ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๒) โดย กาหลิบ
คอลัมน์ : เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง : รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๒-จบ)
โดย : กาหลิบ
ผู้นำโลกหลายคน เช่น มหาตมะคานธี จอร์ช วอชิงตัน เนลสัน แมนเดล่า เป็นต้น ต่างได้ข้อสรุปถึงอุดมการณ์ในการบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้าว่า จงอย่าหลวมตัวยอมรับความสุดโต่งทางการเมือง
พูดอีกอย่างได้ว่า ประเทศที่จะเจริญรุดหน้าได้อย่างแท้จริงนั้น ถืออุดมการณ์ซ้ายจัดก็ไม่ได้และขวาจัดก็ไม่ได้
เป็นคอมมิวนิสต์จนตกขอบ หรืออนุรักษ์นิยมจนตกเหว ล้วนมีอันตรายทั้งนั้น
แต่มัชฌิมาทางการเมืองโดยเฉพาะของราชอาณาจักรไทยจะอยู่ตรงไหนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันในอีกเวทีหนึ่ง แต่วันนี้เรากำลังเดินไปสู่สุดโต่งทางด้านขวาตามผลประโยชน์เฉพาะหน้าของเจ้าของประเทศและคณะ โดยไม่คำนึงเลยว่ามวลมหาประชาชนที่ควรจะวางตัวเป็นกลาง จะได้รับผลเสียหายอย่างไรบ้าง
เพราะเมืองไทยปัจจุบันมิได้อยู่ในระบอบประชาชน แต่มวลชนไทยทั้งหมดกลับตกอยู่ในระบอบศักดินา-อำมาตยาธิปไตยที่ครอบงำอยู่ในทุกมิติ ประชาชนจึงไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในทิศทางการเมือง โดยเฉพาะเมื่อราชรถประเทศไทยกำลังเอียงขวาไปเรื่อยๆ จนทำท่าจะตกขอบเอา
ความพยายามในการปิดประเทศไทยด้วยการปลุกลัทธิคลั่งชาติ การชวนเชื่อว่ามีขบวนการล้มเจ้า และการทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างไร้เหตุผล คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ปล่อยน้ำในเขื่อนมาท่วมบ้านเรือนราษฎรทั่วประเทศให้รัฐบาลประชาธิปัตย์เน่าเสียและเตรียมพบจุดจบในทางการเมือง จะโดยการยึดอำนาจ เลือกตั้ง หรือพังกลางรัฐสภาก็ตาม เป็นความทารุณอย่างหนึ่งของคณะผู้ปิดประเทศไทย ซึ่งต่อไปจะเรียกเสียให้สมกับอุดมการณ์เขาว่าคณะขวาจัด แต่ก็เป็นกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่หาคนพุทโธได้ยากอยู่เหมือนกัน
เรื่อง : รัฐขวาจัด (ตอนที่ ๒-จบ)
โดย : กาหลิบ
ผู้นำโลกหลายคน เช่น มหาตมะคานธี จอร์ช วอชิงตัน เนลสัน แมนเดล่า เป็นต้น ต่างได้ข้อสรุปถึงอุดมการณ์ในการบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้าว่า จงอย่าหลวมตัวยอมรับความสุดโต่งทางการเมือง
พูดอีกอย่างได้ว่า ประเทศที่จะเจริญรุดหน้าได้อย่างแท้จริงนั้น ถืออุดมการณ์ซ้ายจัดก็ไม่ได้และขวาจัดก็ไม่ได้
เป็นคอมมิวนิสต์จนตกขอบ หรืออนุรักษ์นิยมจนตกเหว ล้วนมีอันตรายทั้งนั้น
แต่มัชฌิมาทางการเมืองโดยเฉพาะของราชอาณาจักรไทยจะอยู่ตรงไหนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันในอีกเวทีหนึ่ง แต่วันนี้เรากำลังเดินไปสู่สุดโต่งทางด้านขวาตามผลประโยชน์เฉพาะหน้าของเจ้าของประเทศและคณะ โดยไม่คำนึงเลยว่ามวลมหาประชาชนที่ควรจะวางตัวเป็นกลาง จะได้รับผลเสียหายอย่างไรบ้าง
เพราะเมืองไทยปัจจุบันมิได้อยู่ในระบอบประชาชน แต่มวลชนไทยทั้งหมดกลับตกอยู่ในระบอบศักดินา-อำมาตยาธิปไตยที่ครอบงำอยู่ในทุกมิติ ประชาชนจึงไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในทิศทางการเมือง โดยเฉพาะเมื่อราชรถประเทศไทยกำลังเอียงขวาไปเรื่อยๆ จนทำท่าจะตกขอบเอา
