ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

TPNews - เชิญสมัครเป็นสมาชิก

***"TPNews" ขอเชิญผู้มีหัวใจรักประชาธิปไตยทุกท่าน สมัครเป็นสมาชิกข่าวสั้นผ่านมือถือ (SMS) เพื่อนำรายได้ช่วยสนับสนุนการต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย******TPNews (Thai People News) : ข่าวสารสำหรับผู้รักประชาธิปไตย เที่ยงตรง แม่นยำ ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน (เฉพาะ DTAC 30 บาท/เดือน) Call center: 084-456 6794-6 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)****

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อำลาอาลัย... ลุงหมักของเรา โดย วโรทาห์

โดย : วโรทาห์ 
พฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2552 

ในที่สุด เหตุการณ์ที่ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย อย่างเราๆท่านๆ รู้สึกประหวั่นพรั่นใจไม่อยากให้เกิดมาโดยตลอด ก็อุบัติขึ้นจนได้

นั่นคือ อสัญกรรมของนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ บุรุษชาติอาชาไนยจอมทระนงอย่างฯพณฯ อดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุทรเวช หรือลุงหมักของเรา เมื่อเวลา 8.48 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ซึ่งมาผิดที่ผิดเวลา ในขณะที่บ้านเมืองกำลังเข้าสู่กลียุค อันเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนต้องการเสาหลัก ที่ทรงความเที่ยงธรรมอย่างท่านเป็นที่สุด

เหมือนสูญเสียแม่ทัพผู้กล้าไป ในท่ามกลางสมรภูมิรบ การคร่ำครวญพิรี้พิไร รังแต่จะบั่นทอนกำลังใจในการต่อสู้ โดยใช่เหตุ ดังนั้น แม้ว่าจะอาลัยรักเพียงใด คงทำได้แค่เพียงหลั่งน้ำตาอยู่ในอก แล้วเชิดหน้าขึ้น ต่อสู้ต่อไป จนกว่าจะได้ประชาธิปไตยมา

สมดังปณิธานของลุงหมัก ที่ต่อสู้เพื่อสิ่งนี้มาชั่วชีวิต

ธรรมชาตินั้นเที่ยงธรรมเสมอ ไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชัง ไม่เคยดึงดันหรือผ่อนปรน ต่อให้เป็นผู้ที่ประชาชนรักแสนรักเพียงใด เมื่อถึงเวลาต้องจากไป ก็ไม่ได้รับการยกเว้นอยู่ดี

สุดที่จะหาคำใดมากล่าว เพื่อสื่อถึงความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก และหวังพึ่งพิงในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องมาด่วนจากไป ทั้งๆที่ไม่ใช่เวลาอันควร แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่ออะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด

บุคคลากรที่ทรงคุณค่าอย่างท่าน ใช่ว่าจะหาที่ยืนได้ง่ายๆ ในบ้านป่าเมืองเถื่อน อย่างบ้านนี้เมืองนี้ แต่ความดีของท่าน ก็ยืนหยัดท้าทาย ทนทานต่อแรงเสียดสี และกำชัยเหนือความชั่วช้า ที่โหมประดังเข้ามาย่ำยีอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุด

เพราะถือหลักว่า "ความกลัวทำให้เสื่อม" ลุงหมักจึงไม่เคยเสื่อม เพราะคนอย่างท่าน ไม่เคยเกรงกลัวใคร ไม่ว่าหน้าอินทร์หน้าพรหม หรือหน้าไหนทั้งสิ้น แม้กระทั่งบรรดาสื่อชั่ว ที่รวมหัวกันใส่ไฟ ทำลายล้างท่านอย่างป่าเถื่อน ไร้ความปราณี เหมือนฝูงหมาป่าที่รุมขย้ำพญาราชสีห์ อย่างเมามัน

แต่ถึงที่สุดแล้ว ธรรมะก็ชนะอธรรม ความดีก็ชนะความชั่ว กาลเวลาได้ออกใบรับรองความบริสุทธิ์ผุดผ่องให้ลุงหมัก ชนิดที่คงไม่มีนักการเมืองหน้าไหน ที่จะซื่อสัตย์ได้เท่านี้อีกแล้ว

อดีตของท่านจะเป็นอย่างไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่วาระสุดท้าย ท่านได้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ด้วยการยืนหยัดออกนำหน้าประชาชน ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่า อำนาจมืดนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน

