ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 42 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 42 : พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

**********************************************************************************
สงครามที่พลเอกสุรยุทธ์ฯ ต้องเผชิญกลับไม่ใช่ปัญหาทางอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างซ้ายกับขวา แต่เป็นระหว่างลัทธิประชาธิปไตยกับลัทธิจารีตประเพณีนิยม

**********************************************************************************

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์

วันนี้ขอลืมเรื่อง “ระบบ” และมองมาที่ “ตัวบุคคล” สักวันเถอะครับ เพราะนายกรัฐมนตรีคนล่าสุดของราชอาณาจักรไทยเป็นผู้ที่มีประวัติส่วนตัวที่น่าสนใจยิ่ง จนเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นผลการประนีประนอมของสังคมอย่างได้สมดุล

จะไม่พูดล่ะว่าดีหรือไม่ดี แต่จะขอลำดับความน่าทึ่งบางอย่าง

คงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่า คุณพ่อของท่านคือพันโทพโยม จุลานนท์ เป็นนายทหารที่เกิดภาวะขัดแย้งทางอุดมการณ์ในจิตใจของตัวเองอย่างรุนแรง ถึงขั้นที่เดินออกจากกองทัพบกไปร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอย่างเต็มตัวเต็มหัวใจ จนกลายเป็นกำลังสำคัญในการสัประยุทธ์และเป็นกำลังสมองในขบวนการปฏิวัติอย่างจะขาดเสียมิได้

“ลุงคำตัน” ซึ่งเป็นชื่อจัดตั้งของท่าน ได้กลายเป็นตำนานของการจับอาวุธขึ้นต่อสู้ในป่า เพราะทำหน้าที่ด้านการปลูกฝังทางอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ถือว่าสำคัญที่สุดในการปฏิวัติ

ขบวนการเช่นนี้ถือว่าการปรับเปลี่ยนรากฐานของความคิดมาเป็นผู้ที่จะสืบทอดแนวทางคอมมิวนิสต์มีความหมายมากที่สุด นั่นคือความรับผิดชอบของพันโทโพยมฯ

เมื่อลูกชายได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ปราบปรามคอมมิวนิสต์ในแถบพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน อย่างที่จังหวัดน่าน ญาติพี่น้องก็พากันหายใจไม่ทั่วท้องเพราะไม่รู้ว่าคุณสุรยุทธ์ฯ จะต้องประจันหน้ากับผู้นำ
คอมมิวนิสต์และบิดาผู้ให้กำเนิดเข้าเมื่อใด

แต่ก็โชคดีไป ชีวิตไม่เล่นตลกด้วยถึงขนาดนั้น

อีกสองทศวรรษต่อมา พลเอกสุรยุทธ์ฯ ก็ได้พบกับคุณพ่อเป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยความอนุเคราะห์ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พันโทโพยมฯ ในขณะนั้นอยู่ระหว่างการลี้ภัยทางการเมือง

ความสัมพันธ์ที่ออกจะประหลาดระหว่างนักสู้เพื่อต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์กับนักอุดมการณ์ที่ต้องการเห็นประเทศไทยเปลี่ยนไปสู่ระบอบนั้น เป็นสิ่งที่ทาบทับชีวิตและจิตใจของพลเอกสุรยุทธ์ฯ ตลอดชีวิตราชการทหาร

นั่นคือความสุดโต่งของฝ่ายคุณพ่อ

เมื่อมองมาอีกด้านหนึ่งของสาแหรกครอบครัว ก็ปรากฏว่าพลเอกสุรยุทธ์ฯ มีมรดกทางประวัติศาสตร์แบบที่หาได้ยากอีกเช่นเดียวกัน คือคุณแม่ของท่านเป็นลูกสาวของพระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ) ซึ่งเป็นหมายเลขสองของพระองค์เจ้าบวรเดช และเสียชีวิตในการต่อสู้กับกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลที่หินลับ

พลเอกสุรยุทธ์ฯ จึงสูญเสียคุณตาแท้ๆ ในการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ระหว่างคณะราษฎร ซึ่งได้ยึดอำนาจในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ กับกองกำลังอันเป็นของอำนาจเก่าในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช เหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักกันในนามกบฏบวรเดช

ความโศกาอาดูรที่ครอบครัวฝ่ายคุณแม่ของท่านต้องเผชิญนั้น ไม่มีหนังสือเล่มไหนจะบรรยายได้ชัดเจนจับความรู้สึกยิ่งไปกว่า “กำสรวลพระยาศรีฯ” ที่เรียบเรียงด้วยหัวใจดวงแกร่งของลูกสาวอีกคนหนึ่งของท่าน ได้แก่ แพทย์หญิงโชติศรี ท่าราบ รู้สึกว่าจะพิมพ์เป็นเล่มโดยสำนักพิมพ์มติชนนานมาแล้ว

จะมีสักกี่คนในประเทศนี้ที่มีคุณพ่อเป็นคอมมิวนิสต์และตัวเองมีหน้าที่ในการออกลาดตระเวนตามล่า และมีคุณแม่เป็นลูกสาวของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่สละชีวิตปกป้องระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช

ซ้ายจัดและขวาจัดรวมอยู่ในครอบครัวเดียวกันอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมจึงรู้สึกว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่มาจากส่วนผสมของความคิดและจิตใจที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าจะมีอิทธิพลต่อความคิดของตัวท่านเองมากน้อยแค่ไหน

แต่ก็นั่นล่ะครับ สงครามที่พลเอกสุรยุทธ์ฯ ต้องเผชิญกลับไม่ใช่ปัญหาทางอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างซ้ายกับขวา แต่เป็นระหว่างลัทธิประชาธิปไตยกับลัทธิจารีตประเพณีนิยม หรือจะเรียกว่าเป็นขวาใหม่กับขวาเดิมก็ยังได้

มนุษย์นี่ชอบทำสงครามกันเสียจริง ฝ่ายซ้ายยกธงขาวไปนานหลายปีแล้ว ยังอุตส่าห์ปลุกความขัดแย้งในหมู่เดียวกันแต่เดิมขึ้นมาอีกจนได้!

-------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น