ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 54 รางวัลของสนธิ (ลิ้ม)


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 54 : รางวัลของสนธิ (ลิ้ม)
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

******************************************************************************
ใช้คำหยาบๆ คายๆ ล่วงเกินกันอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีใครใช้กฎหมายข้อไหนจัดการได้ ก็เป็นเรื่องของซุปเปอร์แมนเชียวนะจะบอกให้

******************************************************************************

รางวัลของสนธิ (ลิ้ม)

เพิ่งมานึกขึ้นได้ในวันที่ต่างฝ่ายต่างไปเฝ้าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชที่วัดบวรฯ ยังไม่ทราบเลยว่าใครตกรางวัลให้กับคุณสนธิ (ลิ้ม) แล้วหรือยัง ฐานที่ช่วยรวบรวมพลพรรค “ยิกทักษิณ” มาเขย่าเมืองอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นฐานให้กับการ “ดึงพรมจากใต้เท้า” ของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรจนสำเร็จล้มตึง

ในวันนั้นคุณสนธิฯ “บังเอิญ” ไปเฝ้าสมเด็จอาจารย์ และพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ก็ “บังเอิญ” ไปเฝ้าในวันและเวลาเดียวกัน สื่อมวลชนติดตามท่านนายกฯ ไปทำข่าวเป็นอันมาก ก็น่าจะได้รายงานถึงความบังเอิญครั้งนี้อย่างสะใจคุณสนธิฯ

ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ทักทายตามมารยาท แล้วก็ปลีกตัวหายไปเลย ข่าวแพร่สะพัดว่าอีกฝ่ายก็ออกจะเป็นเดือดเป็นแค้นในความไม่ซาบซึ้ง จากวันนั้นก็เลยมีอะไรเย็นชาอยู่บ้าง

ข่าวว่าอาจารย์ชัยอนันต์ สมุทวณิชจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เป็นแค่ข่าวในหนังสือพิมพ์ต่างๆ รวมทั้ง “ผู้จัดการ” และมาบัดนี้ก็พัฒนาไปเป็นข่าวเก่า

มาสมหวังบ้างก็เมื่อเห็นรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนอย่างคุณสำราญ รอดเพชร คุณคำนูญ สิทธิสมาน เข้าไปเป็น ส.ส. แบบชาวบ้านไม่ต้องเลือก ก็ค่อยหายเหนื่อยหน่อย

แต่ก็ยังไม่สุด

ใครก็ตามที่ตั้งโจทย์อยู่ในใจว่า มีรัฐบาลที่ตนเองจะต้องใช้ความปราดเปรื่องของลัทธิประสมสื่อ (media convergence) ในการโค่นล้มลงให้ได้ ถึงขนาดคาดหวังไว้ล่วงหน้าว่าจะประท้วงยืดเยื้อไปจนกระทั่งเกิดการใช้กำลังในรูปใดรูปหนึ่งในบ้านเมือง และ “ทหารกล้า” จะออกมาเป็นบทสรุปเพื่อปิดฉากให้อย่างสวยงาม ย่อมจะต้องคิดบัญชีเป็น

เขาทุ่มชีวิตมาลงทุนนะครับ ต่อให้มีเลือดบ้าขนาดไหนก็ต้องคิดถึงความคุ้มทุนบ้าง อย่างน้อยก็แว่บหนึ่ง

ปัญหาคือจะเอาอะไรอีก

สถานภาพพิเศษก็ขอมาและให้แล้ว ตั้งแต่วันที่สถานีโทรทัศน์ทุกช่องพร้อมใจกันเผยแพร่สารคดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ ASTV ช่องเดียวไม่ต้องถ่ายทอด คือวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ นั่นแหละ

ใช้คำหยาบๆ คายๆ ล่วงเกินกันอยู่ตลอดเวลาโดยไม่มีใครใช้กฎหมายข้อไหนจัดการได้ ก็เป็นเรื่องของซุปเปอร์แมนเชียวนะจะบอกให้

แต่ความมีสถานภาพพิเศษอย่างนี้ไม่ได้ทำให้จ่ายเงินเดือนทีมงานได้ และ “ภาพ” ของความมั่งคั่งที่ติดแหงกอยู่ในระบบการเงินก็ใช่ว่าจะหลุดออกมาได้เอง

ก็เลยต้องออกมาทวงบุญคุณบ่อยครั้ง เพราะยังไม่ได้ และวันที่วัดบวรฯ ก็ทำทีเหมือนกับจะจำกันบ่ได้กา เป็นที่น่าสะดุ้งใจนัก

เป็นผมผมก็คิดมาก

ครรลองในระบอบประชาธิปไตยนั้นมีดีหลายอย่าง แต่ที่ดีชัดๆ และมีประโยชน์ยิ่งก็คือ การรู้ได้ว่าใครควรมีราคาเท่าใดในเกมการเมือง

แต่ในการเมืองแบบเบ็ดเสร็จ คนที่เกี่ยวข้องไม่มากก็น้อยจะรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของเรื่องนั้นๆ ความสำคัญก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปเป็นมูลค่าที่ไม่ค่อยจะมีมาตรฐาน

ไม่นานก็ต้องนำไปแลกเปลี่ยนเป็นธนบัตรอันสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หรือเรียกกันว่า cash in ในทางใดทางหนึ่ง

ไม่ขอหลวงก็ขอราษฏร์ นานไปอีกนิดหนึ่งคำว่า “ขอ” ก็เลือนๆ ไป จนอาจกลายเป็นคำว่า “ฉ้อ” ขึ้นมาได้

ถึงวันนั้นแล้วจะรู้ว่าผู้เข้าแข่งขันคนนี้เขาไม่ธรรมดา ทำหน้าที่กรรมการตัดสินแพ้ชนะด้วยตัวเอง แถมยังจัดหาถ้วยรางวัลมาแจกตัวเองอย่างเอิกเกริกครึกครื้นอีกต่างหาก.


----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น