ถ้าไม่มีลุงหมักในวันนั้น ยังไม่รู้ว่า เสื้อแดงในวันนี้จะเป็นอย่างไร

ยังไม่ลืมวันวานอันหวานชื่น เมื่อลุงหมักถือธงนำหน้า นำพาพรรคพลังประชาชนออกปราศัยหาเสียง ท่ามกลางมวลมหาประชาชน ที่หลั่งไหลกันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน เพื่อฟังลุงหมักพูดอย่างออกรสออกชาติ พร้อมๆกับแสดงพลังให้เป็นที่ประจักษ์

วันนั้นคือวันที่ประชาชนฮึกเหิมเป็นที่สุด ทั้งรอยยิ้มและน้ำตาแห่งความยินดี แผ่ซ่านไปทั่วทุกผู้ทุกคน กำแพงแห่งอธรรม ถูกพังทลายลง ด่านแล้วด่านเล่า จนในที่สุด พรรคพลังประชาชนก็เข้าเส้นชัยอย่างขาวสะอาด

ยังไม่ลืมวันที่พวกเราต้องหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ เมื่อเห็นลุงหมักใส่ชุดขาว เข้าพิธีรับตำแหน่งนายกฯ อย่างสง่าผ่าเผย

แต่มาวันนี้ ทั้งๆที่ห่างกันไม่นาน เรากลับต้องมาเสียน้ำตาอีกครั้ง กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ของลุงหมักผู้เป็นวีรบุรุษในดวงใจของเราทุกคน

ถ้าเลือกได้ ลุงหมักคงไม่อยากจากพวกเราไป ในสภาพนี้ และถ้าเลือกได้ พวกเราก็คงไม่ยอมให้ใครมาพรากลุงหมักไปเช่นกัน

แต่ในเมื่อมันเป็นชะตาฟ้าลิขิต ถึงยังไงเราก็ต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ แม้จะอาลัยอาวรณ์แค่ไหน ก็คงต้องปล่อยให้ลุงหมักไปพักผ่อนให้สบาย

ส่วนพวกเรา หลังจากเช็ดน้ำตาแล้ว ก็คงต้องรวบรวมพลังออกก้าวเดินต่อไป เพื่อสานต่อเจตนารมย์ของลุงหมัก ให้ลุล่วงให้จงได้

ไว้เสร็จศึกเมื่อใด คงได้ปลุกลุงหมักมาฉลองชัยให้สุดๆ

********************************************



จุดยืน (ที่มิใช่ส้นเท้า) โดย จักรภพ เพ็ญแข

โดย : จักรภพ เพ็ญแข
ที่มา : คอลัมน์ ผมเป็นข้าราษฎร  นสพ.ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 26


เพราะผมกลายเป็นตัวข่าวเสียเองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ก็เลยส่องกล้องเข้าไปดูเบื้องหลังเรื่องราวโดยละเอียดจนเข้าใจความเจ้าเล่ห์ของอำมาตย์ไทยขึ้นเยอะทีเดียวครับ


วันนี้จะขอเล่าให้ท่านฟังสนุกๆ


แผนการนี้เริ่มต้นจากรายงานข่าวภาษาอังกฤษธรรมดาชิ้นหนึ่ง โดยนักข่าวสัญชาติอเมริกันชื่อ นายชอว์น คริสพิน ที่เคยถูกดำเนินคดีสมัย ...ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไปเขียนข่าววิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลระดับสูงของไทยกับผู้นำทางการเมืองในขณะนั้นและเคยลุกขึ้นมาถามคำถามแรงๆ กับคุณทักษิณกลางที่ประชุมผู้สื่อข่าวอย่างคนที่มีอะไรในใจ เวทีที่ตีพิมพ์งานเขียนชิ้นนี้คือเว็ปไซต์ที่มีชื่อว่า Asia Times Online 


เนื้อข่าวเขียนราวกับนิยายว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ได้ให้สัมภาษณ์กับเขาเกี่ยวกับแผนการขนส่งอาวุธจากกัมพูชาเข้ามาปฏิบัติการในเมืองไทย เพื่อหวังผลเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยใช้กำลังและความรุนแรง คนที่อ่านย่อมนึกคล้อยตามใน  ประเด็นเป็นอย่างน้อย นั่นคือ )ผมได้พูดจริงเกี่ยวกับการขนส่งอาวุธ ฝ่ายเรามีความเกี่ยวข้องทางทหารกับประเทศเพื่อนบ้านคือกัมพูชา


