ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันอาทิตย์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

บิดและเบือน โดย กาหลิบ


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง บิดและเบือน
โดย กาหลิบ

คำว่า บิดเบือน ซึ่งเป็นคำไทยแท้ๆ มีความหมายที่ลึกซึ้งและสะท้อนภาพของวิถีไทยได้ดีที่สุดคำหนึ่ง โดยเฉพาะเมืองไทยปัจจุบัน คำๆ นี้ประกอบด้วยสองคำย่อยคือ บิด และ เบือน ซึ่งมีความเหมือนและต่างอยู่ในนั้นเสร็จสรรพ

ความหมายที่ประกอบกันแล้วสมบูรณ์นี้ อธิบายเมืองไทยที่ซับซ้อนได้ดียิ่ง

บิด หมายถึง การพลิกสภาพของสิ่งที่เป็นรูปธรรมหรือนามธรรมให้เปลี่ยนมุมหรือเปลี่ยนด้านไปอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

เบือน หมายถึง การเปลี่ยนมุมมองของคนๆ หนึ่ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากความไม่ใส่ใจ ความเห็นแก่ตัว ความไม่รู้สึกรู้สมต่อเรื่องที่ตัวควรจะรู้สึกและเข้าช่วยเหลือมีส่วนร่วม หรืออาจจะเป็นความอ่อนแอและไม่สามารถทนมองอีกต่อไปก็ได้

สภาพเมืองไทยขณะนี้เป็นลูกผสมของ บิด และ เบือน

ผู้มีอำนาจในระบอบเผด็จการโบราณและคณะใช้นโยบาย “บิด” เพื่อเลี่ยงประเด็นที่เป็นอันตรายต่ออำนาจและผลประโยชน์ของตัวเอง

สื่อมวลชน นักวิชาการปัญญาชน และประชาชนส่วนหนึ่ง ใช้นโยบาย “เบือน” คือหันหลบไปเสียจากความจริงอันโหดร้ายรุนแรงจนไม่อาจรับได้ หรือเพราะเห็นแก่ตัวจัด จนไม่สนใจว่าใครจะเสียหายจากการ “บิด” ของผู้มีอำนาจ (จริง) ในเมืองไทยหรือบ้านเมืองจะย่อยยับขนาดไหน ตราบเท่าที่เขายังประคองตัวอยู่ได้ดั่งสวะที่ลอยตามน้ำ

เหตุการณ์ย่อยๆ สองเรื่องพิสูจน์เรื่องนี้ได้อย่างดียิ่ง

กรณีศาลรัฐธรรมนูญที่ขณะนี้กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องสื่อมวลชนบ้าง ซัดกันว่าเจ้าหน้าที่คนไหนมีความผิดฐานที่เป็นผู้ถ่ายคลิปหรือบกพร่องต่อหน้าที่จนมีคนถ่ายคลิปได้บ้าง เอากันถึงขนาดหลุดออกมาจากปากว่าการวิจารณ์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหนักเกินไปอาจเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้ เพราะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งมา

นี่ไม่ใช่แค่ “บิด” ประเด็นอย่างหน้าด้านๆ ตามประสาบ้านนี้เมืองนี้ แต่ถึงขั้น “บ้า” กันเลยทีเดียว

สิ่งที่เป็นเนื้อหาของความผิดไม่พูด เพราะพูดไปก็อธิบายผิดให้กลายเป็นถูกไม่ได้ กลับ “บิด” ไปยังประเด็นอื่นด้วยฐานความคิดว่าประชาชนทั้งประเทศที่ไม่ใช่พวกหรือสีเดียวกับตัวเองล้วนเป็นควายทั้งนั้น

ควายอย่างเดียวยังไม่พอ ยังจะกล่าวหาว่าควายมันหมิ่นตามมาตรา ๑๑๒ เข้าให้อีก

เราพูดกันไปแล้วว่าอาการ “บิด” เป็นเรื่องผิดธรรมชาติ อะไรก็ตามที่มันไม่ปกติถึงขนาดนั้นก็ย่อมพบอนิจจังคือความตั้งอยู่ไม่ได้อย่างรวดเร็วทันใจ สาธารณชนขณะนี้ถึงได้รู้สึกว่าเมืองไทยกำลังขาดสิ่งที่เราเคยยึดเป็นเสาหลักแห่งความถูกต้องดีงาม และเกิดความเวทนาตนเองและบ้านเมืองขึ้นมาจับใจ

ยิ่งพบว่าผู้นำทางความคิดในองค์กรสื่อ หน่วยงานทางวิชาการ และประชุมบางที่บางถิ่นพร้อมรับความโง่เขลาเยี่ยงนี้เพราะอ่อนแอเกินกว่าจะลุกขึ้นสู้ โดยแสดงอาการ “เบือน” ก็ยิ่งหนัก

มวลชนผู้ตาสว่างแล้วก็รู้สึกได้พร้อมกันทันทีว่าเมืองไทยถึงคราวต้องเปลี่ยนแปลง

อีกเรื่องกำลังเป็นข่าวเกรียวกราวอย่างยิ่งคือกรณีพบศพทารกจากการทำแท้งเถื่อนนับพันศพในวัดไผ่เงิน บ่งบอกถึงงานของเครือข่ายใต้ดินระหว่างโรงพยาบาล สัปเหร่อ และวัด และสะท้อนถึงความเป็นจริงในสังคมเสแสร้งของไทยที่แสดงออกว่าการทำแท้งเป็นเรื่องเลวร้าย แต่ไม่มีใครทำอะไรจริงจังเพื่อลดปัญหา

ประชาชนเสื้อสีที่พร่ำพูดว่าสังคมไทยดีวิเศษเพราะบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องมีประชาธิปไตยในบ้านเมืองชีวิตของผู้คนก็ดีขึ้นได้เองนั้น จะอธิบายความเลวระยำในครั้งนี้อย่างไร

รัฐบาลเลือกตั้งเท่านั้นล่ะที่คิดทำอะไรต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ในระดับโครงสร้างของบ้านเมือง เพราะไม่ใช่พวกละเมอหลับตาอยู่กับรูปภาพบ้าๆ บอๆ เหมือนคนสิ้นคิด แล้วมาหาเรื่องโกรธคนที่พูดความจริง

หน้าที่ของระบอบประชาธิปไตยคือลดอาการบิดเบือนของสังคมนี้ลงบ้าง

มนุษย์ประชาธิปไตยจะได้ใหญ่กว่าเผด็จการเดรัจฉาน.

----------------------------------------------------------
ข่าว SMS ของฝ่ายประชาธิปไตย เชิญสมัครสมาชิก SMS-TPNews โดยทีมงานเสื้อแดง เที่ยงตรง ไม่บิดเบือน ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center: 084-4566794-5 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น