ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
อัญมณีไทย (จะ) ไปจีน โดย ผศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น
ทับทิม [Ruby] อยู่ในตระกูล Corundum ทับทิมมีสีแดงสด เป็นอัญมณีที่มีชื่อเสียงมากและนิยมกันแพร่หลาย มีความแข็งเท่ากับ 9 ถือว่าเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ทำให้เกิดกำลังใจแข็งแกร่งและเป็นที่เกรงกลัวของภูตผี และป้องกันอันตรายแก่ผู้สวมใส่คนไทยเชื่อว่า ทำให้เกิดลาภยศและก่อให้เกิดอำนาจ
ไพลิน [Sapphire] เป็นพลอยในตระกูล Corumdum ไพลินเป็นพลอยมีค่าที่มีสีน้ำเงิน มีความแข็งเท่ากับทับทิม คือ9 ทนต่อแรงกระทบขีดข่วนได้พอสมควร เชื่อว่าผู้ใดที่สวมไพลินจะสามารถคาดการณ์สิ่งต่างๆได้ล่วงหน้า และป้องกันภัยจากศัตรูได้
---------------------------------------------------------------------------------
ดิฉันและทีมวิจัยจากศูนย์บริการวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพิ่งกลับจากการเดินทางไปเก็บข้อมูลและตระเวณสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องในประเทศจีน เริ่มจากนครกวางโจว เมืองพานหยู เมืองเสิ่นเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง บินต่อไปยังเมืองหางโจว และปิดท้ายที่มหานครเซี่ยงไฮ้ ภายใต้โครงการศึกษาโอกาสและอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนด้านอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศจีน ด้วยงบประมาณจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT
“หง-หลาน-เป่า” (ทับทิม-ไพลิน) เป็นคำตอบจากชาวจีนเกือบจะทุกท่าน ทันทีที่ดิฉันยิงคำถามไปว่า “ถ้าพูดถึงอัญมณีไทยคุณจะคิดถึงอะไรก่อน” แต่ปัญหาหรือคำบ่นที่มักจะตามมาทันทีเช่นกัน คือ จะทราบได้อย่างไรว่า “หง-หลาน-เป่า” สวยๆ ที่เห็นนั้นเป็นของจริงหรือของปลอม คนจีนที่ให้สัมภาษณ์บางท่านยังย้อนถามกลับมาว่า ประเทศไทยมีการกำหนดหรือออก “มาตรฐาน” ของพลอยสีสวยๆ พวกนี้หรือไม่ จึงสะท้อน จุดอ่อนสำคัญของอัญมณีไทยในสายตาของจีน นั่นคือ ปัญหาคุณภาพมาตรฐานสินค้าและสินค้าปลอม
ที่จริงแล้ว ผู้บริโภคจีนวันนี้ มีเงิน มีรายได้มากขึ้น และพร้อมที่จะควักเงินจากกระเป๋าเพื่อครอบครองอัญมณีจากต่างประเทศ โดยไม่สนใจเรื่องราคา ขอเพียงมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม และสามารถนำมาใส่เพื่ออวดโชว์สะท้อนสถานะทางสังคมได้ พูดง่ายๆ ก็คือ คนจีนมีเงินวันนี้ เขาไม่ต้องการสินค้าไร้คุณภาพ และรังเกียจของปลอมค่ะ
ในการเดินทางครั้งนี้ ดิฉันมีโอกาสสัมภาษณ์ คุณวินัย พรพิทักษ์สิทธิ์ ผู้มีประสบการณ์คร่ำวอดในการดูแลธุรกิจอัญมณีของทุนไทยในจีน ด้วยตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทแพรนด้า กวางโจว (จิวเวลรี่)
หลังจากที่ได้พูดคุยสัมภาษณ์กันแบบเจาะลึก และพาดิฉันและคณะวิจัยไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตของบริษัทฯ ในเมืองพานหยู พาไปชมนิคมอุตสาหกรรมอัญมณี “ซาวาน” (ShaWan) ในศูนย์ World Mart ของเมืองพานหยู ต่อด้วยการพาไปชมร้านจำหน่ายปลีกของบริษัทฯ ในเมืองเสิ่นเจิ้น จนเรียกได้ว่า ช่วง 1 วันเต็มที่ได้พูดคุยและรับรู้รับฟังประสบการณ์ของคุณวินัย นับเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ายิ่ง
แพรนด้าได้เริ่มเข้ามาตั้งโรงงานในจีนเมื่อปี 2004 ในรูปแบบของทุนต่างชาติ 100 % ซึ่งในระยะแรกเน้นการใช้จีนเป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออก แต่ต่อมาประมาณปี 2007 ได้ตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์เป็น “ผลิตในจีน ขายในจีน” ( Made in China, Sold in China) เพราะตระหนักถึงศักยภาพและกำลังซื้อที่มหาศาลของตลาดจีน