ตอนแรกผมรู้สึกขำ เพราะแต่งกันเป็นตุเป็นตะ แต่ต่อมาปรากฏว่ามีคนส่วนหนึ่งเชื่อขึ้นมาเพราะสื่อไทยส่วนที่ไม่หวังดีนักเอาเรื่องนี้มาตีกระหน่ำเพิ่มเติมจนเป็นข่าว จนแม้กระทั่งผู้ใหญ่หลายคนในฝั่งประชาธิปไตยก็ทำท่าจะคล้อยตามเชื่อเขาขึ้นมาด้วย ผมจึงตัดสินใจแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ .๒๕๕๒ เวลา ๑๔.๓๐ โดยผ่านอินเตอร์เน็ตไป สื่อมวลชนมากันมากในวันนั้น ผมได้แจกเอกสารสั้นๆ ชิ้นหนึ่งประกอบการแถลงข่าวด้วย ขอนำมาพิมพ์ไว้เป็นหลักฐานตรงนี้อีกทีครับ:


    เอกสารประกอบการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน


     โดยนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำขบวนการประชาธิปไตย


     ณ อิมพีเรียลเวิร์ลด์ ลาดพร้าว  วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๒   เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ .


ตามที่เกิดข่าวว่าผมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างประเทศเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางทหารที่เกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านและอาวุธยุทโธปกรณ์ จนทำให้มวลชนเกิดความสับสนและอาจเสียหายต่อแนวทางของฝ่ายประชาธิปไตยได้ ผมขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว และขอยืนยันว่า ผมไม่ได้ให้สัมภาษณ์ไปเช่นนั้นเลย 


ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่เป็นข่าวคือ นายชอว์น คริสพิน (Shawn Crispin) ของ Asia Times Online ได้นัดเข้ามาสัมภาษณ์ผมเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ..๒๕๕๒ ผ่านผู้ประสานงานสื่อต่างประเทศของผม และได้ถ่ายภาพการสัมภาษณ์ครั้งนี้ไว้เป็นหลักฐานด้วย เราได้สนทนากันกว้างๆ ในประเด็นอนาคตของการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยและวิสัยทัศน์ของผมต่อการเมืองไทยในอนาคตหลังจากนั้นไม่นานนายชอว์นฯ ก็เขียนรายงานจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเผยแพร่โดยทั่วไป และไม่ปรากฏว่ามีประเด็นใดที่เกี่ยวข้องกับการสะสมหรือขนย้ายอาวุธเลย ผมกับนายชอว์นคุยกันครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีการติดต่อใดๆ กันอีกเลยจนกระทั่งบัดนี้ เมื่อจู่ๆ มีประเด็นนี้โผล่ขึ้นมาในรายงานของเขาในช่วงนี้ และสื่อไทยบางส่วนก็คว้าเอาไปเล่นข่าวกันเสมือนเป็นเรื่องจริง โดยไม่เคยตรวจสอบกับผมเลยนั้น ทำให้เกิดคำถามว่าคนเหล่านี้มีแผนอะไรกัน ผมขอตั้งประเด็นไว้ว่านี่เป็นเจตนาป้ายสีต่อตัวผมโดยหวังให้เกิดผลบางอย่างในทางการเมือง ผมขอย้ำว่าการเตรียมการใดๆในการใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นจากสถานที่ใดก็ตาม ไม่ใช่แนวทางของผมและผู้สนับสนุนตัวผมอย่างเด็ดขาด การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเมืองไทยจะต้องเกิดจากพลังขับดันภายในประเทศและเกิดโดยสงบสันติ เมื่อปวงชนชาวไทยมีความพร้อมแล้วเท่านั้น


ผมขอเรียกร้องฝ่ายที่สนับสนุนประชาธิปไตยด้วยว่า โปรดฟังหูไว้หู ไตร่ตรองโดยแยบคายก่อนจะเชื่อข่าวสารใดๆ และอย่ากระทำการใดๆ ที่เป็นการเหยียบย่ำคนในฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเพื่อให้ทางศัตรู การวิพากษ์วิจารณ์กันและกันกระทำได้เสมอเพราะเราเป็นนักประชาธิปไตย แต่การเลยเถิดไปถึงขั้นใช้วิชามาร เช่น การป้ายสีตีตรา การทำร้ายผู้สนับสนุนของอีกกลุ่มหนึ่งเพราะลุ่มหลงในลัทธิพรรคพวกอย่างเกินเลย เป็นต้น พึงละเว้นเสีย


