ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 21 เหลือแต่ตุลาการ
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร
ตอนที่ 21 : เหลือแต่ตุลาการ
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
**************************************************************************
ตอนที่ 21 : เหลือแต่ตุลาการ
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
**************************************************************************
การเลือกตั้งนั้นเป็นกระบวนการเดียวที่หาอะไรอื่นมาเปรียบเทียบหรือแข่งขันได้ยาก มันก็ดิบๆ ตรงๆ อย่างนั้นแหละ
**************************************************************************
เหลือแต่ตุลาการ
ไม่ต้องสงสัยอะไรอีกแล้วครับว่าประเทศไทยกำลังเดินไปสู่ทิศทางใด
ฟัง “ปัญญาชน” อย่างคุณอานันท์ ปันยารชุน ดร.โคทม อารียา หรือคุณหมอประเวศ วะสี ที่ดูประหนึ่งว่าจะนัดกันออกมาเป็นดาบหนึ่ง ดาบสอง ดาบสามเรื่อยไป ก็พอจะรู้ได้ว่าคิดอะไรอยู่
ระยะเวลาแห่งความกระมิดกระเมี้ยนได้สิ้นสุดลงแล้ว
ประเทศไทยมาถึงจุดที่ผู้มีปัญญาและพยายามชี้นำสังคมเรื่อยมาร่วมใจกันประกาศว่า ประชาธิปไตยของไทยไม่จำเป็นต้องใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือก็ได้
จะเล่นคำประดิดประดอยอย่างไรก็ตามใจ อาจจะบอกว่า “การเลือกตั้งไม่ใช่ทั้งหมดของประชาธิปไตย” หรือ “ประชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งเสมอไป” ก็ตาม ความหมายระหว่างบรรทัดและบนบรรทัดที่ท่านทั้งหลายได้พูดขึ้นมานั้นชัดเจนเป็นที่สุดคือ
ไม่ต้องมีเลือกตั้งก็ได้
ฟังแล้วผมอยากร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ออก คงจะเป็นน้องๆ ความรู้สึกของ “คนตุลา” ที่หมอพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและเป็นหนึ่งใน “คนตุลา” ล่ะกระมัง เมื่อท่านบอกว่าขณะนี้ “คนตุลา” น้ำตาตกในกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายสนับสนุนหรือคัดค้านรัฐบาลของคุณทักษิณฯ
รู้ล่ะครับว่าประชาธิปไตยเป็นภาวะที่ใหญ่หลวงกว่าการเลือกตั้ง เพราะหมายถึงสิทธิและเกียรติภูมิตามธรรมชาติของคน ไม่ต้องมีใครให้มา และไม่ต้องไปรอรับความเมตตาจากใคร เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามพึงยอมรับและกระทำตนอย่างนั้น
แสดงสิทธิ์ของตนอย่างเต็มที่แต่ถูกต้อง ไม่ละเมิดสิทธิ์ของคนอื่นที่เป็นชาวประชาธิปไตยเช่นเดียวกับตน เคารพในกฎเกณฑ์ที่คนส่วนใหญ่ให้ความยอมรับนับถือ เห็นความสำคัญของการทำตามกฎหมายระบิลเมือง เสียงข้างมากต้องเคารพในความมีสิทธิ์ของเสียงข้างน้อย ฯลฯ
เข้าใจครับ
แต่จะได้ทั้งหลายเหล่านี้มาจากไหนเล่า ถ้าไม่ตั้งต้นที่การเลือกตั้งเสียก่อน
เพราะการเลือกตั้งนั้นเป็นกระบวนการเดียวที่หาอะไรอื่นมาเปรียบเทียบหรือแข่งขันได้ยาก มันก็ดิบๆ ตรงๆ อย่างนั้นแหละ แต่มันก็ตอบโจทย์ได้ตรงตัวว่านี่คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เขาชอบและเชียร์
ใครจะจัดการเลือกตั้งและจะจัดอย่างไรหรือมีความโปร่งใสแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง กรณีนี้เมืองไทยเราเป็นตัวอย่างที่ดี เมื่อมีความสงสัยว่าจะไม่ซื่อตรง ก็เปลี่ยนเป็นกลุ่มใหม่ที่ทุกคนจะโล่งใจกว่า อย่างกรรมการการเลือกตั้งที่ได้ข่าวว่าอาจจะเอาไว้ทั้งสิบคน
ออกหน้าห้า ช่วยอยู่ข้างหลังอีกห้า
แต่คนที่ไม่อยากเห็นการเลือกตั้งก็ย่อมจะต้องเดินตามแนวทางของตัวเองต่อไป ซึ่งเห็นได้ไม่ยาก
ฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลก็แทบจะไม่มีตัวตนแล้วเพราะเป็นรักษาการ
ฝ่ายนิติบัญญัติเหลืออยู่คนเดียวในทางสัญลักษณ์ คือคุณสุชน ชาลีเครือ ประธานวุฒิสภา เกิดคดีอะไรขึ้นสักหนึ่งคดีก็หายสาบสูญไปได้เลย
เพื่อจะเหลือฝ่ายตุลาการแต่เพียงฝ่ายเดียว
ถึงประธานศาลฎีกาท่านจะต่อสู้เพื่อผดุงรักษาไว้ซึ่งหลักนิติธรรมอย่างไรก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าจากสามขั้วประชาธิปไตยมาเหลือหนึ่งนั้น คงจะเรียกได้ยากว่าเป็นระบอบการปกครองอย่างที่รัฐธรรมนูญประสงค์จะให้เป็น
ก็ต้องพลิกไปมาตรา ๓ และ/หรือ มาตรา ๗ เพื่อให้ลูกฆ่าแม่เสียเลย
มาตุฆาตเพื่อชาติ ผมเพิ่งรู้ตอนอายุขนาดนี้เองครับว่าเขาทำกันได้.
--------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น