ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

ผู้นำการต่อสู้แนวปฏิวัติ...

3. อ.ปิยบุตร-อ.วรเจตน์-คุณดอม-ป้าโสภณ รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์ฯ

2. "ท่านวีระกานต์" รำลึกสี่ปีการจากไป...ลุงสุพจน์

1.จักรภพ รำลึกสี่ปีฯ.. ลุงสุพจน์

สด จาก เอเชียอัพเดท

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : ตอนที่ 47 ชอบธรรมหรือเป็นธรรม


ซีรีส์ยุทธการตอแหลแห่งชาติ : หลังรัฐประหาร
ตอนที่ 47 : ชอบธรรมหรือเป็นธรรม
โดย : กาหลิบ
พิมพ์ครั้งแรก : กุมภาพันธ์ 2550 (หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน)

*****************************************************************************
แยกผิดและถูกออกจากกัน เพราะคนหรือเหตุการณ์ต่างๆ มักมีสภาพไม่ต่างจากเหรียญสองด้าน และอย่าบีบคั้นกระบวนการยุติธรรมด้วยอำนาจลึกลับมากนัก

*****************************************************************************

ชอบธรรมหรือเป็นธรรม

ใครที่ชอบศึกษาภาษาไทย จะพบความจริงอย่างหนึ่งว่าคนโบราณท่านช่างมีความลุ่มลึกในการสื่อสารเสียเหลือเกิน ทุกถ้อยคำมีความหมายทั้งนั้น ถ้าเราคิดให้ลึกพอ

สถานการณ์การเมืองในขณะนี้เป็นตัวอย่างที่ดี หลังจากการไล่รัฐบาลด้วยกำลังทหารของประเทศแล้ว ก็ตามมาด้วยการคาดโทษเรื่องของความไม่สุจริต ความไม่จงรักภักดี และการละเลยปัญหาบางอย่างของประเทศ เช่น สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ เตรียมจะใช้อำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติกับจำเลย คืออดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลของท่าน

เห็นคำที่ผุดขึ้นมาในขณะนี้สองคำที่ชวนสนใจในถ้อยคำสำนวน และความรู้สึกที่หลบอยู่หลังถ้อยคำเหล่านั้น

คำแรกคือ ชอบธรรม ที่ใครๆ ในฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณฯ กำลังกระเหี้ยนกระหือรือนักหนา ประกาศจะเล่นงานขนาดจมธรณี โดยบอกว่าเป็นความชอบธรรมของฝ่ายตน

คำที่สองคือ เป็นธรรม ที่ฝ่ายคุณทักษิณฯ ร้องไปรอบๆ ว่าเมืองไทยยังมีความงามเหล่านี้หลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่ หรือเลือดเข้าตาเห็นว่าศัตรูทางการเมืองต้องถูกประหารแต่เพียงอย่างเดียวไปหมดสิ้นแล้ว

ผมมานั่งนึกถึงคำสองคำนี้แล้วก็สะท้อนใจ เพราะมีความหมายต่อเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นอันมาก

ความชอบธรรมที่ใช้ในภาษาอังกฤษว่า legitimacy เป็นธรรมะประเภทที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ไม่ใช่ธรรมะ-ธรรมชาติ มีความหมายว่าความถูกผิดขึ้นอยู่ที่ว่า คนส่วนมากหรือคนส่วนน้อยที่มีอำนาจเห็นว่าอะไรถูกอะไรผิด

เป็นความถูกผิดที่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของฝูงชน ว่าอย่างนั้นเถิด

ไม่ต้องการเมืองก็ได้ เพียงการสูบบุหรี่ในปัจจุบันก็เห็นได้ชัดแล้วว่ามีความชอบธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปมาก จากเมื่อก่อนที่คนสูบบุหรี่อย่างสง่าผ่าเผยในทุกสถานการณ์ มาบัดนี้ถูกห้ามเกือบทุกที่ จนรู้สึกละอายใจ นึกอยากสูบขึ้นมาก็ต้องออกเนื้อออกตัวและย่องไปหามุมสงบของตนเองเหมือนถูกเนรเทศ

หรือลูกครึ่งที่ปรากฏในจอโทรทัศน์และจอภาพยนตร์ ในยุคหนึ่งเกือบจะต้องหลบๆ ซ่อนๆ เพราะคนมองว่าเป็นคนครึ่งพันธุ์ ไทยก็ไม่ใช่ฝรั่งก็ไม่เชิง แต่บัดนี้ปมด้อยหายไปแล้ว มีแต่ปมเด่น และขายเป็นจุดแข็งกันเอิกเกริก

ความชอบธรรมในทางการเมืองก็มิได้ต่างไปจากนี้ รัฐบาลทักษิณฯ ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนอย่างท่วมท้นสองครั้ง ใครๆ ก็ว่าไม่เคยมีรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งที่มีความ “ชอบธรรม” ขนาดนี้มาก่อน

แต่พอถึงวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ และการปรากฏกายของ คปค. พร้อมกับข้อกล่าวหาต่างๆ อิทธิฤทธิ์ของการชี้ถูกชี้ผิดด้วยปลายกระบอกปืนก็กลับทำให้ “ความชอบธรรม” หายไปกับสายลม กลับตาลปัตรถึงขนาดหลายประเทศที่สนใจเมืองไทยถึงกับงุนงงวิจารณ์แทบไม่ถูก นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เป็นต้น บอกว่าสถานการณ์การเมืองไทยถึงจะดูเรียบๆ ไม่มีความรุนแรง แต่นิวซีแลนด์ก็มองการเมืองในลักษณะนี้ว่าเป็น “เรื่องลบ” แปลว่าวิจารณ์ไม่ถูกว่าไม่ดีตรงไหน รู้แต่ว่าไม่ชอบ

ความชอบธรรมจึงเป็นภาวะที่ยึดถือได้ยาก ถึงนักรัฐศาสตร์จะสอนสั่งกันนักหนาว่ารัฐบาลที่ดีต้องมีสิ่งนี้เป็นเนื้อในอันสำคัญ

หลายท่านจึงไปสนใจที่คำว่า ความเป็นธรรม แทน เพราะคำว่า “เป็น” ที่นำหน้านามมานั้นต่างกับคำว่า “ชอบ” ในขณะที่คำหลังดิ้นไปได้ตลอดเวลาตามอัตตวิสัย คำแรกแสดงภาวะอันถาวรที่ยึดถือได้ แรกเป็นอย่างไรต่อมาก็ยังคงเป็นอย่างนั้น

เป็นธรรมคือภาวะที่ดีแล้วดีเลย ไม่ว่าจะกระทำโดยใครหรือในสถานการณ์ไหนก็ตาม

ดูจะเป็นนิจจังท่ามกลางความเป็นอนิจจังทั้งหลาย

คุณทักษิณฯ จะมีความชอบธรรมหลงเหลือขนาดไหน คงจะวัดและประเมินกันลำบาก แต่เราควรจะอยู่ในฐานะที่ให้ความเป็นธรรมได้

ใช้ข้อเท็จจริงไม่ใช่คำกล่าวอ้าง แยกผิดและถูกออกจากกัน เพราะคนหรือเหตุการณ์ต่างๆ มักมีสภาพไม่ต่างจากเหรียญสองด้าน และอย่าบีบคั้นกระบวนการยุติธรรมด้วยอำนาจลึกลับมากนัก

ไม่ชอบธรรมก็ควรให้ความเป็นธรรมครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะถึงกับ “หลงธรรม” ไปเลย ก็จะยุ่งหนักข้อไปอีก.

----------------------------------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น