ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 9 "เลื่อนเลือกตั้ง" มีความหมาย
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอนที่ 9 : “เลื่อนเลือกตั้ง” มีความหมาย
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
******************************************************************************
วันที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เป็นวันที่หลายคนรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก
******************************************************************************
“เลื่อนเลือกตั้ง” มีความหมาย
ใครก็ไม่รู้ช่างกระไร ส่งบอลลูนตรวจอากาศออกมาหนึ่งลูก เพื่อโยนหินถามทางหรือสกัดกั้นความซวยไม่ให้ถึงตัวหรืออะไรก็ไม่รู้
ถามไปรอบๆ ว่า เลื่อนเลือกตั้งที่กำหนดไว้แล้วในพระราชกฤษฎีกาว่าจะเป็น ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ ดีไหม
บ้างก็ว่าเพราะกระบวนการเลือกกรรมการการเลือกตั้งจะล่าช้ากว่าที่คิด
บ้างก็ว่าเพราะ “เงื่อนไข” ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าว่าหลังเลือกตั้งแล้วใครจะเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไรยังไม่ลงตัว
บ้างก็ว่าประเทศแตกแยกกันออกเป็นภาคๆ อย่างนี้คงจะใช้การเลือกตั้งเป็นยาแก้แพ้ในขณะนี้ไม่ได้และต้องทอดเวลาไป
พระราชกฤษฎีกานั้นเป็นของสูงและศักดิ์สิทธิ์ การพูดไปเรื่อยว่าตราออกมาแล้วจะบังคับใช้ดีหรือจะเพิกเฉยดี โดยเอาความรู้สึกและผลประโยชน์ฝ่ายตัวเป็นที่ตั้ง ย่อมเป็นอัปมงคลยิ่ง ใครที่ชีวิตหมกมุ่นอยู่กับเทคนิคมากๆ เช่น กฎหมาย ฯลฯ ควรเพิ่มความระมัดระวังให้มาก
วันที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ เป็นวันที่หลายคนรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะตอนแรกไม่รู้เลยว่าการเมืองอึมครึมในขณะนั้นจะลงเอยหรือหาทางออกกันอย่างไร
เบื้องหลังพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ก็เทียบชั้นประวัติศาสตร์ ที่ควรบันทึกไว้ด้วยสติ แต่ไปเล่าสู่กันฟังในอีกสักสิบปีข้างหน้า
เช่นเดียวกับวันที่มีคำพิพากษาจำคุกอดีตกรรมการการเลือกตั้งทั้งสาม และไม่อนุญาตให้ประกันตัว จนกระทั่งพ้นสภาพนั้นไปโดยปริยาย อีกหลายคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันทางความคิด ก็บอกว่าโล่งอกเหลือประมาณเหมือนกัน เห็นว่าเป็นการปลดล็อคทางการเมืองครั้งสำคัญ
ภาษาหมากรุกเขาบอกว่ากินกันคนละคำ
นักเลงหมากรุกเขาก็จะเดินเกมกันต่อไป
แต่นักการเมืองโดยอาชีพและเปิดเผย กับนักการเมืองในเงามืดด้วยใจรักจำนวนหนึ่ง เขาไม่ได้ใช้หลักหมากรุกอย่างนี้ แต่ไพล่ไปใช้หลักของในตำรายุทธศาสตร์ของฝรั่ง
เรียกว่า zero-sum game
ใครชนะ ชนะทั้งหมด
ใครแพ้ แพ้ทั้งหมด
ทำให้คนที่กำลังจะชนะ จะไม่มีวันรามือราข้อ แต่จะบดขยี้หนักหน่วงขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตของอีกฝ่ายหนึ่งหมดสิ้นไปแน่ๆ และซากก็ไม่เหลือไม่ให้ดูเล่น
ไล่เบี้ยพลพรรคและเครือข่าย ตัดตอนยิ่งกว่าสงครามต่อต้านยาเสพติด จนแน่ใจได้ว่าต่อกลับไม่ได้เป็นตัวเดิม
ถึงกระนั้นก็ยังไม่เลิก นั่งเฝ้าต่อไปอย่างตาไม่กระพริบ เพราะเชื่อว่าถ้าเปิดโอกาสให้แม้แต่นิ้วเดียว อีกฝ่ายก็จะกระหายเลือดและทำลายล้างในระดับเดียวกัน
การเลือกตั้งไม่ใช่ของวิเศษวิโส เป็นเพียงเครื่องมือชิ้นเล็กๆ ที่จะทำให้เสียงข้างมากปรากฏขึ้นได้ในประชาคมนั้นๆ และใช้เป็นฐานในการเลือกคนที่จะมีอำนาจเหนือประชาชนส่วนใหญ่ไปชั่วระยะหนึ่ง โดยสร้างเงื่อนไขตามหลังไปด้วยว่ากระแสพลิกกลับเมื่อไหร่ก็จงเลิก ที่จะแสดงออกในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มา
ควรรับพระราชดำรัสและใคร่ครวญกันให้จงดีว่า ความคิดแบบ zero-sum game จนถึงขั้นที่มานั่งวิตกจริตว่าการเลือกตั้งจะเป็นการ “เปิดโอกาส” ให้ใครโดยที่เราจะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์จนต้องหาทางสกัดกั้นนั้น กำลังตามรอยพระบาทเช่นที่ควรจะกระทำกันหรือไม่
การเลือกตั้งไม่ใช่ zero-sum game และไม่ควรปล่อยให้กลายเป็นเช่นนั้น
เพราะเมื่อไหร่ที่หางหมาสำคัญกว่าหมาแล้วก็เสร็จ.
----------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น