ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ความโดดเดี่ยวของไทย โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง ความโดดเดี่ยวของไทย

โดย กาหลิบ

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากคุณสุวิทย์ คุณกิตติในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ แจ้งการถอนตัวของไทยต่อที่ประชุมมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และเดินออก กลไกของระบอบศักดินาอำมาตยาธิปไตยไทยก็ประโคมข่าวกันใหญ่โตว่าไทยได้รับชัยชนะ สื่อกระแสหลักเอาตัวคุณสุวิทย์ฯ ขึ้นบ่าประหนึ่งเป็นวีรชนคนสำคัญ ผู้นำเหล่าทัพโดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบกรับลูกว่าจะเตรียมพร้อมทางทหารไว้รับมือ และพันธมิตรฯ ถือโอกาสยุติการชุมนุมที่มีคนเข้าร่วมเบาบางจนผีแทบ จะหลอกอยู่แล้ว

ละครเรื่อง ชิงคืนปราสาทพระวิหารเล่นมาถึงบทเร้าใจให้ฮึกเหิม ชิงโอกาสพูดก่อนที่ใครเขาจะเถียงทันว่าผู้แทนไทยสุดยอด ไม่ยอมลดราวาศอกให้ฝ่าย ผู้รุกรานแม้แต่นิ้วเดียว คนที่ไม่รู้เรื่องใดๆ เลยอย่างคุณอภิสิทธิ์ฯ ก็ออกมาตามแห่กับเขาโดยหวังเอาคะแนนเสียงเลือกตั้ง

แต่พอฝุ่นหายตลบ สติเริ่มกลับคืนสู่ที่ตั้ง ก็รู้ทันทีว่าประเทศไทยกำลังเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในยูเนสโกต่างหาก

ความจริงที่ปรากฎขึ้นเกือบทันทีคือ ตัวแทนของรัฐบาลไทยชุดนี้หมดความสามารถที่จะขอเลื่อนการพิจารณาเรื่องปราสาทพระวิหาร และที่ประชุมกำลังจะลงมติไปทางฝ่ายกัมพูชา ก็เกิดคำสั่งด่วนไปจากกรุงเทพฯ ในทันทีว่าให้คุณสุวิทย์ฯ ถอนตัวจากสนาม โดยหวังว่าท่าทีนั้นจะทำให้ทุกอย่างชะงักงันไป

หนังสือที่ผู้อำนวยการยูเนสโกที่มีมาถึงรัฐบาลไทยทันทีนั้น นอกจากแสดงความเศร้าใจที่รัฐบาลไทยถอนตัวจากกระบวนการสากลอย่างไม่ควรแล้ว ยังยืนยันว่า การพิจารณาเรื่องปราสาทพระวิหารมีทางออกต่างๆ อีกมากไม่ใช่ทางตันอย่างที่รัฐบาลไทยแสดงออก ซึ่งเป็นคำตำหนิกลายๆ ว่าพฤติกรรมเยี่ยงเด็กน้อยเช่นนี้ไม่มีความจำเป็นเลย

คำถามในงานนี้จึงมีเพียงสองข้อ

เหตุใดจึงมีคำสั่งถอนตัวในนาทีสุดท้าย?

และใครสั่ง?

คำถามแรกนั้นตอบไม่ยาก ความจริงอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศถึงสองคนได้ออกมาแถลงข่าวชัดเจนแล้ว นั่นคือคุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทยและคุณนพดล ปัทมะ ว่าเหตุผลแท้จริงในเรื่องนี้ไม่ใช่การแสดงความเด็ดเดี่ยวในการปกป้องอธิปไตยของไทยอะไรเลย แต่คือความตระหนักว่าประเทศไทยขณะนี้ไร้แนวร่วมในประชาชาติต่างๆ มากพอที่จะเดินหน้าต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไปต่างหาก

พูดแบบบ้านๆ คือ ขาดเพื่อน ไร้พวก

ซึ่งเกิดขึ้นเพราะแนวทางการเมืองศักดินา-ไพร่ในปัจจุบันกำลังจับประเทศไทยทั้งประเทศถอยไปสู่ความเป็นเผด็จการสุดขั้ว ถึงขนาดสงครามกลางเมืองก็เกิดขึ้นได้

กรณีข้ามชาติอย่างปราสาทพระวิหารนั้น ประชาคมระหว่างประเทศเขารู้กันทั่วว่า ระบอบโบราณของไทยเป็นผู้จุด จุดด้วยความแค้นของคนชรา โดยสั่งพันธมิตรฯ ให้ทำหน้าที่เผาหัว แล้วลากกองทัพกับรัฐบาลเข้ามาพัวพันด้วยจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนและมั่วซั่วกันไปหมดทั้งยวง เพราะฐานกฎหมายที่ใช้ในเรื่องนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากคราวที่ไทยแพ้คดีกรรมสิทธิ์เหนือองค์ปราสาทฯ เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ เลย จึงไม่มีฐานใหม่ใดๆ ที่ไทยจะปลุกผีเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกกัน

เมื่อเรื่องไม่มีมูลมาตั้งแต่ต้น ประชาคมระหว่างประเทศเขาก็เลยขาดความสนใจในเรื่องนี้และคงคิดว่าผู้นำระบอบศักดินา-อำมาตย์ไทยคงจะได้สติในเวลาไม่ช้านาน

กำจัดทักษิณและล้างอิทธิพลของฝ่ายประชาชนได้เมื่อไหร่คงเลิกหาเรื่อง พูดง่ายๆ

ปัญหาคือความคิดถึงคุณทักษิณฯ ก็ยังมีอยู่ แถมความมุ่งมั่นของประชาชนกลับทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนจนเห็นเค้าลางของระบอบประชาชนอยู่รำไร เกมกัมพูชาที่กะว่าจะเล่นๆ ก็เลยกลายเป็นเกมจริงขึ้นมาจนเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ และตกกะไดพลอยโจนกันเป็นแถบ

ถึงคราวจะแพ้เข้าจริงๆ เลยต้องรีบถอนตัวเพื่อรักษาหน้าเอาไว้ก่อน

ส่วนว่าใครสั่งนั้นก็ยึดโยงกัน เพราะ หน้าที่เขาต้องการจะรักษาก็คือหน้าของคนที่สั่งนั่นเอง

งานนี้พูดได้เพียงแต่ว่า วัยทองน่าจะทำให้คนบางคนจิตสงบและซาบซึ้งในธรรม แต่กรรมเวรอันแสนหนักคงทำให้เกิดทุรนทุรายจนหาความสงบสุขมิได้นั่นแล.

------------------------------------------------------------------------

ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น