ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 39 คิดถึงอิคารัส


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 39 : คิดถึงอิคารัส
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

*****************************************************************************

คุณทักษิณฯ สวมหัวใจนักบริหารและยึดเป้าหมายของตัวเป็นที่ตั้ง ไม่มีเวลาให้กับทั้งหน้าอินทร์และหน้าพรหม คนอื่นๆ เขากลับยึดเอาหน้าอินทร์และหน้าพรหมเป็นสรณะโดยไม่ต้องทำงานอะไรอื่นอีกเลย

*****************************************************************************

คิดถึงอิคารัส


เรื่องที่ผมว่าน่าจะทำกันจริงๆ ในช่วง “ปฏิรูป” การเมืองอย่างนี้ ไม่ใช่กระโจนลงไปเถียงจนคอเป็นเอ็นว่าควรปรับเปลี่ยนมาตราไหน แต่ควรใช้เวลานั่งคิดใคร่ครวญกันว่าแท้ที่จริงแล้วเรามีปัญหาอะไรในทางการเมือง คิดจนตกผลึกแล้ว ค่อยนำเทคนิคกฎหมายเข้ามา

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร ให้บทเรียนไว้มากมายในเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจจะให้ เราจะตั้งต้นกันที่รัฐบาลนั้นก็ยังได้ หยิบเอามาสักประเด็นหนึ่งก่อน

ก่อนจะเกิดคุณทักษิณฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คงจำกันได้ว่าเราเรียกร้องกันมากว่าเมื่อไหร่จะมีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่กล้าหาญสักทีหนึ่ง อยากจะได้การนำชนิดทุบโต๊ะตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ ของบ้านเมือง โดยไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม

เพราะเบื่อการพูดแล้วไม่ทำ และรำคาญความขัดแย้งอันรกรุงรังตามสไตล์รัฐบาลผสม

คำว่า ไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ที่ว่านี้เอง ทำให้เกิดเป็นนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด โครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค โครงการทุนหมู่บ้านหรือ SML ฯลฯ ขึ้นมา เพราะถ้าเกรงหน้าอินทร์และหน้าพรหม ก็จะทำไม่ได้ ถูกข่มขู่คุกคามหรือไม่ก็กราบขอร้องจากกลุ่มอิทธิพลทั้งหลายจนไม่ได้ทำ

แต่คุณทักษิณฯ ไม่รู้ว่าประเทศไทยเป็นเมืองหน้าอินทร์หน้าพรหม

คำว่าอินทร์และพรหมหมายถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างไทย ซึ่งไม่ได้มีฐานความคิดว่าคนเกิดมาเท่าเทียมกันในทางสังคม ถึงจะย้ำคิดย้ำทำกันแทบจะเป็นบ้าว่าคนไทยทุกคนเสมอภาคกันตามกฎหมายก็ตาม

ของจริงมีผู้ใหญ่-เด็ก มีนิ้วโป้ง-หัวแม่มือ

หนึ่งเสียงเท่าเทียมกันตามกฎหมาย แต่ไม่แน่ว่าจะเท่าเทียมกันทางสังคม

แล้วยังมีคำว่า หน้า ซึ่งวัฒนธรรมไทยปลูกฝังให้โยงกับศักดิ์ศรีและความสำคัญ ที่ต่อมาชอบใช้คำแทนเพราะๆ ว่าการให้เกียรติ

ครับ ขอบคุณที่ให้เกียรติ แต่ถ้าเผลอไม่ให้หรือให้ไม่พอ เป็นโกรธกันจนแทบจะไม่เผาผี

“หน้า” ของอินทร์และพรหมย่อมจะมีค่าในความรู้สึกของตนเองมากกว่าหน้าคนทั่วไปอยู่ด้วย

จะบริหารประเทศไทย ต้องไม่ลืมว่าอิทธิพลของฮินดูในวัฒนธรรมไศเลนทร์นั้นซึมมานานนักหนาจนเข้าเนื้อไปหมดแล้ว

สังคมอินเดียจึงแบ่งออกเป็นวรรณะต่างๆ ตั้งแต่กษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ จนถึงศูทร แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า นักรบ ข้าราชการ/ผู้รู้ พ่อค้า และประชาชน

การไต่บันไดข้ามวรรณะแทบจะกระทำมิได้เลย คนส่วนใหญ่จึงไม่พยายาม และใช้เวลาเกือบทั้งหมดกับการสร้างระบบความสัมพันธ์ระหว่างวรรณะขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากความยอมรับในสถานภาพของตนเอง และใช้หลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หรือ peaceful co-existence

การข้ามวรรณะมิได้หรือทำได้ก็ยากเย็นเหลือประมาณนี้ เป็นลักษณะอันสำคัญของสังคมหวงห้าม มีเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเป็นองค์ประกอบ จึงต้องระมัดระวังอยู่มากในเชิงจารีต

ในขณะที่คุณทักษิณฯ สวมหัวใจนักบริหารและยึดเป้าหมายของตัวเป็นที่ตั้ง ไม่มีเวลาให้กับทั้งหน้าอินทร์และหน้าพรหม คนอื่นๆ เขากลับยึดเอาหน้าอินทร์และหน้าพรหมเป็นสรณะโดยไม่ต้องทำงานอะไรอื่นอีกเลย

ผลก็อย่างก็เห็นๆ กันอยู่

เห็นแล้วก็อดนึกถึงอิคารัสไม่ได้

อิคารัสเป็นผู้ที่มีจิตใจทะเยอทะยาน นั่งมองพระอาทิตย์ทุกวันอย่างครุ่นคิด วันหนึ่งก็เอาขี้ผึ้งมาปั้นเป็นปีกติดไว้ที่แขนทั้งสองข้าง แล้วบินตรงสู่ดวงอาทิตย์เลยทีเดียว ปรากฏว่าเข้าใกล้เกินไป ความร้อนจากพระอาทิตย์ทำให้ขี้ผึ้งละลาย อิคารัสก็เลยตกลงมาตาย

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าสนใจเฉพาะขี้ผึ้งใต้แขน ให้สนใจความร้อนจากดวงอาทิตย์ด้วย

สุคติหรือทุคติก็ไม่รู้เหมือนกัน.

-------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น