ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 41 ความมั่นใจสร้างได้ไหม?


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 41 : ความมั่นใจสร้างได้ไหม?
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

*********************************************************************************
ถ้าของขึ้นกันบ่อยๆ ยึดเอาความไม่ชอบหน้าคุณทักษิณฯ เป็นตัวตั้ง อะไรของคุณทักษิณฯ ก็ตั้งท่าจะปฏิเสธ ระวังจะเกิดปัญหาใหญ่

*********************************************************************************

ความมั่นใจสร้างได้ไหม?

ถ้าเลือกเกิดได้ผมไม่ขอเลือกเกิดเป็น คปค. ในขณะนี้เด็ดขาด เพราะเห็นอุปสรรคที่วางเรียงรายอยู่ในหนทางเบื้องหน้าแล้วรู้สึกได้ทันทีว่า อำนาจนี้เป็นทุกขลาภชัดๆ

จะนำมาพูดทุกเรื่องก็เห็นท่าจะนอนไม่หลับ เอาเรื่องเดียวก่อน และเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสในบรรยากาศอย่างนี้ นั่นคือคำสั้นๆ สามพยางค์ที่แทบจะจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้ว....... ความ-มั่น-ใจ

ความมั่นใจของคนไทยก็ยกไว้ก่อนล่ะ เพราะหลายครั้งในความมั่นใจของไทยแปลว่าความถูกใจ ไม่ได้ใช้เหตุผลอะไรที่มันยุ่งยากซับซ้อนเลย

แต่ความมั่นใจของต่างชาติต่างภาษานี่สำคัญนัก ถึงจะไม่ใช่พ่อใช่แม่ (พูดอย่างที่คนโลกแคบเขาชอบพูดอย่างแดกดัน) แต่ประเทศไทยอยู่มาได้อย่างสบายตัวและแข่งขันได้อย่างพอตัวเท่าที่ผ่านมา ก็เพราะคนเหล่านี้ยังมั่นใจประเทศไทยอยู่

มั่นใจแล้วจึงจะมาท่องเที่ยว

มั่นใจแล้วจึงจะมาอยู่นานๆ ไม่ใช่สามวันกลับ

มั่นใจแล้วจึงจะนำครอบครัวมาด้วย ถ้าไม่มั่นใจก็จะมาตัวคนเดียวหรือกับคู่ชีวิต มีอะไรก็เผ่นกลับได้โดยพลัน ไม่มีใครมากระจองอแง

มั่นใจแล้วจึงจะยอมนำเงินและทุนของตนเองมาฝากฝังไว้ เหมือนแปลงเกษตรที่หวังจะให้งอกงามเติบโตขึ้นเป็นผลกำไร ซึ่งต้องใช้เวลา

มั่นใจแล้วจึงจะเล่าสู่กันฟังในหมู่เพื่อนฝูงญาติมิตร ชักชวนกันมาเมืองไทย

แม้แต่รัฐบาลต่างชาติ มั่นใจแล้วจึงจะมาเยี่ยมเยือน เห็นไหมว่าขณะนี้กิจกรรมการทูตเงียบไปเหมือนเป่าสาก ใครเขาจะมา ถ้าเขาไม่มั่นใจ หรือมาแล้วจะมาเสียเวลาเจรจากับคนที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรไหม

ผมนั่งมองดูแล้วก็สะท้อนใจ เมืองไทยในขณะนี้เหมือนกงล้อเครื่องจักรที่หมุนติ้วไปข้างหน้า จู่ๆ ก็สอดท่อนเหล็กเข้าไปขวาง ก็หักพังโครมคราม กว่าจะทำให้กงล้อหยุดหมุนและออกแรงสุดฤทธิ์เพื่อให้มันหมุนกลับไปอีกทางหนึ่ง ใช้เวลานานนัก ออกแรงก็มาก และเสียหายสุดๆ

เอาล่ะ เมืองไทยของเราทุกคน ชี้ปัญหาแล้วก็ต้องหาทางแก้

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนี่นา

ความมั่นใจในขณะนี้ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของนโยบายและการแสดงออกของรัฐบาลใหม่และตัว คปค. เอง ว่าจะสามารถ “ต่อยอด” รัฐบาลทักษิณฯ ได้ขนาดไหน และด้วยความแนบเนียนอย่างไร

เราประเมินผลมาตลอดว่า ก่อนหน้านี้ธุรกิจต่างชาติกำลังพอใจที่รัฐบาลวางนโยบายปลดปล่อยและสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นทั่วประเทศ เพราะการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส เป็นผลกำไรที่เข้าสู่กระเป๋าของเขาอย่างชอบธรรมด้วย ถ้าหากเขาเล่นเป็นและมีความสามารถพอ

ลดรายจ่ายก็อย่างโครงการ ๓๐ บาท บ้านเอื้ออาทร/บ้านมั่นคง

เพิ่มรายได้ก็อย่างโครงการส่งเสริม SMEs หวยบนดิน

ขยายโอกาสก็อย่างทุนการศึกษาประเภทต่างๆ กองทุนหมู่บ้านฯ

พูดง่ายๆ คือคนไทยมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นเขาก็จะขายได้มากขึ้นไปด้วย

ต่างชาติที่ไม่ได้เข้ามาขาย แต่มาใช้เมืองไทยเป็นฐานการผลิต ก็กำลังปรับตัวใช้แรงงานที่มีฝีมือขึ้นและคุณภาพการศึกษาที่ดีขึ้น โดยยอมจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าเดิม เพราะเขารู้ว่าสามารถนำไปขายต่อได้แพงขึ้น

การปรับปรุงนโยบายคนเข้าเมืองก็ตรงใจและตรงความต้องการของเขา ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาถูกต้อง หรือแรงงานระดับบนที่เข้ามาทำงานทางปัญญาในเมืองไทย ก็อยากจะได้ความสะดวกรวดเร็วและจ่ายบนดินใต้ดินน้อยกว่านี้

สิ่งเหล่านี้ล่ะครับที่จะช่วยนับหนึ่งในความเชื่อมั่นได้ คือยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นเรื่องหลัก

แต่ถ้าของขึ้นกันบ่อยๆ ยึดเอาความไม่ชอบหน้าคุณทักษิณฯ เป็นตัวตั้ง อะไรของคุณทักษิณฯ ก็ตั้งท่าจะปฏิเสธ ระวังจะเกิดปัญหาใหญ่

แทนที่จะ “เชื่อมั่น” เขาอาจจะบอกว่า “ไม่เชื่อแม่ง” ก็ได้.

---------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น