ขอขอบพระคุณสื่อมวลชนที่รักยิ่งทุกๆ ท่านครับ


จักรภพ เพ็ญแข


ครับ ก็แถลงกันตรงๆ ซื่อๆ อย่างนั้นแหละ ผมมาหวนคิดว่าเล่ห์กลของอำมาตย์นี่มันมากมายเสียจริงๆ งานนี้ผมเคยคุยกับผู้สื่อข่าวในกรอบวิชาการ ซึ่งแปลว่าไม่ใช่ข่าวและข้อเท็จจริง แถมยังคุยกันมานานเกินครึ่งปีแล้ว ก่อนจะเกิดเหตุการณ์สงกรานต์เลือดและก่อนที่ผมจะเดินทางออกนอกประเทศ พอมีข่าวว่า ...ทักษิณ ชินวัตร มาเยือนกัมพูชาเท่านั้นเอง ก็เกิดการ “เต้า” ข่าวขึ้นขนานใหญ่ จับแพะชนแกะให้วุ่นวายไปหมด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีเสียงแอะออกมาเลยแม้แต่คำเดียว


ไม่ต้องแปลให้มากความก็รู้ความครับ นี่คือแผนสร้างภาพของอำมาตย์ไทยที่ใส่ไคล้ว่า การเยือนกัมพูชาของ ...ทักษิณฯ ครั้งนี้ไม่ใช่เกียรติยศของชาติและประชาชนชาวไทย แต่เป็นแผนลึกลับซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังจากกัมพูชาเข้ามาปฏิบัติการในเมืองไทย แต่ลำพัง...ทักษิณฯ คนเดียวอาจจะดูน้อยไป ไม่เป็นทีม เลยยืมชื่อของผมพ่วงเข้าไปด้วย โดยไปขุดเอาเรื่องเก่าๆ ในเหตุการณ์อื่นมาปัดฝุ่น แถมด้วยชื่อของผู้ใหญ่ฝ่ายประชาธิปไตยที่นอนหลับไม่รู้นอนคู้ไม่เห็นอย่าง ..พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และอดีตประธานรัฐสภาอย่างคุณยงยุทธ ติยะไพรัช


พูดตรงๆ แล้วผมขำเรื่องแบบนี้ โดยเฉพาะบางเวทีสื่ออย่าง “มติชนออนไลน์” ที่พาดหัวข่าวเสียน่าหวาดเสียวในทำนองว่าจักรภพจะขนอาวุธมาที่ร้านเรดช็อปในวันที่แถลงข่าว ก็ยิ่งชวนหัวร่องอหาย แต่เมื่อมวลชนฝ่ายเราเองเกิดสับสนไปด้วย และผู้ใหญ่ที่ควรเข้าใจในวิชามารของฝ่ายตรงข้ามเกิดคล้อยตาม ก็เห็นความจำเป็นที่ต้องอธิบายความกันบ้าง แต่ก็อธิบายไปหัวเราะไปครับ


ประกาศไว้เสียตรงนี้อีกครั้งว่า คนอย่างผมตั้งอยู่บนหลักการดังต่อไปนี้เท่านั้น และจะไม่เดินออกจากหลักการนั้น:


การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมืองไทย ต้องเกิดจากพลังขับดันภายในประเทศ


สู้ด้วยกำลังและการยืดหยัดของมหาประชาชน ไม่ใช่กำลังอาวุธยุทโธปกรณ์


ถึงจะแสวงหาความร่วมมือจากนานาชาติ แต่ยึดผลประโยชน์ของชาติและประชาชนไทยเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนอื่น


เชื่อมั่นศรัทธาในกำลังกาย ใจ และปัญญาของปวงชนชาวไทย


มุ่งสร้างประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ฝ่ายอำมาตย์ออกแบบและกำหนดให้


นอกเหนือจากนี้ ไม่ใช่จักรภพ เพ็ญแขครับ.


****************************************************


***"TPNews" ขอเชิญผู้มีหัวใจรักประชาธิปไตยทุกท่าน สมัครเป็นสมาชิกข่าวสั้นผ่านมือถือ (SMS) เพื่อนำรายได้ช่วยสนับสนุนการต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย***

***TPNews (Thai People News) : ข่าวสารสำหรับผู้รักประชาธิปไตย เที่ยงตรง แม่นยำ ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน (เฉพาะ DTAC 30 บาท/เดือน) Call center: 084-456 6794-6 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)****
 


         ***********************************************************************



วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กลอนไว้อาลัย ฯพณฯ นายสมัคร สุนทรเวช โดย จักรภพ เพ็ญแข

เรื่อง : สมัคร  สุนทรเวช 

โดย : จักรภพ เพ็ญแข

ที่มา : คอลัมน์ ร้อยรักอักษราเป็นอาวุธ นสพ.ไทยเรดนิวส์ ฉบับที่ 27 (. 28 ..-พฤ. 3 .. 52)


