ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ตอบคำถามสื่อนอก โดย กาหลิบ

คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?

เรื่อง ตอบคำถามสื่อนอก

โดย กาหลิบ

ได้อ่านบทสัมภาษณ์หมาดๆ ของตัวแทนสำนักข่าวต่างประเทศที่มีชื่อเสียงระดับโลก กับแกนนำฝ่ายประชาธิปไตยไทยที่กำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศเพราะคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งกำลังกว้างขวางอยู่ในเว็บต่างๆ ขณะนี้ ก็รู้สึกว่าน่าจะบันทึกเป็นภาษาไทยไว้สักหน่อย เพื่อไม่ให้หลุดลอยตามลมไป

สาระส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ช่วยอธิบายถึงวิกฤติการณ์ทางการเมืองของไทยได้ชัดดี

บางส่วนของบทสัมภาษณ์นั้นมีดังนี้:

๑. พลเอกประยุทธ์ (จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก) พยายามจะสื่อสารอะไรในการแถลงข่าวแนะให้ประชาชนเลือก คนดีและเหตุใดเขาจึงเลือกช่วงเวลานี้ออกมาพูด?

คำตอบ: เขาต้องการแผ่อิทธิพลของตัวเขาเองและกองทัพเข้าสู่การเลือกตั้งที่เขากลัวว่าจะคุมไม่อยู่หากพรรคเพื่อไทยชนะ การแนะให้เลือก คนดีเป็นอุบายเก่าแก่ของฝ่ายอำมาตยาธิปไตยไทยเพื่อสื่อสารว่าคนที่มาจากการเลือกตั้งล้วนแล้วแต่เลวทรามและไว้วางใจมิได้ สิ่งที่เขาและคนที่คิดอย่างเขาต้องการจริงๆ คือรัฐบาลพิเศษที่ถูกส่งลงมาปกครองประเทศแทนรัฐบาลที่ประชาชนตั้ง นี่ล่ะคือแนวคิดแบบศักดินา-อำมาตย์โดยแท้ เขาเลือกเวลานี้ออกมาพูดเพราะไม่มีเวลาอื่นอีกแล้ว การเลือกตั้งเคลื่อนใกล้เข้ามา การดำเนินการสกัดกั้นใดๆ ในเวลานี้ รวมถึงการรัฐประหาร ก็ไม่สามารถกระทำโดยไม่เกิดผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อฝ่ายเขา

๒. พลเอกประยุทธ์ฯ สั่งแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และแกนนำเสื้อแดงอื่นๆ จากกิจกรรมเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน (๒๕๕๔) และมีรายงานข่าวว่ากองทัพอยู่เบื้องหลังคดี ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรณีดังกล่าวนี้บอกอะไรบ้างเกี่ยวกับวิธีการของกองทัพ และมีความหมายอย่างไรต่อการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปกฎหมายนี้?

คำตอบ: ข้อหาหมิ่นเบื้องสูง เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและสะดวกของฝ่ายศักดินา-อำมาตย์ไทยมาตั้งแต่อดีต รวมทั้งกองทัพ กรณีนี้จึงไม่ได้ทำให้เราเข้าใจกองทัพมากขึ้น แต่ทำให้เราอ่านใจของข้างบนได้ ทำให้รู้ว่าข้างบนกำลังคิดและรู้สึกอย่างไรกับการใช้กฎหมายนี้และผู้ที่นำมาใช้ มันชวนให้เราคิดวิเคราะห์ว่าการแถลงของประยุทธ์ฯ อย่างมีจังหวะเวลาและเข้ามาเกี่ยวกับการเมืองอย่างมากนั้นน่าจะได้รับการสนับสนุนและสัญญาณอันชัดเจน สำหรับผมแล้วนี่คือเวลาที่ข้างบนควรแสดงจุดยืนของตนให้ชัดเจน การหลบอยู่หลังคำพูดว่า อยู่เหนือการเมืองนั้น ย่อมไม่ได้ผลอีกแล้ว ประชาชนปัจจุบันเข้าใจอะไรต่างๆ ดีกว่าเดิมมากนัก

๓. ในกรณีใดบ้างที่กองทัพจะก่อการรัฐประหารอีก มีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ช่วงเวลานี้ และโอกาสของพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ถูกข้อกฎหมายจนต้องถูกยุบมีมากแค่ไหน?

