ความยุติธรรมและความเสมอภาคที่แท้จริงไม่มีในโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกข้างและกำหนดจุดยืนให้ชัดเจน เพื่อจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...
3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ
2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์
1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์
สด จาก เอเชียอัพเดท
วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 45 คนพันธุ์พิเศษ
ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 45 : คนพันธุ์พิเศษ
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)
*******************************************************************************
คนเขาเก่งเย็บปักถักร้อย จะจับไปแข่งกีฬาพุ่งแหลนก็จะกลายเป็นคนไร้ความสามารถ
*******************************************************************************
คนพันธุ์พิเศษ
กำลังเสี่ยงทายกันอย่างเมามันว่าใครจะบุญหล่นทับได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
ได้เห็นการรณรงค์หาเสียงแบบแปลกๆ ของคนอาจจะเรียกได้ว่าผู้ดีเก่าหลายคน ซึ่งจะไม่ยอมแสดงออกตรงๆ ว่าปรารถนาอะไรอยู่ในใจ แต่จะแสดงด้วยบทบาทที่สมควรได้รับรางวัลตุ๊กตาทองยิ่งกว่า เช่น แสดงความเห็นเชิงนโยบายออกมาดังๆ เดินทางกลับจากต่างประเทศโดยไม่มีลูกน้องห้อมล้อมรับใช้ (เพื่อให้สมกับรัฐบาล “สมถะ”) ให้คอลัมนิสต์เขียนสนับสนุน (หรือเล่นงานคนที่ดูจะเป็นคู่แข่งได้) ฯลฯ
คนที่เฝ้ามองอยู่เริ่มส่งเสียงเชียร์บ้าง ยี้บ้าง หรือบางคนก็มีคำถามอยู่ในใจ
เสียงซุบซิบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของตัวบุคคล ความสำคัญคงไม่อยู่ตรงนั้นนัก สิ่งที่หลายคนเริ่มจะรู้สึกและหยิบมาเป็นประเด็นถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ คือภูมิหลังด้านวิชาชีพของคนที่ถูกเอ่ยนามขึ้นมาแต่ละคน
โดยเฉพาะคนที่รับราชการมาตลอด กับคนที่ไม่ใช่
ความเป็นข้าราชการหรือไม่ ดูจะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการคัดเลือกรัฐมนตรีครั้งนี้ ถ้ามองอย่างวิเคราะห์ก็จะเข้าใจ ก็นายกรัฐมนตรีเองรับราชการทหารมาตลอดชีวิต ไม่เคยเบี่ยงไปในทิศทางอื่นใดเลย คนที่ท่านน่าจะไว้วางใจและ “รู้จัก” ก็คงวนเวียนอยู่ในระบบราชการ
ความจริงท่านจะหกคะเมนตีลังกาอย่างไรในการเลือก ก็เป็นสิทธิ์ของท่านในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
แต่ในเมื่อรัฐบาลมีผลต่อคนทุกคน ก็เลยต้องขอส่องกล้องเข้าไปดูหน่อย
ดูห่างๆ ก็พอจะเดากรอบความคิดของท่านได้บ้างแล้ว
คนเก่งเศรษฐกิจต้องอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
คนเก่งนโยบายต่างประเทศจะเป็นใครได้เล่า ก็กระทรวงการต่างประเทศ
นโยบายความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ใครจะเก่งกว่าทหาร เพราะฉะนั้นต้องตั้งให้ทหารเป็น
กระทรวงมหาดไทยซับซ้อนอาศัยบารมีสูง หาอดีตปลัดกระทรวงมาสักคน เช่นเดียวกับกระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ
นี่คือกรอบความคิดที่เชื่อว่าข้าราชการเป็นศูนย์กลางของราชอาณาจักรนี้
ภาคเอกชน ภาคประชาชน ต้องลดลงไปเป็นตัวประกอบ แข่งบุญบารมีกับเขาอย่างไรไหว
ผมก็เชื่อมั่นครับว่าข้าราชการที่เก่งนั้น มีความสำคัญต่อบ้านเมืองและสมควรได้รับการยกย่องในทุกทางที่ทำได้
แต่โปรดอย่าลืมว่าข้าราชการถูกสร้างและพัฒนามาตลอดชีวิตเพื่อรักษาไว้ซึ่งระบบและครรลองที่มีอยู่แล้วในบ้านเมือง ไม่ใช่เพื่อสร้างระบบและวางครรลองใหม่
น้อยจนแทบจะหาตัวไม่ได้เลย สำหรับข้าราชการที่เติบโตขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ ได้โดยเปลี่ยนแปลงทุกอย่างรอบตัวมาตลอด ส่วนใหญ่ได้ดีเพราะทำตามคำสั่งได้ดี และได้รับรางวัลในวิชาชีพของตัวเมื่อพิทักษ์รักษาสิ่งที่เป็นจารีตประเพณีในการทำงานในหน่วยงานนั้นๆ ได้
ข้าราชการจึงอยู่ในกรอบหรือแนวความคิดอนุรักษ์นิยม ใครที่เป็นเสรีนิยมจนเกินไปจะทนอยู่ในระบบราชการไม่ไหว หรือบางทีระบบราชการก็ทนคนๆ นั้นไม่ไหว โยนออกไปนอกระบบก็เห็นมามากแล้ว
แต่เรากำลังกระเสือกกระสนเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเหลือเกิน พูดกันจนปากฉีกไปถึงรูหูว่าผู้นำในทุกระดับต้องมีทัศนคติที่ดีต่อความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ และสามารถผลักดันให้หน่วยงานของตนเองเจริญก้าวหน้าสอดคล้องกับโลก โดยไม่จมน้ำตาย
จะไปหาแบบนี้ที่ไหนในระบบราชการ?
ข้าราชการก็อย่าเพิ่งฉุนโกรธ ความเก่งกล้าสามารถของท่านนั้นมีมากและเป็นปัจจัยรักษาประเทศนี้มาตลอดด้วย แต่คำถามก็คือความเก่งนั้นตรงกับโจทย์ที่ประเทศไทยในกระแสโลกภิวัตน์ได้รับมาหรือไม่
คนเขาเก่งเย็บปักถักร้อย จะจับไปแข่งกีฬาพุ่งแหลนก็จะกลายเป็นคนไร้ความสามารถ
โดยสรุป คณะรัฐมนตรีในโลกปัจจุบันต้องเลือกสรรจาก “กรอบความคิด” ก่อน “ความรู้ความสามารถ” ครับ ยกเว้นจะไม่เอาจริงกับการยกระดับประเทศนี้.
----------------------------------------------------------------------------------------
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น