ณ แผ่นดินถิ่นนี้มีผู้ใหญ่

ผู้เกรียงไกรใจถึงประหนึ่งสิงห์

ตอบสังคมสมศักดิ์รักความจริง

ไม่แอบอิงมายาเป็นอาภรณ์


มากศัตรูมากมิตรชีวิตชัด

รักษาชีพด้วยสัตย์เป็นอนุสรณ์

ผ่านถนนจนคุ้มทั้งลุ่มดอน

ครบวงจรอย่างผู้ใหญ่หัวใจจริง


“สมัคร  สุนทรเวช” ท่านจากลับ

ย่อมมิใช่มืดดับทุกสรรพสิ่ง

ทุกร่องรอยตัวตนของคนจริง

ทุกครั้งนิ่งเงียบสงบพบปัญญา


ผู้แผ้วถางทางเองไม่เกรงขาม

ผู้ก้าวข้ามอุปสรรคที่ขวางหน้า

ผู้สร้างตัวไม่กลัวใครในนครา

ผู้จับมือมวลประชาร่วมท้าทาย


และเป็นผู้ผิดหวังครั้งใหญ่ยิ่ง

ผู้ที่ท่านยึดว่าจริงกลับห่างหาย

ผู้ใหญ่กลับสลับคู่เป็นผู้ร้าย

หัวใจท่านจึงสลายเพราะใจจริง


เสมือนสวมพระเครื่องอันเรืองเวทย์

ประณตเกศมอบหัวใจให้ทุกสิ่ง

แต่องค์พระกลับล้วงเข้าช่วงชิง

จนได้รู้ความจริงอันเจ็บใจ


สิ่งที่สูงกลับต่ำนั้นตำเนตร

ใจ “สมัคร สุนทรเวช” จึงหม่นไหม้

นบนอบมาด้วยประชาธิปไตย

ก็สั่งให้กองทัพมากลับทาง

ยุให้คนผิดกฎหมายท้าทายรัฐ

ยุประชาธิปัตย์เข้าด้านข้าง

ยุให้ศาลตั้งตนเป็นคนพาล

และยุผ่านสื่อมวลชนคนบริกร


นี่ล่ะหรือเสาหลักอันศักดิ์สิทธิ์ 

ภาพนิมิตรกลับกลอกเป็นหลอกหลอน

นึกว่าว่านสมุนไพรแท้ใบบอน

นึกว่าจริงกลับละครย้อนดูตัว


แต่เกียรติยศแห่ง “สมัคร” จำหลักมั่น

ประชาชนทั้งนั้นท่านรู้ทั่ว

ถึงร่างลับดับขันธ์อย่าหวั่นกลัว

ความจริงจักปรากฎทั่วอย่ากลัวปลอม


พักเถิดครับ...ท่านสมัคร...โปรดพักผ่อน

สิ่งที่ท่านสั่งสอนทั้งตรงอ้อม

จะนำมาปรับใช้จะไม่ยอม

ประชาธิปไตยแมวย้อมจะไม่เอา


ประชาชนได้เป็นใหญ่ใน “สมัคร”

เขาจึงรักแน่วแน่จนแก่เฒ่า

เผด็จการอำมาตย์ไทยเขาไม่เอา

ท่านคือเบ้าหลอมร่างสร้างผู้นำ


กราบวิญญาณ “ท่านสมัคร” ผู้รักชาติ

ผู้สร้างมาตรฐานไว้ไม่ตกต่ำ

หนุนประชาธิปไตยธงชัยนำ

สวนระบอบใจดำผู้อำพราง


ชาว “ประชากรไทย” รวมใจหวัง

มวล “พลังประชาชน” คนสืบสร้าง

จะสานต่อ “ท่านสมัคร” ผู้สร้างทาง

สละร่างทิ้งหัวใจให้บ้านเมือง.
























