ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 59 คลื่นใต้น้ำ


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 59 : คลื่นใต้น้ำ
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

*******************************************************************************
คลื่นใต้น้ำเป็นหลักฐานที่บอกว่าคนยังคงเป็นคน และมีศักดิ์ศรีทางสมองที่เหนือกว่าสัตว์หลายชนิด

*******************************************************************************

คลื่นใต้น้ำ

ผมว่าขำดีครับ เรื่องคลื่นใต้น้ำที่พูดกันจังในระยะนี้ เพราะถ้ายอมรับว่าชีวิตจริงเปรียบเสมือนผืนน้ำถึงขนาดที่เรียกรัฐบาลว่ารัฐนาวาแล้ว ก็ย่อมจะต้องมีคลื่นทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำ แตกต่างจากแผ่นดินที่แข็งโปกเหมือนอัมพาตกิน

ถ้ายิ่งยอมรับได้ว่า เพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไรก็เป็นคนเหมือนกัน มีศักดิ์ศรีที่ไม่ได้เหลื่อมล้ำกันนักหนา อย่างที่เรียกว่าจิตใจประชาธิปไตย ก็จะยิ่งยอมรับว่าสังคมประกอบด้วยคนหลายหมู่เหล่าที่มีผลประโยชน์ ความคิด ความเชื่อ และวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน คงจะไม่พูดพล่อยๆ ว่าความเคลื่อนไหวที่ไม่ตรงตามความต้องการของตนเป็นคลื่นใต้น้ำ

ใครที่พูดคำว่าคลื่นใต้น้ำบ่อยๆ คงจะเพราะเชื่อว่าตัวเองยิ่งใหญ่เหลือประมาณ นำมาตั้งเป็นเจว็ดอยู่ตรงไหนเป็นต้องตกตะลึงนิ่งงันกันไปหมด ความเคลื่อนไหวทุกประการจะหยุดชะงัก ด้วยความครั่นคร้ามประกายวามวับจากอินทรีย์อันตระหง่านงามของตน

ราวกับคนบ้าอย่างไรก็อย่างนั้น

ผมเคยคุยกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ ได้รู้เรื่องที่น่าสนใจหลายอย่าง เป็นต้นว่ากว่าจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “น้ำ” ได้นั้น สรรพสิ่งทั้งหลายนับไม่ถ้วนได้ผ่านขั้นตอนอันซับซ้อนอย่างไรกว่าจะมาหลอมรวมกันได้

น้ำจึงเป็นตัวทำละลายที่มีประสิทธิภาพยิ่ง เพราะน้ำมาจากทุกอย่าง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าน้ำนั้นมีความคมยิ่งนัก สามารถจะเปลี่ยนรูปสรรพสิ่งทั้งหลายได้ทั้งหมดหากใช้เวลานานพอ

แต่ “น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน แต่หัวใจอ่อนๆ...” นั้นไม่ใช่พุทธวัจนะ แต่เป็นเพลงของคุณสุเทพ วงศ์กำแหง

ใครที่อยากเข้าใจองค์ประกอบของสังคมมนุษย์ เพื่อจะได้เข้าถึงแนวคิดประชาธิปไตยได้ ผมว่าเริ่มต้นศึกษาธรรมชาติของน้ำก็น่าจะดี

น้ำเริ่มต้นทีละหยด รวมตัวกันเป็นปริมาณที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามการกักเก็บ และเมื่อพัฒนาพลังงานจลน์และพลังงานศักย์ถึงขนาดหนึ่งแล้ว น้ำก็ไหลลงมาผลักให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ หรือม้วนตัวลงเขาหรือวิ่งขึ้นมาตามชายหาดให้คนทั้งหลายบรรลัยวายวอดได้อีกเหมือนกัน จึงเรียกชื่ออย่างหลากหลายตั้งแต่ หยดน้ำ ธารน้ำ กระแสน้ำ คลื่น ฝน ไปจนถึง อุทกภัย

คนเริ่มต้นทีละคน รวมตัวกันเป็นปริมาณที่หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ ตามวิธีนำมวลชนและการบริหารจัดการสังคม เมื่อมีพลังถึงระดับหนึ่งแล้วก็สร้างกฎหมายพื้นฐานและกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมายเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบ ถ้ารวมตัวกันไปสร้างวัดหรือทอดกฐินสามัคคีก็จะได้กุศลมาก แต่ถ้าวิ่งดาหน้าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง ก็จะฉิบหายไปตามๆ กันไม่ว่าจะที่ไหน

ตราบใดที่น้ำยังเคลื่อนไหวและเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา มีน้ำใหม่มาแทนน้ำเก่าอย่างที่เรามองตามไม่ทันหรือมองไม่เห็น มีเกลียวน้ำที่ไหลม้วนไปมาอยู่ตลอดเวลาทั้งที่ดูเสมือนไหลไปในทางเดียวกัน คนในสังคมก็ต้องมีจิตใจที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ไม่อาจเป็นเนื้อเดียวกันได้ ยกเว้นจะมีข้อตกลงที่สร้างสรรค์

คนที่เข้าใจโลกที่แท้จริง ไม่หลงมายาอยู่ในโลกที่ตัวสร้างขึ้นจนลืมและวางบทบาทให้คนรอบตัวส่งเสริมมายาจนโงหัวไม่ขึ้น จะไม่กล้าคิดเลยว่ามนุษย์จะกลายสภาพไปเป็นสรรพสิ่งที่ไร้ชีวิตและจิตใจได้ และจะไม่ปฏิเสธเลยว่าคลื่นใต้น้ำเกิดขึ้นได้ในสังคมของคนที่ยังไม่ใช่ซากศพ

คลื่นใต้น้ำเป็นหลักฐานที่บอกว่าคนยังคงเป็นคน และมีศักดิ์ศรีทางสมองที่เหนือกว่าสัตว์หลายชนิด

คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าประเทศไทยขณะนี้มีคลื่นใต้น้ำหรือไม่ หรือโดยใคร คำถามคือเราจะหาทางรับรู้เกี่ยวกับคลื่นใต้น้ำเหล่านั้นและหาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติได้อย่างไร

กระบวนการนี้เรียกว่าประชาธิปไตย ซึ่งไม่ได้วิเศษจนหาที่เปรียบมิได้ หากเป็นเครื่องมืออ่านคลื่นใต้น้ำในทางสังคมที่โลกอารยะเขาถือว่ามีประสิทธิภาพที่สุดแล้ว

เลิกถามถึงคลื่นใต้น้ำเสียทีเถอะครับ เพราะฟังแล้วน้ำวิ่งไปรวมกันที่คอหอยหมด

คลื่นไส้.

-----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น