ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โพลล์พลอยพยัก โดย กาหลิบ


คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง โพลล์พลอยพยัก
โดย กาหลิบ

ขยับจะเขียนเรื่องการหยั่งเสียงประชามติด้วยวิธีถามผ่านกลุ่มตัวอย่างทางสังคมแบบที่เรียกว่าโพลล์ แต่รู้สึกเหมือนจะพรรณนาเรื่องต้นไม้แล้วกลับต้องมาพูดเรื่องของกาฝาก จึงเปลี่ยนใจไปมาอยู่หลายครั้ง

แต่วันนี้โพลล์บางสำนักวิ่งเต้นผลักดันตัวเองจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของฝ่ายตรงข้ามในการทำลายระบอบประชาธิปไตยไปเสียแล้ว บทบาทที่เคยเพียงแอบอิงหรือเล่นบทตัวประกอบ ก็ได้กลายเป็นบทบาทชี้นำหลัก โดยประสานมือชัดเจนกับสื่อมวลชนบางคนและบางคณะ ตัวประกอบเหล่านี้จึงกลายเป็นตัวเอกขึ้นมาอย่างไม่ควรที่ แต่ก็ทำให้มวลชนมองเห็นเครือข่ายเผด็จการที่ใหญ่โตเกินกว่าที่เคยเข้าใจ

โพลล์เหล่านี้รู้ตัวว่ามีหน้าที่ถามคำถามและนำคำตอบมาเผยแพร่

สื่อมวลชนเหล่านี้รู้ตัวว่าหน้าที่ก็คือถามคำถามและนำคำตอบมาเผยแพร่เช่นกัน

แต่สื่อมวลชนที่โด่งดังและมีทรัพยากรสนับสนุนอยู่เบื้องหลังมากกว่าสำนักโพลล์ เขาก็รู้ด้วยว่าโพลล์เป็นงานทำเงินชนิดหนึ่งที่ใช้ “ทฎษฎี” มากล่าวอ้างได้และสามารถทำให้งานนั้นๆ มีลักษณะเป็นวิชาการขึ้นมา ซึ่งก็ย่อมทำให้คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เชื่อถือ

ทั้งฝ่ายการเมืองและสื่อจึงแข่งขันกันสร้างผลประโยชน์ร่วมกับสำนักโพลล์ เพราะรู้ดีว่าราคาในความ “น่าเชื่อถือ” นั้นคุ้มค่ากับการแลกเปลี่ยน

ในระบบบัญชีของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่สำนักโพลล์นั้นๆ อิงอยู่ เขาจัดให้โพลล์เป็นงานสาย “ธุรกิจ” หรือ “การหารายได้เข้าสถาบัน” กันทั้งนั้น ซึ่งก็บอกโดยปริยายแล้วว่าโพลล์ถูกสร้างขึ้นมารับใช้กระบวนทัศน์ใด

ถึงแนวคิดบริสุทธิ์เรื่องโพลล์มีอยู่จริงในโลก และโพลล์ระดับโลกหลายสำนักยังได้รับความเชื่อถืออย่างกว้างขวางอยู่ แต่โพลล์ในประเทศที่ล้าหลังทางการเมืองเพราะอยู่ในระบอบที่เสแสร้งว่าเป็นประชาธิปไตยกลับมิใช่เช่นนั้น คนในวงการโพลล์มักจะรับคำสั่งจากผู้มีอำนาจที่ปรนเปรอตนเองด้วยทรัพย์ศฤงคารต่างๆ และเครือข่ายผลประโยชน์ที่อยู่สูงขึ้นไป

วันนี้ “เขา” สั่งให้ทุกคนหมกมุ่นอยู่กับ “เกมเลือกตั้ง” เราก็ได้เห็นทุกพรรคการเมืองร่วมเล่นบทอย่างแนบเนียนสนุกสนานไปตามกลไกการเลือกตั้ง ช่วยกันปิดปากตัวเองแน่น ไม่ยอมเอ่ยถึงวิกฤติของระบอบการปกครองที่สูงขึ้นไป ทั้งๆ มวลชนตาสว่างต่างพากันเรียกร้อง กองทัพถูกสั่งให้หลบสื่อเพื่อไปชักใยช่วยเหลือพรรคการเมืองฝ่ายของตนอยู่ลับๆ เบื้องหลัง จนเมื่อผลการเลือกตั้งชี้ว่าจะแพ้พ่ายก็คงจะตีเกราะเคาะไม้ให้เอารถถังและอาวุธสงครามต่างๆ ออกมาเตรียมฆ่าคน

ในบรรยากาศนี้เองที่สำนักโพลล์บางแห่งเขาก็มีบทบาทของตัวเองอย่างไม่น้อยหน้า

คำสั่งลงมาจากที่สูง จะมีหน้าที่ไปเสนอผลประโยชน์ที่เหนือกว่าจนเขาจะยอมเปลี่ยนใจได้

สาระของคำสั่งนั้นมี ๓ แนวทางคือ

๑. ทำให้พรรคการเมืองหันมาทิ่มแทงแข่งขันกันเอง อย่าให้มวลชนมีเวลาคิดได้ว่าปัญหาอยู่อื่น

๒. ให้ถามเรื่องที่เป็นส่วนตัว มีอารมณ์มนุษย์ (human drama) เกี่ยวข้องเหมือนละคร เพื่อให้สื่อประเภทที่เสพ “สีสัน” เอาไปขยายผลต่อโดยไม่ต้องจ้างทั้งหมด

๓. ให้ชี้นำในตัวคำถามเพื่อผลทางการเมืองเชิงระบอบ เช่น ถามเรื่องประสบการณ์ทางธุรกิจแต่ไม่ลงรายละเอียด ถามเรื่องความร่ำรวยโดยไม่ต้องเอ่ยถึงที่มา เป็นต้น เพื่อให้สังคมวนเวียน ถกเถียงและหมกมุ่นกับเรื่องเก่าๆ ที่เสียเวลากันมาแล้วกว่าห้าปี

สังเกตไหมว่าเดี๋ยวนี้สื่อมวลชนเอาโพลล์มาเล่นข่าวกันมากมาย โดยเฉพาะโทรทัศน์ให้พื้นที่ข่าวกันยาวนานอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน

เพราะบทที่เขาเขียนนั้น เขาให้โพลล์เล่นก่อนแล้วให้สื่อขยายผลตามหลัง

โสเภณีชั้นหนึ่งกับโสเภณีชั้นสองทำงานเข้าขากันได้ดี ลูกค้าก็ละเมอสุข

ทั้งหมดนี้เพื่อรักษาระบอบเก่าและถ่วงรั้งสุดตัว มิให้เมืองไทยเป็นประชาธิปไตยได้อย่างแท้จริงเท่านั้น.

--------------------------------------------------------------
ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์ 4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย /e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น