****************************************************************************

***"TPNews" ขอเชิญผู้มีหัวใจรักประชาธิปไตยทุกท่าน สมัครเป็นสมาชิกข่าวสั้นผ่านมือถือ (SMS) เพื่อนำรายได้ช่วยสนับสนุนการต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย***

***TPNews (Thai People News) : ข่าวสารสำหรับผู้รักประชาธิปไตย เที่ยงตรง แม่นยำ ส่งตรงถึงมือถือทุกวัน สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน พิมพ์ PN ส่งมาที่เบอร์ 4552146 ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน (เฉพาะ DTAC 30 บาท/เดือน) Call center: 084-456 6794-6 (จ.- ศ. 9.30-17.30 น.)****


วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คำไว้อาลัย ฯพณฯ นายสมัคร สุนทรเวช


โดย : จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
จันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2552

คำไว้อาลัย ฯพณฯ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๕ ของประเทศไทยของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒

ฯพณฯ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๕ ของประเทศไทย ได้จากเราไปแล้วในวันนี้ (วันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒) ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีความรักและเคารพท่านอย่างสูง และในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาในรัฐบาลที่ท่านเป็นหัวหน้า ผมขอกราบท่านไปจากแดนไกลด้วยหัวใจที่ศรัทธาและเชื่อมั่น และเช่นเดียวกับ ฯพณฯ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ส่งข้อความผ่าน ทวิตเตอร์มาก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ไปร่วมงานสวดพระอภิธรรมของท่าน แต่จะพยายามไปร่วมงานปลงศพในวันใดก็ตามที่ครอบครัวของท่านกำหนดขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์ทางการเมืองในอนาคต

ฯพณฯ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจมั่นคงและมีภาวะผู้นำทางการเมืองอันสูงยิ่ง ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมได้เห็นการตัดสินใจอันสุขุมรอบคอบและได้รับความรู้ตลอดจนความกรุณาจากท่านในหลายกรณี โดยเฉพาะเมื่อผมถูกกล่าวร้ายว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จนภายหลังต้องลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองนั้น ฯพณฯ นายสมัครฯ มีความหนักแน่น และโอบอุ้มผมจนนาทีสุดท้าย ท่านไม่ยอมให้ศัตรูของฝ่ายประชาธิปไตยเข้ามาทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจนท่านเองก็เสี่ยงภัยทางการเมือง นี่คือสิ่งที่ผมจะจดจำไปชั่วชีวิต

ขอให้ดวงวิญญาณอันมั่นคงของท่านไปสู่สัมปรายภพเถิด.

ด้วยความเคารพอย่างสูง

นายจักรภพ เพ็ญแข

******************************************************************
นายสมัคร สุนทรเวช

วุฒิการศึกษาและเกียรติประวัติ

สถานที่เกิด
- กรุงเทพมหานคร
– บ้านหน้าวังบางขุนพรหม
- ถนนสามเสน

อายุ - 72 ปี (พ.ศ. 2550)

บิดา-มารดา
- เสวกเอกพระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) คุณหญิงบำรุงราชบริพาร (อำพัน – สกุลเดิม จิตรกร)
ฝ่ายบิดา
- เป็นหลานลุง มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี(สุ่น สุนทรเวช) ฝ่ายมารดา
- เป็นหลานตา - มหาเสวกตรีพระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร จิตรกร)

พี่น้องร่วมบิดา – มารดา
- พ.อ.แพทย์หญิงมยุรี (สุนทรเวช) พลางกูร อดีตรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ
- นางเยาวมาลย์ (สุนทรเวช) - ราชวังเมือง ประกอบธุรกิจส่วนตัว
- พล.อ.อ.สมมต สุนทรเวช
- รองเจ้ากรมช่างอากาศที่ปรึกษากองทัพอากาศ(ถึงแก่กรรม)
- นายสมัคร สุนทรเวช
- นายมโนมัย สุนทรเวช - อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจ
- นายสุมิตร สุนทรเวช - สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร

ประวัติการศึกษา
ก่อนประถม
- โรงเรียนสตรีบางขุนพรหมประถม
- โรงเรียนเทเวศร์ศึกษามัธยม
- โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียลอาชีวะ
- โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์อุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศึกษาเพิ่มเติม
- คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย- BRYANT &STRATTON INSTITUTE, CHICAGO,
U.S.A.

ประกาศนียบัตร
- ประกาศนียบัตร A.C.C. (โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์)

ปริญญา
- นิติศาสตร์บัณฑิต- ประกาศนียบัตรวิชาชีพมัคคุเทศก์ (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
- DIP. IN ACCOUNTING AND BUSINESS ADMINISTRATION.

