ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ฆาตกรต่อเนื่อง โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ฆาตกรต่อเนื่อง
โดย กาหลิบ

ในสังคมที่วิปริตผิดเพี้ยนจากธรรมชาติของมนุษย์มากๆ มักจะเกิดการทำลายชีวิตของคนอื่นๆ ด้วยเหตุผลอันวิปริตผิดเพี้ยนเช่นกัน เราได้ยินอยู่เสมอว่า ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีนักฆ่าคนที่ไม่ค่อยจะได้พบเห็นกันนักในสังคมตะวันออก นั่นคือฆ่าโดยไม่ได้อาฆาตโกรธแค้นผู้ตายเป็นการส่วนตัว ไม่ต้องการเงินทองทรัพย์สินของเขา หรือไม่ได้บันดาลโทสะใดๆ เลย แต่เป็นการฆ่าคนตามปมผิดเพี้ยนบางอย่างในใจของเขาเอง เช่น เคยหิ้วโสเภณีไปนอนแล้วติดโรค จึงออกไล่ล่าฆ่าโสเภณีเป็นสิบๆ ศพ บางคนเคยถูกเพื่อนนักเรียนกลั่นแกล้งรังแก ก็เลยล่อลวงคนที่มีความประพฤติคล้ายกัน หรือมีบุคลิกคล้ายคลึงกันไปฆ่าเสีย เป็นต้น

เนื่องจากการฆ่าแบบนี้มักจะเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นชุด บางครั้งกินเวลายาวนานหลายสิบปีก็มี จึงเกิดศัพท์บัญญัติสำหรับพฤติกรรมปาณาติบาตเยี่ยงนี้ว่า การฆาตกรรมต่อเนื่อง หรือ serial killings

เล่ามานี้เพื่อจะบอกว่า เมืองไทยแทบจะไม่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้ เพราะความที่ครองวิถีพุทธ (ถึงจะมีศาสนิกอื่นด้วย) มาเนิ่นนาน ความผิดเพี้ยนเช่นนี้จึงไม่เกิดมากนักในระดับประชาชน

แต่กลับปรากฏว่าไปเกิดมากในชนชั้นปกครองของไทย โดยเฉพาะตัวผู้ปกครองหลักผู้มีความวิปริตผิดเพี้ยนมาตั้งแต่คนไทยส่วนใหญ่จำความได้ เพียงแต่ไม่กล้าพูดดังไปกว่าเสียงกระซิบ

ล่าสุดคือการส่งสัญญาณให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกร้องเรียนว่ารับเงินบริจาคทางการเมืองและใช้เงินบริจาคนั้นอย่างผิดกฎหมาย

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนการปราบปรามประชาชนในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๕๓ ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะถูกยุบ

ยังไม่มีหน้าไหนออกมาเดือดร้อน

นายชวน หลีกภัยยังไม่ต้องกระโดดออกมาร่ายรำ

แต่เมื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์แล้ว จนรัฐบาลขี้ข้าธรรมดากลายเป็นรัฐบาลขี้ข้ามือเปื้อนเลือด เหตุการณ์ก็เริ่มจะเปลี่ยนไปสำหรับพรรคประชาธิปัตย์

ไม่ใช่ว่าผู้ทรงอำนาจเมืองไทยคนไหนเกิดดวงตาเห็นธรรมจนต้องการลงโทษพรรคประชาธิปัตย์ในบาปกรรมที่ก่อขึ้น แต่เป็นเพราะการบริหารจัดการปัญหาตามใบสั่งอย่างชุ่ยๆ จนเรื่องลุกลามไปถึงคนสั่งและครอบครัว ความชอบธรรมของประชาธิปัตย์ในฐานะมือปืนรับจ้างของฆาตกรตัวจริงจึงหมดไป

หมดแล้วเขาก็ไม่รู้จะเก็บไว้ทำเจ้าอะไร สัญญาณกำจัดกวาดล้างจึงเกิดขึ้น

คนสั่งเขารู้ดีว่า พรรคอย่างประชาธิปัตย์นั้น ยุบแล้วก็ตั้งใหม่ได้เหมือนตุ๊กตาล้มลุก แต่สิ่งที่เขารู้ดีว่าจะเกิดขึ้นควบคู่กันไปคือ การเปลี่ยนแปลงอำนาจในพรรคเมื่อโครงสร้างปัจจุบันต้องพังพาบลง

พูดง่ายๆ ว่ากำจัดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสุเทพ เทือกสุบรรณได้ง่ายที่สุดด้วยวิธีนี้ ตัวนายชวนหัวหรือนายหัวชวนเขาก็พร้อมเสียบแทนอยู่แล้ว

พร้อมกันนั้นก็สร้างการแข่งขันขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างค่ายต่างๆ ที่ขับเคี่ยวกันอยู่ว่า ใครจะเสนอกรรมวิธีกำจัดศัตรูและรักษาผลประโยชน์ต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่นๆ คนนั้นก็จะได้ขึ้นมาแทนในนามพรรคใหม่

หรือถ้าผู้บริหารปัจจุบันปรับตัวทัน รีบเร่งเสนอผลประโยชน์ในสัมปทานชีวิตในครั้งนี้จนถูกใจผู้เฒ่า พรรคก็อาจจะไม่ถูกยุบ รัฐบาลก็ยังดำรงสภาพต่อไปได้จนถึงการสอบแข่งขันครั้งใหม่ที่เขาจะกำหนดขึ้นมา

ชะตากรรมของลูกน้องเผด็จการทรราชมันก็เป็นเช่นนี้

ใครที่ไม่เคารพประชาชน ดูถูกพลังของปวงชน และเอาใจแต่ผู้มีอำนาจซึ่งมีจิตใจวิปริตผิดเพี้ยนเอาแต่อำนาจอันล้นพ้นของตัวเองเป็นหลัก ในที่สุดก็จะจบชีวิตทางการเมืองแบบนี้

ตราไว้ตรงนี้นะครับ ถึงพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบทิ้ง ก็ไม่ได้แปลว่าเมืองไทยของท่านมีความงามและความดีขึ้นมาในระบอบการเมืองที่พิกลพิการ สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงแสดงว่ารีโมตคอนโทรลเมืองไทยอยู่ในมือของใครเท่านั้นเอง

ใครเป็นเหยื่อและใครเป็นฆาตกร เป็นเรื่องที่ต้องสังเกตให้ดีครับ.

--------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น