ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 37 ดอกไม้จากประชาชน
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 37 : ดอกไม้จากประชาชน
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
*****************************************************************************
ดอกไม้จากประชาชนที่สื่อมวลชนเอามาเล่นเป็นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญของตัวเองในขณะนี้ แท้ที่จริงแล้วคือคำเตือนอย่างจริงจังจากประชาชน
*****************************************************************************
ดอกไม้จากประชาชน
เพื่อนชาวต่างประเทศของผมถามไถ่มาด้วยความงุนงงว่า ทำไมจึงปรากฏภาพของประชาชนไปมอบดอกไม้ให้กับทหารที่ทำการยึดอำนาจ แถมยังถ่ายภาพกับรถถังและอาวุธสงครามที่เขาใช้เป็นเครื่องมือยึดเอาสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญไปจากตัวเอง
ไม่เสียดายประชาธิปไตยหรอกหรือ?
ผมก็หัวเราะ ตอบเขาไปว่าถ้าสวมหัวใจฝรั่งก็ต้องคิดอย่างนั้น แต่ถ้าใช้ระบบความคิดแบบไทยแล้วจะเข้าใจ เพราะมีความหมายอันลึกซึ้งและฉาบฉวยอยู่พร้อมกันในตัวเสร็จสรรพ
เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ฝรั่งตกอกตกใจได้ง่าย เพราะเขาถือว่า ระบอบการปกครองที่ถือเอาเสียงข้างมากของประชาชนเป็นหลัก และได้รัฐบาลมาด้วยการเลือกตั้ง ย่อมดีกว่าระบอบการปกครองแบบอื่นๆ
ถึงเขาจะไม่ชอบผู้นำการเมืองที่ได้รับเลือกมาเป็นอย่างยิ่ง เขาก็จะครุ่นคิดหาทางโค่นล้มในระบบกันให้ได้ต่อไป เพราะสังคมประชาธิปไตยกลัวจะเสียสิทธิและเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยมากกว่ากลัวจะต้องอยู่กับรัฐบาลที่ตัวไม่ชอบใจ
ไม่ได้แปลว่าต้องเปลี่ยนใจมาชอบ เผลอๆ ความเป็นรัฐบาลของฝ่ายที่เราไม่ชอบเสียอีกที่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คิดต่อสู้โค่นล้มกันในการเลือกตั้งให้จงได้ นั่นคือใช้พลังงานของตัวเองได้ถูกที่ถูกทาง
ผมเคยเปรียบเปรยมาสองสามครั้งว่า ไอน้ำนั้นไปผ่านเครื่องจักรเข้ามันก็ทำงานได้สารพัด เป็นประโยชน์มาก แต่ถ้ามันระเบิดขึ้นมาอย่างไม่มีระบบระเบียบและขาดเป้าหมายแล้ว ก็จะฉิบหายวายวอดได้มากเช่นกัน
เพราะตัวเองคิดอะไรตามระบบ ฝรั่งก็เลยไม่เข้าใจคนไทย เพราะเราคนไทยไม่ได้คิดเป็นระบบอย่างนั้น
พื้นฐานจิตใจของคนไทยคือความสงบสันติ รู้สึกว่ามีอะไรวุ่นวายก็จะไม่สบายใจ ถึงขั้นวิ่งหนีออกจากความวุ่นวายนั้นเลยทีเดียว
หรือไปทำบุญปัดรังควาญ
จะให้มานั่งวิเคราะห์สาเหตุของความวุ่นวายเพื่อจะแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด ซึ่งเป็นวิธีคิดเชิงระบบ (และเป็นวิถีคิดเชิงพุทธธรรมด้วย) นั้น ทนไม่ไหวและไม่ปรารถนา
ผมจึงตอบฝรั่งเหล่านั้นไปว่า คนไทยจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความพอใจต่อรถถังและอาวุธสงครามเหล่านี้เพราะขอบคุณในความสงบชั่วคราว
ก่อนหน้านี้กลัวว่าคนไทยจะเกิดปะทะกันเองแบบม็อบชนม็อบ เพราะดูแล้วไม่มีใครยอมใคร ฝ่ายหนึ่งยึดความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ อีกฝ่ายหนึ่งถือสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะล้มล้างกลไกของรัฐธรรมนูญนั้นเองเสียก็ได้
เห็นระเบิดตูมๆ ที่ภาคใต้ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวจะลุกลามจนกลายเป็นสงครามใหญ่ที่ต้องเสียเลือดเนื้อมากกว่านี้
เลยเถิดไปถึงว่าเลือกตั้งไปแล้วก็จะไม่มีใครเคารพนับถือระบบ การประท้วงก็จะรุนแรงสร้างความปั่นป่วนในบ้านเมืองกันต่อไปอีก
คนที่คิดอย่างนี้ก็เลยออกมาขอบคุณรถถังและอาวุธสงครามที่ช่วยทำให้ความกลัวเหล่านั้นสงบระงับลงไปได้พักหนึ่ง ถึงรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางที่จะประกันความสงบสันติตลอดไปได้ด้วยวิธีการแบบนี้
และอาจจะนึกขอบคุณที่คนเหล่านี้ไม่มีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรง ตามคำประกาศต่างๆ ของ คปค. ก็เลยเกิดความหวังว่าจะไม่มีการสร้างปัญหาใหม่
ดอกไม้จากประชาชนที่สื่อมวลชนเอามาเล่นเป็นข่าวใหญ่ข่าวสำคัญของตัวเองในขณะนี้ แท้ที่จริงแล้วคือคำเตือนอย่างจริงจังจากประชาชน
จงอย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบด้วยการใช้ความรุนแรง
ตีความผิดเมื่อไหร่กลายเป็น รสช. ทันที.
-------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น