อาชีพในอดีต-เคยเป็น
- เจ้าหน้าที่สอนเครื่องลงบัญชีไฟฟ้า NATIONAL CASH REGISTERED CO.,LTD
- เสมียนแผนกรถยนต์และภายหลังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ BARROW BROWN
(1948) CO. , LTD. (พ.ศ.2497-2502)
- ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกเครื่องอะไหล่ LOXLEY BANGKOK CO. ,LTD. (พ.ศ.2502-2505)
- FREE LANCE GUIDE, WORLD TRAVEL SERVICE CO. , LTD.(พ.ศ.2504-2506)
- ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัท เอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด (พ.ศ.2507-2509)
- DIETARY AID-FOX REVER REHABLLITION HOSPITAL, CHICAGO, U.S.A. (พ.ศ. 2510-
2511)
- ผู้จัดการแผนกเครื่องอะไหล่ บริษัท เอื้อวิทยาพาณิชย์ จำกัด ( พ.ศ. 2512-2513)
- ผู้บริหารฝ่ายขาย JOHN DEERE THAILAND CO.,LTD. (พ.ศ. 2513-2514)
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย (พ.ศ. 2514-2516)

งานด้านการเมือง
- สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (พ.ศ. 2511-2519)
- กรรมการผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มหนุ่มพรรคประชาธิปัตย์
- สมาชิกสภาเทศบาลนครกรุงเทพ (ได้รับเลือกตั้งเมื่อ 15 ส.ค. 2519)
- สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 10 ธ.ค. 2516)
- สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ได้รับแต่งตั้งเมื่อ 23 ธ.ค. 2516)
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (ได้รับเลือกตั้งเมื่อ 25 ม.ค. 2518, 4 เม.ย. 2519 ,
22 เม.ย.2522 , 18 เม.ย. 2526 , 27 ก.ค. 2529 , 24 ก.ค. 2531 , 22 มี.ค. 2535 , 13 ก.ย. 2535 , 2 ก.ค.
2538 และ 17 พ.ย. 2539)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (พ.ศ. 2518)
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พ.ศ. 2519-2520)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พ.ศ. 2526-2529)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (พ.ศ. 2533-2534)
- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2535)- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2538-2539)
- รองนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2539-2540)
- ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (พ.ศ. 2543-2547)
- สมาชิกวุฒิสภา กทม. (พ.ศ. 2549)
- นายกรัฐมนตรี (29 ม.ค.2551 - 9 ก.ย.2551)

เคยเป็น
- กรรมาธิการตรวจรายงานการประชุม (พ.ศ. 2516-2518)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน (พ.ศ. 2523-2526)
- ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง (พ.ศ. 2529-2531)
- ประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ (พ.ศ. 2531-2533)
- ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม (พ.ศ. 2535-2538)
- กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2518, 2519, 2520,
2521, 2523, 2524, 2526, 2527 และ 2528

การปฏิบัติหน้าที่
- เป็นรัฐมนตรีขึ้นกล่าวปราศรัยในที่ประชุม I.L.O. ณ ที่ประชุมดูงานต่างประเทศ องค์การสหประชาชาติ
กรุงเจนีวา ในการประชุมเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2519 และ พ.ศ. 2520
- ดูงานทั่วไปในอิสลาเอล พ.ศ. 2517
- ดูงานด้านการเกษตรและอาวุธในอิสลาเอล พ.ศ. 2520
- ดูงานด้านการตำรวจและโครงการผันน้ำ SNOWY MOUNTAIN ในประเทศออสเตรเลีย
- ผู้แทนประทศไทยร่วมประชุม รมต.แรงงานอาเซี่ยนที่ นครมนิลา
- ฟิลิปปินส์
- ดูงานบริษัท การบินของประเทศญี่ปุ่น
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุม รมต.สังคม ณ กรุงจาการ์ต้า อินโดนีเซีย
- ดูงานการเคหะแห่งชาติ
- สิงค์โปร์ยซางคัฐบาลไทยิสลาแสลาแย. 2516
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุม และดูงานประเทศแคนาดา
- ผู้แทนรัฐบาลไทยร่วมประชุมสหภาพไปรษณีย์สากล ณ นครฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมันนี
- ร่วมประชุมกับ รมต.พาณิชย์ฝรั่งเศส และดูงานบริษัท แอร์บัสอินดัสตรี้ ประเทศฝรั่งเศส
- ร่วมประชุมกับ รมต.คมนาคมที่กรุงสอนดอน ประเทศอังกฤษ
- ร่วมประชุม และดูงานด้านโทรคมนาคม กับหลายหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา และทำหน้าที่เป็นประธานที่
ประชุมในการประชุมด้านการคมนาคม และขนส่ง ของแอสแคปในประเทศไทย
- ดูงานด้านการเศรษฐกิจใน 5 รัฐ ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ดูงานด้านการคมนาคม และโทรคมนาคมในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เยอรมันนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ
- เป็นผู้แทนประเทศไทย (แทนนายกรัฐมนตรี) ปราศรัย ณ ที่ ประชุมใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ในการ
ประชุม EARTH SUMMIT เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2540)
- ประชุมและดูงานในประเทศเมื่อเป็นผู้ว่าฯ กทม. 4 ปี