คำตอบ: การรัฐประหารเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่ายศักดินา-อำมาตย์รู้สึกว่าตนเองควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ หรือเกิดผลกระทบใดๆ ต่อสถาบันกษัตริย์โดยตรง ในด้านกายภาพการก่อรัฐประหารเป็นไปได้เสมอ ปัญหาอยู่ที่ผลกระทบด้านลบที่ติดตามมา พวกเขาจะรักษาอำนาจที่ได้รับจากการรัฐประหารกันอย่างไรในยุคนี้สมัยนี้? เขาจะฟื้นความเชื่อมั่นในประเทศ (ไทย) อย่างไรในยุคแสวงหาประชาธิปไตยและการค้าเสรียิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้? พูดสั้นๆ คือคนในระบอบศักดินาอำมาตย์จะเป็นฝ่ายที่สูญเสียมากหากเกิดรัฐประหารขึ้นจริงๆ โดยส่วนตัวผมคิดว่าพวกเขาจะรัฐประหารก็ต่อเมื่อหมดทางเลือกอื่นๆ แล้ว หากคุณถามว่าอะไรบ้างที่จุดชนวนรัฐประหารได้ ผมก็คงนึกตัวอย่างได้บ้าง ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจอันล้นพ้นของระบอบเก่า ความเคลื่อนไหวที่จะปลดผู้บัญชาการทหารบก การกลับไทยของคุณทักษิณ ชินวัตร การจับอาวุธขึ้นสู้ของ ฝ่ายตรงข้ามและสุดท้ายซึ่งไม่ใช่ว่าสำคัญสุดท้าย นั่นคือเรื่องสุขภาพของกษัตริย์

คำสั่งจากศาลเพื่อยุบพรรคเพื่อไทยมีความเป็นไปได้เสมอ ผมไม่ต้องขยายความใดๆ ในเรื่องนี้เลย เว้นแต่จะยืนยันว่าเราต้องเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยทั้งโครงสร้าง เราเอาพลาสเตอร์มาปิดแผลที่มันถึงขั้นผ่าตัดไม่ได้หรอก

๔. ตกลงกองทัพมีเดิมพันอะไรในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากเกิดการสกัดกั้นประชาธิปไตย (รัฐประหาร, คำสั่งศาล) ขึ้นจริงๆ?

คำตอบ: ผมเชื่อว่า มวลชนจะเคลื่อนลงใต้ดินมากขึ้นหากเกิดการรัฐประหารหรือฝ่ายประชาชนรู้สึกว่าถูกโกงหรือเอาเปรียบอย่างหนัก ผมยังไม่เห็นภาพสังคมไทยเคลื่อนตัวอย่างมวลชนในตูนิเซีย อียิปต์ และเยเมนในเวลานี้ เขาเหล่านั้นเล็งเป้าไปที่ผู้มีอำนาจสูงสุดอย่างมั่นเหมาะ ไม่ได้มัวต่อกรกับคนระดับล่าง แล้วมวลชนไทยเราเล็งเป้าที่ถูกต้องแล้วหรือ? ผมยังไม่เชื่อเช่นนั้น การรณรงค์โดยขาดเป้าเล็งที่ชัดเจนและขาดกลยุทธ์ที่สัมพันธ์ต่อเนื่อง มวลชนจะไม่สามารถแสดงโกรธแค้นต่อศูนย์กลางของปัญหาการเมืองทุกปัญหาได้ พร้อมกันนั้นผมเชื่อว่าขบวนการใต้ดินใหม่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีการนำที่ดีขึ้น ความเปลี่ยนแปลงของไทยอาจเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ดูคล้ายสยบยอม แต่จะยืนยง.

------------------------------------------------------------------------------

ช่วยสนับสนุน SMS-TPNews พิมพ์ PN กดส่งมาที่เบอร์4552146 สมัครวันนี้ ใช้ฟรี 14 วัน ทุกระบบ เพียง 29 บาท/เดือน รายได้เป็นค่าใช้จ่ายในการทำงานต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย Call center : 084-4566794-5 (จ.- ศ. 10.00-18.00น.)/e-mail : tpnews2009@gmail.com/บล็อก :http://wwwthaipeoplenews.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น