ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 53 กล่องดำ


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 53 : กล่องดำ
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

****************************************************************************
กล่องดำที่อดีตว่าที่รัฐมนตรีฯ ท่านนี้เล่า คือกระบวนการส่งชื่อเร่ไปตามที่ต่างๆ ที่เขาถือตัวเองว่ามีส่วนสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลชุดที่แล้วมากับมือ

****************************************************************************
กล่องดำ

ผมบังเอิญได้คุยกับ “อดีตว่าที่รัฐมนตรี คมช.” ท่านหนึ่ง ก็เลยได้รู้อะไรแปลกๆ

ชี้แจงเสียก่อน เหตุที่ต้องเรียกท่านยืดยาวอย่างนั้นก็เพราะว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ ท่านเป็นผู้ที่สื่อมวลชนมั่นใจถึงขนาดนั่งยันและนอนยัน ก่อนจะยืนยันว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีร่วมคณะแน่ ถือว่าเป็น ว่าที่ คนหนึ่ง แต่ในที่สุดเมื่อราชรถไม่มาเกย สิบล้ออาจจะมาแทน ก็ต้องเพิ่มตำแหน่งเป็น อดีตว่าที่ ตามระเบียบ

ท่านเล่าให้ฟังว่า ในระยะที่ยังมีการลุ้นระทึกกันอยู่นั้น ชื่อของท่านที่ลูกศิษย์ลูกหาอุตส่าห์เสนอขึ้นไปด้วยความรักและความไว้เนื้อเชื่อใจว่าท่านเป็น “ผู้ใหญ่” สมอายุ ต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการที่เรียกกันว่า กล่องดำ

ได้ยินคำว่า กล่องดำ หรือ black box หลายท่านจะรู้ทันทีว่าเขาหยิบยืมถ้อยคำมาจากวงการบินของโลก เพราะอากาศยานแทบทุกประเภทจะมีกล่องดำที่บันทึกการสนทนาในห้องควบคุมการบินหรือ cockpit
เมื่อเกิดเหตุที่ต้องสืบสวนและสอบสวนกันขึ้น หรือเกิดอุปัทวเหตุจนเครื่องบินนั้นตกลง กล่องดำก็จะกลายเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดในการวิเคราะห์ว่าเหตุนั้นๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร จุดประสงค์หลักก็เพื่อป้องกันเหตุในอนาคต

กล่องดำจึงเป็นเทคโนโลยีและโนว์ฮาวในตัวเองเสร็จ มีความซับซ้อนและออกจะลึกลับอยู่ไม่น้อย ก็เลยเรียกขานกันว่ากล่องดำ ทั้งที่ความจริงอาจจะเป็นกล่องสีส้ม สีแดง สีขาว ฯลฯ หลากหลายตามใจผู้ออกแบบและจัดสร้างอากาศยานลำนั้นๆ แต่ความ “ดำ” ในแง่ความหมายของเรื่อง ก็ยังดำรงอยู่ไม่เสื่อมคลาย
“ชื่อผมเข้าไปหมุนอยู่ในกล่องดำนี่แหละ” ท่านเล่า

ผมอดสงสัยไม่ได้ รัฐบาลนั้นใครๆ เขาก็มักจะเปรียบกับเรือหรือรัฐนาวา เพราะต้องประคับประคองตนเองอยู่ท่ามกลางคลื่นลม และต้องแข่งกับใจของตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อมีกล่องดำเป็นอุปกรณ์อันสำคัญ ก็แสดงว่ารัฐบาลชุดนี้ หรือเกราะของรัฐบาลคือ คมช. เปรียบตัวเองเป็นเครื่องบิน

คำนวณโอกาสที่จะเกิดอุปัทวเหตุตกไว้ด้วยล่ะกระมัง ถึงได้มีกล่องดำเอาไว้

กล่องดำที่อดีตว่าที่รัฐมนตรีฯ ท่านนี้เล่า คือกระบวนการส่งชื่อเร่ไปตามที่ต่างๆ ที่เขาถือตัวเองว่ามีส่วนสำคัญในการโค่นล้มรัฐบาลชุดที่แล้วมากับมือ แล้วซาวเสียงกันว่าใครพอใจหรือไม่พอใจใคร และใครมี “ข้อมูล” อันจำเป็นต่อการพิจารณาก็จะได้นำออกมาโดยพลัน

กระบวนการพิจารณาก็มิใช่พยักหน้ารับหรือส่ายหน้าปฏิเสธ แต่เป็นการ “ให้และรับ” ในรูปแบบไทยเดิมที่เรียกกันว่าผลัดกันเกาหลัง

กล่องดำในที่นี้คือการบันทึกการสนทนาของขั้วอำนาจต่างๆ ที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ นับตั้งแต่วันที่ ๑๙ ก.ย. ๔๙ เป็นต้นมา โดยอาจจะมิใช่การบันทึกจริงๆ แต่เป็นการถกแถลงให้ผ่านหูของทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะไม่ต้องมาต่อว่ากันภายหลังว่าเลือกไม้ตายซากที่ไหนมาบริหารประเทศ

กระบวนการที่ออกจะน่าทึ่งนี้ ทำให้ไม้สักทองกลายเป็นตะเกียบชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วโยนทิ้งมาแล้ว และทำให้เศษไม้ที่อยู่ที่ไหนก็เป็นได้แค่เสี้ยน กลายสภาพเป็นเสากลางบ้านต้นมหึมา ทำหน้าที่ค้ำยันบ้านไว้ทั้งหลัง กล่องดำนี้จึงมีอัศจรรย์

ผมถามว่าหลักๆ ในกระบวนการของกล่องดำมีอะไรกันบ้าง

“ง่ายๆ” ท่านว่า “คุณก็ต้องตอบคำถามห้าข้อนี้ให้ผ่าน”

“หนึ่ง...คุณเป็น “ลูก” ใคร”

“สอง...คุณโหดเป็นไหม”

“สาม...คุณจะใช้วิธีอะไรในการคืนกำไรสู่ผู้ถือหุ้น”

“สี่...ผ่านไปหนึ่งปีแล้วคุณจะจบหรือไม่ หรือมีแนวโน้มจะติดใจอยากอยู่ต่อ”

“ห้า...คุณเชื่อในลัทธิประชาธิปไตยจนเกินไปหรือเปล่า”

ผมฟังแล้วก็ไม่ได้ถามต่อ เพราะคนเล่าเองท่านก็สอบไม่ผ่าน นั่งดื่มเหล้าออนเดอะร็อคแก้วแล้วแก้วเล่าอยู่ค่อนคืน

แต่ใจทั้งท่านและผมก็ยอมรับอยู่ไม่วายว่า เป็นแนวคำถามสุดยอดของระบอบแบบใหม่โดยแท้.

--------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น