ความพยายามในการปิดประเทศไทยด้วยการปลุกลัทธิคลั่งชาติ การชวนเชื่อว่ามีขบวนการล้มเจ้า และการทำให้เงินบาทแข็งค่าอย่างไร้เหตุผล คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ปล่อยน้ำในเขื่อนมาท่วมบ้านเรือนราษฎรทั่วประเทศให้รัฐบาลประชาธิปัตย์เน่าเสียและเตรียมพบจุดจบในทางการเมือง จะโดยการยึดอำนาจ เลือกตั้ง หรือพังกลางรัฐสภาก็ตาม เป็นความทารุณอย่างหนึ่งของคณะผู้ปิดประเทศไทย ซึ่งต่อไปจะเรียกเสียให้สมกับอุดมการณ์เขาว่าคณะขวาจัด แต่ก็เป็นกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่หาคนพุทโธได้ยากอยู่เหมือนกัน
การลุกฮือของมวลมหาประชาชนคนเสื้อแดง ที่ส่วนหนึ่งยึดอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้คณะขวาจัดต้องออกโรงเหมือนเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์สังหารประชาชนเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙
เขาเห็นแล้วว่า ขบวนการนี้ได้เกิดขึ้นแล้วและจะเจริญเติบโตต่อไปอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ การจัดการทางการเมืองโดยอดีตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย และ นปช. แดงทั้งแผ่นดินนั้นส่วนหนึ่ง แต่พลังธรรมชาติที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการจัดการของส่วนแรกนั่นสิที่เขากำลังจับตามองด้วยความสะพรึงกลัว เพราะรู้แก่ใจว่าควบคุมไม่ได้แม้ในฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเอง
คณะขวาจัดสังเกตการณ์โดยรอบ ใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาแล้วสรุปว่า หากเขาไม่อาจควบคุมประเทศไทยให้อยู่ในมืออย่างมั่นคงได้ดังเดิม ก็ควรหาทางปิดประเทศไทยเสียในทางการเมืองและเศรษฐกิจมหภาค เหมือแนวคิดของนักเลงปากซอยที่ว่า ข้าไม่ได้เอ็งก็อย่าได้
คิดคำนวณอยู่ในใจว่าปิดประเทศเสียตัวเองก็คือผู้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด รัฐบาลใดที่รับใช้ได้ถึงใจ ก็เอามันไว้ใช้ รัฐบาลใดที่ขัดใจหรือผลประโยชน์ขัดกัน ก็ส่งสัญญาณให้เครือข่ายทำลายทิ้งเสียอย่างเลือดเย็นเช่นที่เคยเกิดกับรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียรเมื่อ พศ.๒๕๒๐ รัฐบาลสุจินดา คราประยูรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๕ รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์เมื่อ พ.ศ.๒๕๕๐
และกำลังจะเกิดกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในเร็ววันนี้
นายกรัฐมนตรีหลังรัฐประหารก็เลือกสรรอย่างใจเย็นเหมือนคนช็อปปิ้งด้วยความสบายใจ ดูไปช้าๆ ว่าใครจะตอบโจทย์ได้ครบถ้วนกว่ากัน
ไม่ว่าจะพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ นาวาอากาศตรีประสงค์ สุ่นศิริ ก็อยู่ในบททดสอบนี้ทั้งนั้น รวมทั้งอีกสองสามคนที่แอบให้ความหวังเขาอยู่ เหมือนเคาะกะลาให้หมาดีใจ
จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวบ้านเขาเห็นพายุสีแดงจัดเข้าถล่มเมืองหาดใหญ่และตัวจังหวัดสงขลาจนแทบจะวางวายอยู่ในขณะนี้ เช่นเดียวกับอีกหลายพื้นที่ของประเทศ ชนิดที่เกิดมาชั่วท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยเห็น
นี่ล่ะครับ บ้านเมืองที่กำลังเกิดอาเพศ.
-----------------------------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น