ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552
บทกลอน : อภิสิทธิ์ชนิดเก่า โดย จักรภพ เพ็ญแข
โดย : จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา : คอลัมน์ ร้อยรักอักษราเป็นอาวุธ หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 20
รู้แล้วว่าเชื้ออำมาตย์เหมือนบาดทะยัก
ลุกลามหนักแม้หัวใจก็ไม่เหลือ
ตกชะตาข้าทาสใช่ญาติเครือ
ให้เขาเถือเนื้อกินจนสิ้นใจ
นี่แหละคือ “อภิสิทธิ์” เมื่อผิดก้าว
กราบปลายเท้ายาวถึงส้นทนไม่ไหว
เริ่มต้นเป็นนักประชาธิปไตย
เพียงผลิใบกลายเมล็ดเผด็จการ
โคตรตระกูลสอนไว้อย่างไรหรือ
ให้กล้าหือแข็งขัดรัฐประหาร
หรือให้ขอนายกฯ พระราชทาน
หรือให้ด้านหน้าไว้เป็นใหญ่เอง
เดิมคุณไม่ขนาดนี้พอมีหวัง
พอโดนนะจังงังกลับอวดเบ่ง
ใช้ปากทำขนมเบื้องเครื่องละเลง
บ้านเมืองกลิ้งเค้งเก้งไม่ดูแล
ด้วยคุณวุฒิผุดพราวควรก้าวหน้า
แต่กลับล้าหลังยิ่งกว่าคนแก่
นาฏกรรมอำมาตย์สอนลงนอนแบ
ปล่อยให้ลามตามกระแสยถากรรม
นี่มิใช่โรงละครละอ่อนเล่น
แต่บ้านเมืองขุกลำเค็ญและตกต่ำ
คือเมืองไทยปกคลุมด้วยหลุมดำ
โดนคณะผู้นำกระหน่ำตี
เมื่ออำนาจใกล้จะหมดจึงจดจ่อ
ลูกสมุนสอพลอเข้าช่วยจี้
คือระบอบของอำมาตย์ชาติกาลี
ใช่คนชี้หนึ่งเดียวเป็นเกลียวกัน
“อภิสิทธิ์” กลายเป็นหนึ่งในระบอบ
เป็นคำตอบเหตุไฉนไทยคิดสั้น
โอกาสเต็มฟากฟ้าสุดสารพัน
แต่เลือกบั่นทอนตัวกลัวสิ่งใด
กลัวระบอบประชาชนจะข้นเข้ม
กลัวประชาธิปไตยเติมเต็มหรือไฉน
กลัวนายกนอกสังกัดจะขัดใจ
กลัวจะไม่สานต่อไม่พอเพียง
สักวันหนึ่ง “อภิสิทธิ์” จะคิดได้
อำมาตย์ใดก็ไม่คุ้มจะสุ่มเสี่ยง
เลิกหลงมายากลคนใกล้เคียง
มานั่งเสี่ยงเพื่อศพจะจบตาม
แต่ถึงวันคิดได้คงสายแล้ว
หลังแยกแนวเด็ดขาดชาติสยาม
ฟื้นอำมาตย์ขึ้นใหม่คงไม่งาม
ต้องหล่นตามเวรกรรมที่ทำตน
คนชนิด “อภิสิทธิ์” ต้องปิดฉาก
ให้น้ำหลากล้างบ้านมารหัวขน
บ๋อยคอยเสิร์ฟอำนาจเก่าเราอับจน
ต้องเปลี่ยนคนเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนจิตใจ
เห็นนายกรัฐมนตรีอย่างนี้แล้ว
ก็รู้แนวของอำมาตย์ถือบาตรใหญ่
สร้างหุ่นเชิดเลิศลอยซ้ำรอยไทย
สืบสานความจัญไรไทยดำรง
ประเทศไทยย่อมจะดีกว่านี้แน่
เลิกทำตัวเป็นคนแก่ที่เริ่มหลง
พัฒนาบ้านเมืองตั้งเครื่องตรง
ให้พ้นดงพฤกษชาติอำมาตย์ไทย.
