ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 29 หางแกว่งหมา
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอนที่ 29 : หางแกว่งหมา
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
*********************************************************************************
นักวิชาการทั้งหลายจึงกำลังเคลื่อนไหวแบบตีปลาหน้าไซ ประณามเขาเสียก่อนที่จะพิสูจน์ได้ว่าเขาผิดอะไร
*********************************************************************************
หางแกว่งหมา
ทฤษฎีหางแกว่งหมา หรือ Wag the Dog ความจริงเป็นเรื่องของกองทัพและการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ มีประวัติศาสตร์ที่ออกจะซับซ้อน
แนวคิดหลักอยู่ที่ว่า ผลประโยชน์จากการจัดซื้อ จัดจ้าง และจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์นั้น หลายครั้งกลายเป็นเงื่อนไขกำหนดความสามารถของกองทัพไป เช่น จะซื้อเครื่องบินอะไร จะใช้เทคโนโลยีรถถังของประเทศไหน บริการหลังการขายเป็นอย่างไร ฯลฯ แทนที่ยุทธศาสตร์จะเป็นตัวตั้งต้นและจัดหาส่วนประกอบทั้งหลายให้ได้ตามยุทธศาสตร์ กลายเป็นกลับข้างกัน
เขาเลยเรียกล้อๆ ว่า ไอ้หมาตัวนี้มันแปลกดีนะ แทนที่มันจะแกว่งหาง เมื่อรู้สึกดีใจหรืออะไรต่างๆ ของมัน หางที่ไม่ควรจะมีความคิดจิตใจแท้ๆ กลับแกว่งตัวมันเองแทน
หางแกว่งหมาทางทหาร ทำลายความสามารถในการรบและการป้องกันตนเองมาหลายประเทศแล้ว วันหลังคงจะได้เล่าให้ละเอียดกว่านี้ วันนี้เป็นหางอีกประเภทหนึ่งและเป็นหมาอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ผมนึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้เมื่อเห็นการแถลงข่าวที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นำโดยคณบดีคนใหม่คือ ดร.จรัส สุวรรณมาลา
เรียกร้องให้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร เว้นวรรค เพื่อให้ “สังคม” ตรวจสอบข้อสงสัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีและพวก
คำว่าสังคมนั้น ท่านคงไม่ได้หมายถึงเฉพาะคณาจารย์ที่ร่วมกันเคลื่อนไหวในเรื่องนี้คือตัวท่านและพวกเท่านั้น คงรวมถึงชนชั้นนำต่างๆ ที่เหนือขึ้นไปกว่าชาวบ้านด้วย แต่รวมตัวท่านเองและพวกด้วยแน่ๆ
ผมรู้สึกแปลกใจครับ
ตามปรกติแล้ว เมื่อรัฐธรรมนูญยังมีอิทธิฤทธิ์กำหนดกรอบของการทำงานในระบอบประชาธิปไตยอยู่ ขนาดที่รัฐสภาก็สมบูรณ์ รัฐบาลก็สมบูรณ์ ศาลก็สมบูรณ์ ระบบพรรคการเมืองแบบสองพรรคที่อยากได้มาตั้งแต่ชาติปางก่อน บัดนี้ก็แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ
องค์กรตรวจสอบทั้งหลายเป็นของใหม่ ในสังคมอุปถัมภ์แบบไทย ย่อมจะเกิดข้อกังขาต่างๆ ได้บ้าง ว่าใครเป็นพวกใครหรือไม่ หน้าที่ของคนที่รักรัฐธรรมนูญก็ต้องช่วยกันประคับประคองไป เพราะโดยภาพรวมคือสิ่งเหล่านี้ยังอยู่ได้
ในเงื่อนไขเช่นนี้เองที่นักวิชาการอย่างท่านอาจารย์จรัสฯ กลับออกมาเรียกร้องให้นักการเมืองที่เดินมาตามขั้นตอนนั้นทุกอย่างอย่างคุณทักษิณฯ เว้นวรรคตัวเองไปเฉยๆ
เหตุผลที่นำมาใช้อธิบายจุดยืนของตัวเอง เอาเข้าจริงแล้วก็คือข่าวลือข่างอ้างที่เชื่อกันเองว่าจริงทั้งเพ ไม่มีอะไรเลยที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นในกระบวนการที่เรายอมรับกันได้อย่างศาล
อดีต กกต. ๓ ท่านต้องเข้าคุกนั้น ศาลก็เขียนคำวินิจฉัยชัดเจนว่าทำให้เกิด “ความสงสัย” จึงถูกลงทัณฑ์ ถ้าศาลบอกโต้งๆ ว่าเอื้อพรรคไทยรักไทย ป่านนี้ก็ต้องตามมายุบพรรคด้วยแล้ว เขาไม่ปล่อยเอาไว้ทำอะไรหรอก เรื่องแบบนี้เห็นได้ชัดว่า ความเชื่อกับความจริงมันยังมีช่องว่างระหว่างกันอยู่ ฯลฯ
นักวิชาการทั้งหลายจึงกำลังเคลื่อนไหวแบบตีปลาหน้าไซ ประณามเขาเสียก่อนที่จะพิสูจน์ได้ว่าเขาผิดอะไร
เล่นการเมืองแบบพรรคการเมืองเก่าแก่แท้ๆ คือ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหายในชื่อเสียงเกียรติคุณเสียก่อน กว่าจะถึงขั้นตอนการพิสูจน์ทราบ สื่อก็คล้อยตามเราไปแล้ว จริงไม่จริงค่อยมาว่ากันในภายหลัง ตอนที่ประชาชนลืมต้นเรื่องไปแล้วนั่นแหละครับ
ทำไมจึงไม่รอให้กระบวนการที่มีอยู่ทำหน้าที่ไปก่อน เมื่อกงล้อติดขัดแล้วจึงจะเข้ามาเสนอความคิด
ทำไมหางจึงแกว่งหมา?
ทำไมหางจึงแกว่งหมา?
ผมอยากจะพูดดังๆ ตรงนี้ ในฐานะที่สอนหนังสือมายี่สิบปีและทำงานอื่นๆ อีกมากว่า นักวิชาการบางคนที่กำลังใช้ความ “เหนือกว่า” ทางสังคม อาศัยความเป็นอาจารย์ที่คนเขายังหลงกราบไหว้บูชาว่าเป็นยอดคน มาย่ำยีระบบเพียงเพราะโมหจริตชนิดควบคุมไม่อยู่ของตน ความจริงคือภัยสังคมอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
ยกมือไหว้ไหวหรือ?
-------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น