ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง บ.ก.ลายจุด
โดย กาหลิบ

สัจธรรมข้อหนึ่งของการต่อสู้ทางการเมืองของที่ใดก็ตาม คือจะเกิดผู้นำการเมืองธรรมชาติขึ้นมารองรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองของมวลมหาประชาชนอย่างไม่ขาดสาย

ไม่มีใครตั้งตัวเป็นผู้นำอย่างยั่งยืนได้หากมวลชนไม่ร่วมด้วย และถ้าผู้นำที่มีอยู่ไม่ใช่ตัวจริงในสายตาของประชาชน ประชาชนท่านก็จะมองหาผู้นำที่ “ใช่” มาขับเคลื่อนขบวนนั้นแทนเสมอไป

คนที่รู้จักและติดตามบทบาทของ คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ ไม่ว่าจะในนามจริง หรือ “บ.ก.ลายจุด” หรือ “หนูหริ่ง” จะพบว่าเขาคนนี้มีความแตกต่างไปจากคนที่เสนอตัวเป็นผู้นำการเมืองในอดีตที่ผ่านมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะแนวทางแบบ “นำแต่ไม่นำ” จนกลายเป็นแนวคิดเรื่อง “แกนนอน” ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมทางการเมืองอย่างไทย และความไม่สนใจที่จะมีบทบาทการเมืองอย่างคนที่เขากำลังคอยเลือกตั้งอยู่

แต่กิจกรรมทั้งมวลที่เขานำแนวทางมาตลอดจนบัดนี้ รวมทั้งงานทอล์คโชว์ “วอน-นอน-คุก” ที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าชื่นใจ กลับสะท้อนว่าเขามีความคิดทางการเมืองอันก้าวหน้าและหวังผลเปลี่ยนแปลงมากกว่าหลายคนที่ประกาศตัวเองว่าเป็นนักการเมือง

กิจกรรมของ “บ.ก.ลายจุด” มักเป็นเรื่องที่ดูเบาบางในลีลาและการแสดงออก แต่สาระเนื้อในมีความเข้มข้นรุนแรงและห้าวหาญยิ่ง

พูดได้เลยว่า หากเอาเจตนาขึ้นเป็นมาสิ่งพิจารณาแล้ว กิจกรรมเหล่านี้คือการปฏิวัติในขั้นต้นของประชาชนนั่นเอง

นั่นคือการปฏิวัติในความคิด ความเชื่อ จารีตทางสังคม และประเพณีทางการเมืองของไทย

ความโกรธแค้นที่ “เขา” ฆ่าประชาชนอย่างป่าเถื่อนอาจจะปรากฏออกมาได้หลายรูปแบบ แต่ “บ.ก.ลายจุด” เลือกที่จะรวมมวลชนเงียบๆ และพูดเบาๆ เป็นภาษาสากลว่า “ที่นี่มีคนตาย”
ดังกัมปนาทเสียยิ่งกว่าปืนต่อสู้อากาศยาน เพราะได้ยินไปทั่วโลก

แถมเป็นการได้ยินด้วยหัวใจ ไม่ใช่หู จึงลืมไม่ลง

ปั่นจักรยานทางไกล ผูกผ้าดำ พับนกสันติภาพ ชวนมวลชนลงทะเล จัดกิจกรรมสวนทางเถื่อนของสังคมสิ้นคิด แม้จะถูกห้ามไม่ให้จัด ก็ดังกึกก้องไปไกล เป็นตัวอย่างของกิจกรรมเล็กๆ ที่สะท้อนความคิดและหัวใจที่ใหญ่โต

ไม่ใช่ของ “บ.ก.ลายจุด” คนเดียว แต่ของมวลชนที่เข้าร่วมด้วยตัวและหัวใจทั้งหมด

เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๓ อันเป็นวันครบรอบสี่ปีของการยึดอำนาจจากประชาชน ได้ข่าวว่าผู้นำในวันนั้นคือ “บ.ก.ลายจุด” ยังตกใจที่มวลชนส่วนใหญ่แสดงปฏิกิริยาต่อต้านมือที่มองไม่เห็นอย่างตรงไปตรงมาและไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมถึงขนาดนั้นจนถึงกับปรารภเบาๆ ว่าแทบจะขอกลับบ้านก่อนด้วยซ้ำ

ประเด็นคือหายตกใจแล้ว “บ.ก.ลายจุด” ก็ไม่หนี แถมเคลื่อนขบวนประชาธิปไตยด้วยกิจกรรมนานาชนิดที่คนตกใจหรือตื่นกลัวไม่มีทางทำได้หรือไม่ยอมทำ

การวางตัวเป็นส่วนหนึ่งของมวลชน ไม่ทำตนเหนือกว่าอย่างศักดินา รวมถึงการพัฒนาตนเองร่วมไปด้วยกับมวลชน เพียงแต่บวกด้วยความกล้าหาญในการนำ ท่ามกลางอันตรายทุกรูปแบบ คือตัวอย่างอันโดดเด่นของคนอย่าง “บ.ก.ลายจุด”

พูดอย่างนี้เพราะรู้มาว่า เป้าหมายปลายทางของเขาในสมัยก่อนไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้ แต่ผลจากการคลุกคลีกับมวลชน และสถานการณ์ที่ยกระดับขึ้นตลอดเวลา ทำให้เขาลอยขึ้นมาพร้อมกับมวลชนนั้นเอง จนมาวันนี้เขากับมวลชนเคียงบ่าเคียงไหล่กันได้ในทางความคิดและทัศนะ

การจัดกิจกรรมต่างๆ ก็เหมือนกัน หลังงานทอล์คโชว์แล้วเขาก็ประกาศตัวเลขรายได้เพื่อให้ทุกคนรู้และบอกต่อไปว่าจะนำเงินนั้นไปทำประโยชน์อย่างไรต่อไป

ความโปร่งใสอย่างนี้น่ามองและน่าจะเป็นบทเรียนกับนักสู้ประเภททำมาหารับประทานไปด้วยพร้อมกัน

มวลชนเขาอาจบูชาความห้าวหาญของคุณ แต่ลึกๆ เขาหวังให้คุณซื่อสัตย์ต่อเขาในทุกๆ ทางด้วย ไม่อย่างนั้นคุณจะนำบ้านเมืองต่อไปได้อย่างไร

“ลายจุด” ของ บ.ก. คนนี้จึงไม่ใช่รอยด่างพร้อยในเส้นทางทางการเมือง

แต่คือ “ดาว” ที่มวลชนร่วมประดับให้กับเขามากดวงขึ้นทุกวัน.

-------------------------------------------------------------------------
สนับสนุน "กาหลิบ" และทีมงาน สมัคร SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00 น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com /บล็อก : wwwthaipeoplenews.blogspot.com

1 ความคิดเห็น:

  1. เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณกาหลิบ การเป็นผู้นำธรรมชาติ การกล้าที่จะนำความคิดในการเปลียนแปลงแนวจารีตที่ขัดต่อการพัฒนาประเทศเป็นเรํ่องใหญ่://น้องธี

    ตอบลบ