ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 50 อย่าให้ขายหน้าไปกว่านี้


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ก่อนรัฐประหาร

ตอนที่ 50 : อย่าให้ขายหน้าไปกว่านี้

โดย : กาหลิบพิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)


*********************************************************************************
อ่านแล้วเขาคงหัวเราะกันเกรียว เพราะไม่ต่างจากเอาปืนไปจ่อหัวผู้หญิงแล้วถามว่าเธอรักฉันไหม ถ้าไม่ตอบว่ารัก ยายคนนั้นแกก็คงเป็นบ้า


*********************************************************************************

อย่าให้ขายหน้าไปกว่านี้

รู้สึกขนลุกนิดๆ เมื่อได้ยินข่าวว่า คุณนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศท่านใหม่ สั่งให้จัดทำหนังสือขึ้นมา ๑ เล่ม เพื่ออธิบายให้ทั่วโลกเข้าใจว่าทำไมจึงต้องมีการรัฐประหารในประเทศไทยเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙

ผมเข้าใจว่าหนังสือเล่มนี้จะจัดทำขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ และคงจะลำดับความโดยละเอียดว่าเมืองไทยเราเข้าตาจนอย่างไร คณะทหารจึงต้องออกมาตั้ง “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ในห้วงเวลาไม่กี่วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นจริงๆ

จะสบายใจขึ้นมากทีเดียวครับ หากคุณนิตย์ฯ แถลงต่อสักหน่อยว่าจะนำหนังสือเล่มนี้ไปแจกรัฐบาลพม่า คิวบา และเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ และจะไม่แจกให้ใครอื่นเลย

อาจจะพอมีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้รับความเชื่อถือบ้าง

เพราะในโลกแห่งประชาธิปไตยนั้น ไม่มีใครเขาเชื่อถือหรือยอมรับในการยึดอำนาจอีกต่อไปแล้วครับ

ไม่มีเหตุผลไหนในโลกที่จะทำให้การรัฐประหารถูกต้องขึ้นมาได้

ไม่มีวิกฤติใดๆ ที่จะเป็นข้ออ้างให้ยกเลิกประชาธิปไตย ถึงแม้จะชั่วคราว

อะไรที่ถือว่าเป็นของดีนั้น เขาไม่บังคับกันด้วยอำนาจบาตรใหญ่ เพราะถ้าลงบังคับกันเสียแล้ว ก็จะไม่มีวันได้รู้ว่าความเต็มใจหรือความสมัครใจมีหรือไม่

การบังคับ หมายความว่า คนหนึ่งไม่ต้องการสิ่งนั้นๆ แต่อีกคนหนึ่งต้องการให้ทำหรือให้เป็น จึงไม่อาจพูดได้เลยว่าเป็นของดี เพราะถึงแม้จะดีก็ไม่มีทางรู้

แล้วกระทรวงการต่างประเทศจะไปอธิบายอะไรกับเขา?

ถ้าจะแค่นอธิบายกัน คงจะออกมาเป็นเหตุผลเชยๆ ว่าสถานการณ์ในเมืองไทยไม่เหมือนใคร เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้ เพราะเรามีองค์ประกอบของความเป็นประเทศที่แตกต่างจากเขาอย่างนั้นอย่างนี้

ประชาธิปไตยเมืองไทยจึงมีมาตรฐานที่ตั้งเอง คือตามความคิดของผู้ยึดอำนาจว่าอะไรคือประชาธิปไตย โอดครวญว่าเรามีการประท้วงทั่วเมืองและมีความขัดแย้งทางการเมืองกันมาก ก็เลยต้องยึด ยึดแล้วเห็นไหม ความวุ่นวายหายวับไปกับตาจริงๆ

อ่านแล้วเขาคงหัวเราะกันเกรียว

เพราะไม่ต่างจากเอาปืนไปจ่อหัวผู้หญิงแล้วถามว่าเธอรักฉันไหม

ถ้าไม่ตอบว่ารัก ยายคนนั้นแกก็คงเป็นบ้า

เอาล่ะ ถ้าวันนี้หลวมตัวไปบอกเขาว่า เห็นใจเถิด ประเทศไทยของเราไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน จงอย่าลืมหาทางอธิบายเสียด้วยว่า วันที่เกิดอยากให้เขามาลงทุนทำการค้า หรือเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น จะกลับคำพูดอย่างไรเพื่อจะบอกว่าเรามีมาตรฐานเดียวกับทุกประเทศในโลก

วันนี้พูดอย่าง วันหลังพูดอย่าง แล้วเกียรติยศเกียรติศักดิ์ของประเทศจะอยู่ตรงไหนครับ

โปรดอย่าออกหนังสืออธิบายเหตุผลและความชอบธรรมแห่งการรัฐประหารเลย

แต่ชี้แจงกับเขาดีกว่าว่า ไหนๆ ก็ถึงขนาดนี้แล้ว ประเทศไทยมีแผนการที่จะคืนประชาธิปไตยให้กับคนทั้งประเทศอย่างไร บอกเงื่อนเวลาไปด้วย เขาจะได้เชื่อถือ และลงท้ายก็ยืนยันเสียหน่อยว่าโอกาสที่จะเกิดผิดสำแดงแบบนี้ ยังมีอีกหรือไม่ในอนาคต

อะไรที่มันเลอะเทอะผิดทางไปแล้ว อย่าไปดันทุรังว่ามันถูก อีโก้แบบไทยใช้เสียให้ถูกทาง อย่าให้เขาต้องหัวเราะกันจนเสียดท้องหนักกว่านี้เลย ไหนๆ เราก็เป็นประเทศที่เก่าแก่

กลัวเขาจะนึกว่าวัฒนธรรมไทยสมัยนี้คือตลกคาเฟ่ ไม่ใช่นาฏศิลป์น่ะครับ.

---------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น