ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 14 เสียเลือด


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอนที่ 14 : เสียเลือด
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

******************************************************************************

ประชาธิปไตยโดยประวัติศาสตร์จึงแปลว่า ระบอบการปกครองที่เปิดทางให้กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ มาหาทางประสานความต้องการและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

******************************************************************************

เสียเลือด

เห็นคนไทยถึงกับเลือดตกยางออกเพื่อการเมืองแล้วไม่สบายใจเลยครับ เลือดเป็นของที่อยู่ข้างในร่างกายของคนและก็ควรจะอยู่ในนั้นต่อไป เมื่อกระเซ็นออกมาข้างนอกแล้วก็มักจะทำให้อะไรต่อมิอะไรผิดปรกติไป เพราะเป็นภาวะที่ขัดต่อธรรมชาติ

ระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเจตนาหลายอย่าง แต่หัวใจที่สำคัญอย่างหนึ่งเป็นแน่นอนคือเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคม

หรือเกิดแล้วก็ต้องใช้เป็นเครื่องมือฟื้นฟูสันติภาพและสันติสุข พยายามไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก

เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ออกจะผิดวิสัยไทยขึ้นที่สยามพารากอนและเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ก็เลยอดคิดไม่ได้ว่าเรากำลังเป็นประชาธิปไตยกันแค่ไหน โดยเฉพาะในจิตใจ

เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสู่พื้นฐานกันหน่อย

สังคมประกอบขึ้นด้วยคนหมู่มาก และคนเหล่านั้นก็พากันหากลุ่มสังกัด เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์แก่ตัวเองบ้างหรือเพื่อสร้างอำนาจต่อรองต่างๆ บ้าง เมื่อหลายกลุ่มเข้าก็เริ่มจะมีความเห็นไม่ตรงกัน และเมื่อสังคมซับซ้อนยิ่งขึ้น ภาวะที่เรียกว่าผลประโยชน์ขัดกันก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมักจะเริ่มจากการขัดกันของผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มต่างๆ

อย่างอังกฤษที่ต่อสู้กันด้วยเรื่องภาษี โดยคนชั้นล่างโกรธแค้นที่คนชั้นสูงรีดภาษีไปจนแห้งตัว และคืนกำไรกลับมาน้อยมากหรือไม่คืนเลย ในที่สุดก็เลือดตกยางออกกัน และประชาธิปไตยแบบอังกฤษก็เริ่มปรากฏโฉมขึ้นในนามของเอกสารประกันสิทธิ เสรีภาพ และความสัมพันธ์ทางสังคม ที่เรียกว่าแม็กนา การ์ตา

ประชาธิปไตยโดยประวัติศาสตร์จึงแปลว่า ระบอบการปกครองที่เปิดทางให้กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ มาหาทางประสานความต้องการและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

เพื่อจะได้ไม่ต้องฆ่าฟันกัน ตั้งแต่ทำสงครามโลกไปจนถึงจัดคนมาเดินสายด่าหัวหน้ารัฐบาล จนต้องเกิดปะทะกันเพราะอีกฝ่ายทนการยั่วยุไม่ไหว

ประชาธิปไตยมีอยู่ก็เพื่อดักคอไม่ให้สิ่งเหล่านั้นต้องอุบัติขึ้น

ผมถึงคิดโยงไปถึงแนวความคิดประชาธิปไตยในทันทีที่เกิดเหตุขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าสองแห่งนั้น

ฝ่ายรักคุณทักษิณฯ ก็เป็นกลุ่มผลประโยชน์ชนิดหนึ่งที่มีสิทธิ์แสดงออก

ฝ่ายต่อต้านคุณทักษิณฯ ก็เป็นกลุ่มผลประโยชน์อีกชนิดหนึ่งที่มีสิทธิ์แสดงออก

แต่ไม่ใช่ด้วยการยั่วยุกันไปมาโดยรู้อยู่แก่ใจว่าตบะแตกเมื่อไหร่ก็พัง

ต้องย้อนกลับยังวิธีการที่เก่าคลาสสิคที่สุดคือการเลือกตั้งอย่างโปร่งใสและเที่ยงธรรม ซึ่งขณะนี้ศาลท่านกำลังจัดกันอย่างสุดเหวี่ยงอยู่

วันที่จะเลือกตั้งก็โปรดเกล้าฯ มาแล้วด้วย

พรรคการเมืองหลักๆ ทุกพรรคก็กำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะเลือกตั้งกันทุกพรรค ไม่มีใครแหลมออกมาประกาศอีกแล้วว่าจะคว่ำบาตรอะไร ยอมเดินไปตามเส้นทางที่ควรเดินทุกประการ

จึงไม่มีเงื่อนไขอะไรที่สมควรจะเสียเลือดเสียเนื้อกันอีก

เหมือนชาติไม่ได้ล่มก็อย่าไปดึงดันว่าข้าจะกู้ให้ได้

เก็บเลือดไว้บริจาดให้สภากาชาดไทยจะเป็นกุศลกว่ามากนัก.

----------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น