก็มองอยู่ว่า ศักดินาไทยกำลังทำตัวเป็นเด็กอนุบาลหรือเป็นผู้ใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมั่นใจว่าเราเป็นแล้ว แล้วความเสียหายมันจะเกิดขึ้นกับคนไทยที่ต้องออกไปคบค้าสมาคมกับชาวโลกเขา
เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เองก็เพิ่งเห็นข่าวการซ้อมรบและการสัมมนาร่วมทางทหารในกัมพูชา มีทหารเข้าร่วมหลายประเทศรวมทั้งไทย ข่าวว่าผู้บัญชาการทหารระดับสูงของหลายประเทศในโลกได้ถามถึงสถานการณ์ไทยในทัศนะของนายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา รวมทั้งคณะจากสหรัฐอเมริกาด้วย
เขาพูดอะไรไม่รู้ แต่เห็นได้ชัดว่าโลกให้ความสนใจและฟังกัมพูชามากกว่าจะฟังรัฐบาลชุดนี้ของไทย เขาก็ย่อมมีโอกาสสูงกว่าในการชี้นำมติมหาชนโลก หรืออย่างน้อยก็ของรัฐบาลหลายประเทศ
ทำไมบทบาทชี้นำถึงหลุดจากไทยไปเป็นของประเทศอื่น?
ก็เพราะเล่นเป็นเด็กแย่งของเล่นจากฝ่ายประชาธิปไตยอยู่นี่ไง
ใครจะไปนับถือ
ยิ่งสมเด็จฮุนเซ็นพูดชัดๆ กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า ขอให้สหรัฐฯ สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลไทยยอมรับบทบาทร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตยและไม่ควรไล่ล่าฆ่าฟันอย่างที่กระทำอยู่อย่างแพร่หลายในขณะนี้ แล้วสหรัฐฯ รับหลักการนั้น ต่อไปความโดดเดี่ยวของไทยก็จะยิ่งหนักข้อขึ้น
คนที่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันอย่างนี้คือประชาชนคนไทยในระดับเดินดิน
เขาไม่ได้มีบริษัทจัดการทรัพย์สินส่วนตัวเอาไว้กระโจนหนีเมื่อจวนตัวเหมือนบางคนนี่ครับ!
--------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น