งานเขียนหนังสือ
- เขียนบทความและความคิดเห็นทางการบ้านการเมืองแบบไม่ประจำ ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ, สยามรัฐ
สัปดาห์วิจารณ์ และชาวกรุง ตั้งแต่ พ.ศ. 2500 ถึง พ.ศ. 2516
- เขียนบทความการเมืองในหนังสือพิมพ์ประชาไทย (พ.ศ. 2517-2520)
- เขียนบทความในคอลัมน์ประจำ (มุมน้ำเงิน) หนังสือพิมพ์เดลิมิเล่อร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2521 จนถึง พ.ศ. 2537
- หนังสือเล่มชื่อ “สันดานหนังสือพิมพ์” พ.ศ.2521 (จำหน่าย 120,000 เล่ม ในเวลา 45วัน)
- หนังสือเล่มชื่อ “การเมืองเรื่องตัณหา” พ.ศ. 2521 (จำหน่าย 85,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “จากสนามไชยถึงสนามหลวง” (จำหน่าย 50,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “เรื่องไม่อยากเล่า” (จำหน่าย 45,000 เล่ม)
- หนังสือเล่มชื่อ “การเมืองเรื่องตัณหา เล่มที่ 2” (จำหน่าย 45,000 เล่ม)
- สารคดีท่องเที่ยวประเทศในยุโรป “ซำเหมาทัวร์”
- สารคดีเดินทางในประเทศจีน “เมืองจีนที่เพิ่งได้เห็น”
- สารคดีเดินทางปาฐกถาในสหรัฐ “12 วัน 15 เมือง”
- สารคดีเล่าเรื่องการเดินทางในยุโรปตะวันออก 15 วัน “วนขวาเยือนอดีตสหาย ตอนใบไม้กำลังจะ
ร่วง” (ทั้ง 4 เรื่องลงติดต่อใน น.ส.พ.รายสัปดาห์)
- ชิมไปบ่นไป (พิมพ์ 9 ครั้ง) , ใครๆ ก็ชอบไทยฟู้ด (พิมพ์ 3 ครั้ง)
- เรื่องของคนรักแมว, จดหมายเหตุกรุงเทพฯ

งานวิทยุ
- สถานีรัฐสภา FM.87.5 ทุกวันศุกร์ เวลา 18.30 น. - 19.00 น.
- สถานี ทอ.01.AM.945 เวลา 23.00-24.00 น. ทุกวันพุธ
- สถานี 94 FM., 105.FM.
- TV 5 เช้านี้ที่เมืองไทย
- TV 9 คิดตามวัน

งานอดิเรก
- ถ่ายรูป, เดินทางต่างจังหวัดและต่างประเทศ, ปาฐกถา
- แสดงความคิดเห็นทางการบ้านและการเมืองตามคำเชิญ

ครอบครัว
- สมรสกับคุณหญิงสุรัตน์ (นาคน้อย) เมื่อพ.ศ. 2511มีบุตรีฝาแฝด 2 คน นางกาญจนากร (สุนทรเวช)
ไชยสาส์น จบมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ABAC / MBA. มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA. CONN.
- ปัจจุบันทำงานอยู่ฝ่ายการเงินของ ป.ต.ท. (สผ.)
- กานดาภา สุนทรเวช จบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / MBA.มหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ด USA.
CONN. ปัจจุบันทำงานกระทรวงการต่างประเทศ

ปัจจุบัน
- เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร (เขต1) ดุสิต
- เป็นหัวหน้าพรรคประชากรไทย (2522-2543)
- เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (2550)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- ตริตาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2517
- ตริตาภรณ์ช้างเผือก พ.ศ.2519
- ทวิติยาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2519
- รัตนาภรณ์ (ขั้นที่2) พ.ศ.2520
- ประถมาภรณ์มงกุฎไทย พ.ศ.2522
- ประถมภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ. 2524)
- มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (พ.ศ. 2526)
- ทุติยจุลจอมเกล้า (พ.ศ. 2527)
- มหาวชิรมงกุฎ (พ.ศ. 2527)
- ประถมดิเรกคุณาภรณ์ (พ.ศ. 2540)
- ทุติยจุลจอมเกล้าฯ วิเศษ (พ.ศ. 2545)