ที่มา : คอลัมน์ ร้อยรักอักษราเป็นอาวุธ หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 20
รู้แล้วว่าเชื้ออำมาตย์เหมือนบาดทะยัก
ลุกลามหนักแม้หัวใจก็ไม่เหลือ
ตกชะตาข้าทาสใช่ญาติเครือ
ให้เขาเถือเนื้อกินจนสิ้นใจ
นี่แหละคือ “อภิสิทธิ์” เมื่อผิดก้าว
กราบปลายเท้ายาวถึงส้นทนไม่ไหว
เริ่มต้นเป็นนักประชาธิปไตย
เพียงผลิใบกลายเมล็ดเผด็จการ
โคตรตระกูลสอนไว้อย่างไรหรือ
ให้กล้าหือแข็งขัดรัฐประหาร
หรือให้ขอนายกฯ พระราชทาน
หรือให้ด้านหน้าไว้เป็นใหญ่เอง
เดิมคุณไม่ขนาดนี้พอมีหวัง
พอโดนนะจังงังกลับอวดเบ่ง
ใช้ปากทำขนมเบื้องเครื่องละเลง
บ้านเมืองกลิ้งเค้งเก้งไม่ดูแล
ด้วยคุณวุฒิผุดพราวควรก้าวหน้า
แต่กลับล้าหลังยิ่งกว่าคนแก่
นาฏกรรมอำมาตย์สอนลงนอนแบ
ปล่อยให้ลามตามกระแสยถากรรม
นี่มิใช่โรงละครละอ่อนเล่น
แต่บ้านเมืองขุกลำเค็ญและตกต่ำ
คือเมืองไทยปกคลุมด้วยหลุมดำ
โดนคณะผู้นำกระหน่ำตี
เมื่ออำนาจใกล้จะหมดจึงจดจ่อ
ลูกสมุนสอพลอเข้าช่วยจี้
คือระบอบของอำมาตย์ชาติกาลี
ใช่คนชี้หนึ่งเดียวเป็นเกลียวกัน
“อภิสิทธิ์” กลายเป็นหนึ่งในระบอบ
เป็นคำตอบเหตุไฉนไทยคิดสั้น
โอกาสเต็มฟากฟ้าสุดสารพัน
แต่เลือกบั่นทอนตัวกลัวสิ่งใด
กลัวระบอบประชาชนจะข้นเข้ม
กลัวประชาธิปไตยเติมเต็มหรือไฉน
กลัวนายกนอกสังกัดจะขัดใจ
กลัวจะไม่สานต่อไม่พอเพียง
สักวันหนึ่ง “อภิสิทธิ์” จะคิดได้
อำมาตย์ใดก็ไม่คุ้มจะสุ่มเสี่ยง
เลิกหลงมายากลคนใกล้เคียง
มานั่งเสี่ยงเพื่อศพจะจบตาม
แต่ถึงวันคิดได้คงสายแล้ว
หลังแยกแนวเด็ดขาดชาติสยาม
ฟื้นอำมาตย์ขึ้นใหม่คงไม่งาม
ต้องหล่นตามเวรกรรมที่ทำตน
คนชนิด “อภิสิทธิ์” ต้องปิดฉาก
ให้น้ำหลากล้างบ้านมารหัวขน
บ๋อยคอยเสิร์ฟอำนาจเก่าเราอับจน
ต้องเปลี่ยนคนเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนจิตใจ
เห็นนายกรัฐมนตรีอย่างนี้แล้ว
ก็รู้แนวของอำมาตย์ถือบาตรใหญ่
สร้างหุ่นเชิดเลิศลอยซ้ำรอยไทย
สืบสานความจัญไรไทยดำรง
ประเทศไทยย่อมจะดีกว่านี้แน่
เลิกทำตัวเป็นคนแก่ที่เริ่มหลง
พัฒนาบ้านเมืองตั้งเครื่องตรง
ให้พ้นดงพฤกษชาติอำมาตย์ไทย.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น