ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ลำดับความเป็นมา กรณีปราสาทพระวิหาร
ประเด็นเรื่องปราสาทพระวิหารกลับมาอยู่ในข่าวครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับปัญหาเขตแดนของไทยและกัมพูชา แต่ที่มันแก้ยากมากขึ้น เพราะกลุ่มพันธมิตรเอาเรื่องนี้มาจุดกระแสคลั่งชาติ และร่วมมือกับนักการเมืองใช้ประเด็นนี้ทำลายกันทางการเมือง โดยบิดเบือนข้อเท็จจริงและประเด็นข้อกฎหมายอย่างไร้ความละอาย หวังแต่จะเอาชนะและทำลายคนอื่นโดยอาศัยความเท็จ
แต่พอตนเองมีหน้าที่ในการแก้ปัญหา กลับไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ยังพยายามโยนอุจจาระให้คนอื่น เพื่อให้ผู้อ่านไม่เป็นเหยื่อของพวกคลั่งชาติ และนักการเมืองประเภทพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น และเติบโตด้วยความเท็จ
ลองมาดูข้อเท็จจริงพอสังเขปในเรื่องนี้ดังนี้ครับ
ในปี 2505 ไทยแพ้คดีในศาลโลกในคดีที่หม่อมเสนีย์ ปราโมช ว่าความรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์จึงจำใจ และจำยอมยก ปราสาทพระวิหารและที่ดินใต้ปราสาทให้กัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 46ปีที่แล้ว นายสมัครหรือนายนพดล ไม่ใช่คนยกปราสาทให้กัมพูชา เดิมไทยใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตกับกัมพูชา แต่หลังจากยกปราสาทให้กัมพูชาไปแล้ว ไทยจึงทำแผนที่ประเทศบริเวณนั้นใหม่ โดยตัดพื้นที่ปราสาทออกจากราชอาณาจักรไทยและกันออกไปให้อยู่ในเขตกัมพูชา ที่เรียกว่าแผนที่ชุดL 7017 ทุกหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งกองทัพไทย และกระทรวงต่างประเทศถือว่าเส้นเขตแดนไทยกับกัมพูชาเป็นไปตามแผนที่ชุด L 7017 นายอภิสิทธิ์โกหกในสภาตอนเป็นฝ่ายค้านว่าพื้นที่ใต้ปราสาทยังเป็นของไทย แต่เผลอลืมไปว่าในปี 2541 ตอนเป็น รมต. ในครม ชวน ตนเองก็ออกแผนที่ประกาศเขตอุทยานเขาพระวิหารตามแผนที่ L 7017และระบุว่า เส้นบริเวณปราสาท เป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศ ไทยและกัมพูชา ที่น่าละอายก็คือพอตนเองทำนั้น บอกทำได้ แต่พอคนอื่นทำ บอกว่าจะทำให้เสียดินแดน
กระทรวงการต่างประเทศและกองทัพไทยยืนยันว่าไทยยกทั้ง ปราสาทและที่ดินใต้ปราสาท ให้กัมพูชา เพราะศาลโลกตัดสินว่า "ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในดินแดน ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา" แต่พรรคปชป. และนายอภิสิทธ์ เห็นว่าไทยยกให้เฉพาะตัวปราสาท แต่ที่ดินใต้ตัวปราสาทยังเป็นของไทย ดังนั้นเมื่อพรรคปชป.เป็นรัฐบาล ก็ต้องเจรจาเอาที่ดินกลับมาตามที่โจมตีท่านสมัครและนายนพดล ตอนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน หรือหากสงสัยก็ยื่นขอให้ศาลโลกตีความความหมายหรือขอบเขตคำพิพากษาได้ ตามธรรมนูญศาลโลก ข้อ 60 ซึ่งยื่นได้ตลอดเวลา ไม่มีอายุความ ประเด็นคือ อภิสิทธิ์กล้าพอไหม?
ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินผิดเพราะ
1. คำแถลงการณ์ร่วมไม่เป็นหนังสือสัญญาแต่เป็นเพียงแถลงการณ์ทางการเมือง และคู่กรณีไม่มีเจตนาผูกนิติสัมพันธ์กัน ซึ่งยืนยันได้จากหนังสือของ รมต. ต่างประเทศกัมพูชาที่ระบุว่า กัมพูชาไม่เห็นว่าคำแถลงการณ์ร่วมเป็น international treaty (สนธิสัญญาระหว่างประเทศ)
2. ประการที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเกินที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ในมาตรา 190 โดยเติมคำว่า "อาจ" เข้าไป และ
3. ประการที่สาม ข้อความที่ว่าเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคมเป็นบทบัญญัติใหม่ ครอบจักรวาล มีปัญหา และขาดความชัดเจน และเจตนารมณ์หมายถึงข้อตกลงเขตการค้าเสรี มากกว่าจะเป็นหนังสือประเภท คำแถลงการณ์ร่วม.
http://www.redthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=390:2009-10-12-06-21-17&catid=40:other-writer&Itemid=97
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น