ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 66 คุณนวมทองกับประชาธิปไตยไทย


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 66: คุณนวมทองกับประชาธิปไตยไทย
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

*******************************************************************************
ประชาธิปไตยเริ่มมีความหมายต่อการดำรงอยู่ของเราคล้ายกับลมหายใจ คือมีความจำเป็น คุณนวมทองคือคนที่ประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น

*******************************************************************************
คุณนวมทองกับประชาธิปไตยไทย

จากนี้ไปชื่อของคุณนวมทอง ไพรวัลย์จะอยู่คู่กับการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยอย่างที่ไม่มีใครจะมาถอดถอนได้

เพราะการแขวนคอตายหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและจดหมายลาตายที่ระบุสาเหตุเอาไว้ชัดแจ้งเกินกว่าที่ใครจะบิดเบือนได้ เป็นศักดิ์ศรีของคนที่หายใจได้ด้วยประชาธิปไตยเท่านั้น

เมื่อเกิดมลพิษเผด็จการขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ก็เลือกที่จะลาโลกนี้ไปแทน

คำลงท้ายในจดหมายลาตายที่ว่า “...ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก...” อ่านแล้วเจ็บปวดสิ้นดี
ผมได้ข่าวคุณนวมทองแล้วก็เกิดอาการประหลาด คือเศร้าสลดใจและปลื้มใจขึ้นพร้อมกัน มีน้ำตารื้นๆ ที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาจากต่อมความรักหรือความชัง

คุณนวมทองสร้างวีรกรรมด้วยการขับแท็กซี่คู่ใจเข้าชนรถถังที่ลานพระบรมรูปทรงม้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นก็ไปรักษาตัวจนหาย แล้วก็มาแขวนคอตายในภารกิจที่คุณนวมทองกำหนดให้เป็นการพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย

อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ใครที่เคยพูดพล่อยๆ ว่าคุณนวมทองขับรถชนรถถังเพราะ “แก่” และ “ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ” คงจะต้องอับอายขายหน้ามาก หากยังมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อยู่ เพราะคุณนวมทองเขียนด้วยความมีสติ เต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ และมีเหตุผลอธิบายความคิดและการกระทำของตนเองอย่างสมบูรณ์

จดหมายของคุณนวมทองมีน้ำหนักมากกว่าประกาศฉบับแรกๆ ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเสียด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยก็กล้าลงชื่อว่า “นวมทอง ไพรวัลย์” ในขณะที่ประกาศฉบับแรกๆ เหมือนหล่นลงมาจากยอดไม้ ไม่ปรากฏแม้แต่ชื่อผู้รับผิดชอบในการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง

แต่สาระที่สำคัญอยู่ที่คุณนวมทองประกาศก้องไปทั่วโลก และได้ยินกันไปทั้งเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ว่า คุณนวมทองไม่อาจร่วมโลกกับคนที่ทำลายประชาธิปไตยได้

วิธีการอันสุดโต่งของคุณนวมทองกระทบกระแทกจิตใจของเราอย่างรุนแรง เพราะทำให้หวนคิดว่าเผด็จการแปลว่ากระไร และคนเกิดมามีชีวิตจิตใจควรที่จะต้องอดกลั้นกับภาวะเช่นนั้นหรือไม่

คำพูดทางวิชาการหลายครั้งไม่ผิดอะไรกับความกะล่อนที่ห่อหุ้มด้วยศัพท์แสงอันรุงรัง แต่คำเขียนของคุณนวมทองผุดพุ่งขึ้นมาจากสายธารแห่งความเพิกเฉยละเลย จนหลายคนต้องกลับมาทบทวนท่าทีของตัวเองกับการเมืองไทยในปัจจุบัน

คนที่มีหน้าที่สอนหนังสือควรให้นักศึกษาของท่านอ่านจดหมายของคุณนวมทอง โดยเฉพาะนักเรียนรัฐศาสตร์ควรจะได้อ่านก่อน “หลักรัฐศาสตร์” ทั้งเล่ม

เหมือนอนุทินหรือไดอะรี่ของเด็กสาวตัวเล็กๆ ชื่อ แอนน์ แฟรงค์ ที่กลายเป็นแถลงการณ์ของมนุษยชาติต่อความทารุณโหดร้ายของนาซีเยอรมันและสงครามโลกครั้งที่สองไปโดยไม่รู้ตัว

ครับ ผมเห็นว่า นวมทอง ไพรวัลย์ คือ แอนน์ แฟรงค์ ของประเทศไทย และก็จะคอยเตือนใครๆ ในประเทศนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้ง

เหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับตัวเรานั้น จะมองเป็นเรื่องเล็กก็ได้ถ้าหากว่าศักดิ์ศรีของความเป็นคนไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ใครถูกข่มขืนแล้วจะลุกขึ้นเชิญคนที่กำลังกระทำการล่วงเกินตัวเองให้ช่วยเป็นพ่อของเด็กที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็คงจะทำได้

และบอกอย่างหน้าตาเฉยว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว

แต่ประเทศไทยและคนไทยเปลี่ยนไปมาก ประชาธิปไตยเริ่มมีความหมายต่อการดำรงอยู่ของเราคล้ายกับลมหายใจ คือมีความจำเป็น

คุณนวมทองคือคนที่ประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น

ขอให้ท่านไปสู่สุคติเหนือพานแว่นฟ้าประชาธิปไตยเทอญ.
------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น