บริษัทฯจึงเริ่มหันมาพัฒนาสร้างตราสินค้าของตัวเองในจีน และจนถึงวันนี้ มีเคาน์เตอร์จำหน่ายปลีก 8 แห่ง และมีร้านเฟรนด์ไชส์อีก 2 แห่ง โดยเน้นในกลุ่มสินค้าเครื่องประดับเงินและวางตำแหน่งในตลาดระดับกลาง-บน ภายใต้ตราสินค้า ESSE เน้นจุดแข็งในเรื่องคุณภาพโดยการฝังพลอยด้วยมือ ซึ่งใช้ฝีมือในการเชื่อมทุกจุด ในขณะที่ สินค้าคู่แข่งในจีนส่วนใหญ่เป็นงานติดกาว “ ถ้าลงไปเล่นตลาดล่าง ก็คงจะสู้คู่แข่งจีนได้ยาก เพราะต้นทุนเราสูงกว่า เช่น เราจ่ายค่าแรงแพงกว่า เพราะต้องทำตามกฏหมายจีนทุกประการ จึงต้องเน้นสร้างความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพการผลิตและการออกแบบ”
ด้วยประสบการณ์ร่วม 5 ปี ทำให้แพรนด้ามีความเข้าใจในตลาดจีนมากขึ้น ทั้งในเรื่องของรูปแบบ และราคา และเน้นการออกแบบที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า คุณวินัยย้ำว่า “ส่วนของการออกแบบถือเป็นหัวใจของงาน บริษัทฯ จะใช้วิธีการออกแบบจากประเทศไทย เพราะยังไม่มั่นใจในเรื่องความซื่อสัตย์ หากทำการออกแบบในจีน อาจมีการลอกเลียนแบบ แต่แม้ว่าจะออกแบบที่เมืองไทย ก็ต้องเน้นรูปแบบดีไซน์ที่สนองตลาดจีน” เนื่องจากตลาดอัญมณีในจีนมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัวตามเทรนด์ของตลาดตลอดเวลาเช่นกัน
ในแง่ของการตัดสินใจซื้ออัญมณี/เครื่องประดับแต่ละประเภทจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ เช่น ทองและเพชร จะซื้อกันมากในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น วันตรุษจีน วันเกิด วันแต่งงาน หรือวันครบรอบต่างๆ ในขณะที่ อัญมณีจากเงินหรือพลอยสี เป็นการซื้อหาตามความชอบเช่นเดียวกับการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่น ถ้าชอบรูปแบบ ชอบดีไซน์ สาวจีนรุ่นใหม่ก็จะตัดสินใจซื้อได้โดยง่าย
นอกจากนี้ ผู้บริโภคในมณฑลต่างๆ ของจีนก็มีรสนิยมความชอบที่แตกต่างกันไป เช่น คนจีนรวยในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรับอิทธิพลจากฝรั่งและเป็นเมืองที่เป็นแฟชั่นมากที่สุดของจีน ชอบสินค้าหรู มีราคาและเปลี่ยนแปลงตามแฟชั่น ที่สำคัญ คือ มีการแข่งขันสูงมาก คุณวินัยเล่าว่า “การทำตลาดอัญมณีในเซี่ยงไฮ้ ถ้าสินค้าไม่ได้มีความเป็นพิเศษหรือนำแฟชั่น จะขายได้ลำบาก ลูกค้าพร้อมที่จะเปลี่ยนความนิยมตลอดเวลา มีแบรนด์คู่แข่งจำนวนมาก และบรรดาแบรนด์ดังระดับโลก มักจะใช้เซี่ยงไฮ้เป็นที่เริ่มต้นและลองตลาด”
ในขณะที่ คนจีนรวยในกวางตุ้ง ชอบอัญมณีเครื่องประดับเพื่อการลงทุน เช่น ทองคำ จึงนิยมซื้อไปเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สิน แต่ถ้าเป็นคนในวัยทำงาน ผู้บริโภคสาวจีนรุ่นใหม่จะชอบเครื่องประดับแฟชั่นที่มีขนาดเล็ก ดูน่ารัก มีรูปแบบโดดเด่น ไม่นิยมเครื่องประดับที่มีรายละเอียดมากเกินไป ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์ ESSE
เนื้อที่หมดแล้วค่ะ ก็หวังว่า ประสบการณ์ในการรุกตลาดจีนของ “อัญมณีสัญชาติไทยในแดนมังกร” รายนี้ จะช่วยเติมเต็มความหวังของผู้ประกอบการไทยรายอื่นๆ ที่สนใจจะเข้าไป Made in China และ Sold in China นะคะ สำหรับรายละเอียดผลการศึกษาจะนำมาผลิตเป็น “คู่มือการค้าการลงทุนอัญมณีเครื่องประดับในจีน” ให้กับ GIT และคาดว่าจะเผยแพร่ได้ภายในเดือนเมษายนปีหน้าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น